“สมคิด” ปัดกู้เงิน 1 ล้านล้านบาทกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 3 แจงตัดงบจากทุกกระทรวง

ครม.นัดพิเศษเห็นชอบหลักมาตรการกระตุ้นศก.ชุด 3 วงเงิน 10% ของจีดีพี ผ่านพ.ร.ก.กู้เงิน ของกระทรวงการคลังเตรียมเสนอครม.7 เม.ย.นี้ “สมคิด” เผยมีมาตรการดักหน้าเสมอไม่ให้เศรษฐกิจหยุดชะงักช่วง 3-4 เดือนข้างหน้า

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 3 เมษายนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.นัดพิเศษ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติเห็นชอบในหลักการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 3 วงเงินดำเนินการทั้งสิ้นประมาณ 10% ของจีดีพี ภายใต้การออก พ.ร.ก. 3 ฉบับ คือ พ.ร.ก.ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 2 ฉบับ และพ.ร.ก.กู้เงินของกระทรวงการคลัง 1 ฉบับ

ทั้งนี้ การออกพ.ร.ก.กู้เงินของกระทรวงการคลัง จะเป็นเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดงบประมาณของแต่ละกระทรวงว่าจะได้ทั้งหมดเท่าไหร่ ขณะเดียวกัน นอกจากการกู้เงิน การตัดงบที่ไม่จำเป็นจากกระทรวงต่างๆ 10% แล้ว ยังมาจากส่วนของงบประมาณด้วย โดยอยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่า จะเสนอให้ครม.อนุมัติได้ในวันที่ 7 เม.ย.นี้

ส่วนที่มีกระแสข่าวเรื่องมีการจะกู้เงิน 1 ล้านล้านบาทนั้น นายสมคิด ุถามกลับว่า “ไปเอาข่าวมาจากไหน” เพราะเบื้องต้น เราจะใกล้เคียงกับประเทศอื่นทำ หรือใกล้เคียง 10% ของจีดีพี อาจมากหรือน้อยกว่านั้น แต่วงเงินมาจากหลายส่วน โดยเชื่อว่า มาตรการดังกล่าว จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและภาคธุรกิจ และเราจะสามารถก้าวข้ามวิกฤตินี้ไปได้

ขณะที่ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกลุ่มที่จะเข้าไปดำเนินการ 3 กลุ่ม ประกอบด้วย

1.ดูแลภาคประชาชน กลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคม และลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ โดยลดภาระผ่อนสินเชื่อเพิ่มเติมของกลุ่มสถาบันการเงินของรัฐ เนื่องจาก มีประชาชนจำนวนมากใช้บริการ รวมถึงขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินกลุ่มดังกล่าว

2. ดูแลโครงสร้างเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงงบประมาณที่จะใช้ในการต่อสู้โควิด-19 ด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากปัจจุบันมีแรงงานกลับสู่พื้นที่ และเมื่อเหตุการณ์ดีขึ้น สภาพเศรษฐกิจ การทำธุรกิจอาจเปลี่ยนไป รวมถึงอาจมีคนจำนวนหนึ่งที่ยังอยู่ในพื้นที่ ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการรองรับเพื่อดำเนินการได้ทัน รวมถึงดูแลการลงทุนภาครัฐเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมในพื้นที่ทั่วประเทศ

3. กลุ่มผู้ประกอบการ ที่มีภาระการกู้ยืม หรือการต้องการเงินเพื่อเสริมสภาพคล่อง

“ในการกู้เงินนั้น เป็นการกู้เพิ่มเติม ตัวเลข 10% ของจีดีพี ไม่ใช่ว่าเราจะกู้ทั้งหมด เพราะขณะนี้เราได้ประสานกับสำนักงบประมาณแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง เพื่อใช้ในการดูแลเศรษฐกิจ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19” นายอุตตม กล่าว