หงุดหงิดใส่สื่อ นายกฯ ไม่ตอบปมชูวิทย์ พาดพิง หลานเอี่ยวธุรกิจตู้ห่าว

นายกฯ หงุดหงิด หลังสื่อฯ ไม่สนใจงานวันนี้ ซักถามปม ‘ชูวิทย์’ พาดพิง ‘หลานนายกฯ’ เอี่ยวธุรกิจ ‘ตู้ห่าว’

ระหว่างการลงพื้นที่ จ.สิงห์บุรี ในวันนี้ (6 ม.ค. 66) ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สื่อมวลชนที่ได้ถามถึงบรรยากาศการพบปะเกษตรกรที่ จ.สิงห์บุรี ว่าเป็นอย่างไร

แต่ทางพล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามกลับว่า แล้วพวกเราดูเป็นอย่างไร ก่อนที่จะตอบด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “ฟังก่อน เวลาที่นายกฯ ไปไหน สื่อดูตรงไหนบ้าง สื่อดูหรือไม่ว่าเขาทำอะไรตรงไหน เขาทำอย่างไรรู้หรือเปล่า ฟังตรงนี้ด้วย นายกฯ ไม่ได้โมโห เข้าใจหรือเปล่า”

จากนั้นยังได้ถามสื่ออีกว่า ข้าวรักษ์โลกคืออะไร วันนี้เขาทำกันอย่างไร ด้วยวิธีการไหน และก็บอกอีกว่า “หลักการใหญ่ๆ ไม่ตอบ เธอไม่ต้องตอบแล้ว เธอไม่ฟังอยู่แล้ว ฉันจะไปตอบเธอทำไม ในเมื่อตอบไป เธอก็ไม่รู้เรื่อง”  ก่อนจะย้ำในช่วงท้ายว่า “ฉันไม่ใช่ศัตรูเธอ ฉันพยายามจะไม่หงุดหงิดอยู่แล้ว เข้าใจกันเสียบ้าง”

สื่อมวลชน ถามถึงกรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาพาดพิงว่า บริษัทหลานของนายกรัฐมนตรี มีความเกี่ยวกับธุรกิจเช่ารถของตู้ห่าว ปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามและเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที จากนั้นไปถ่ายรูปกับนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ และแม่ของนายชัยวุฒิ ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับกรุงเทพฯ และเมื่อขึ้นรถแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ยังแสดงอารมณ์หงุดหงิด พร้อมบอกทิ้งท้ายว่า “อย่าให้มีปัญหา ไม่เคยมีปัญหากับสื่ออยู่แล้ว ให้เกียรติซึ่งกันและกัน  สื่อดีๆ ยังมีอีกเยอะ”

สำหรับภารกิจในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สิงห์บุรี โดยมี นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.สิงห์บุรี พรรคพลังประชารัฐ มารอต้อนรับ โดยจังหวัดสิงห์บุรี มี ส.ส.เพียงเขตเดียว

การลงพื้นที่วันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ใส่เสื้อม่อฮ่อมแขนยาว ปักข้อความ “ฅนศูนย์ข้าว” ใช้รถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด สีดำ เลขทะเบียน กง 44 สิงห์บุรี

เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังวัดโพธิ์ศรี ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ประจำจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมไหว้พระนาคปรกที่มีอายุ 700 ปี และปิดทองหลังพระเพื่อความเป็นสิริมงคล

จากนั้นตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าพื้นที่ก่อสร้างพนังกั้นน้ำ ต.น้ำตาล อ.อินทร์บุรี ที่ได้ก่อสร้างไปแล้วกว่า 70 กิโลเมตร ยังเหลืออีก 34 กิโลเมตร ก็จะแล้วเสร็จทั้งหมด ส่วนพนังกั้นน้ำเรียบริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตะวันออก จากประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ถึงชุมชนตำบลน้ำตาล ระยะทาง 15 กิโลเมตร คืบหน้าไปแล้วกว่า ร้อยละ 85 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนน้ำตาล บรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน