ตั้งด่านถนนกลางทุ่งนาเพราะห่วง สถิติฟ้องสายรองคนตายมากผิดปกติ

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก สถานีตำรวจ สภ.กุสุมาลย์ ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านบนถนนสายรอง บ้านบอน-บ้านเมืองเก่า ต.นาโพธิ์ อ.กุสุมาลย์ โดยสองฝั่งถนนเต็มไปด้วยท้องนา พร้อมระบุข้อความขออภัยในความไม่สะดวก ถนนดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ จึงแนะนำให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหมวกนิรภัย และคาดเข็มขัดนิรภัย ภายหลังมีการแชร์ภาพดังกล่าวออกไปมีบางส่วนวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมในการไปตั้งด่านจุดดังกล่าว

พลตำรวจตรีนิพนธ์ พานิชเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร

วันที่ 27 พ.ย. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร พลตำรวจตรีนิพนธ์ พานิชเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ชี้แจงว่าสาเหตุที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุสุมาลย์ออกไปปฏิบัติหน้าที่บริเวณนั้น มาจากเป็นคำสั่งของตนเองที่ได้ประชุมร่วมหลายฝ่ายในจังหวัด เนื่องจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นจนน่าตกใจ เดือนตุลาคมเสียชีวิต 31 ราย และเดือนนี้พฤศจิกายนยังไม่หมดสิ้นเดือน เสียชีวิตไปแล้ว 35 ราย โดยเฉพาะในถนนสายรองเป็นถนนที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น จากการประชุมหลายฝ่ายจึงต้องให้มีการลงไปคุมเข้มในถนนสายรองมากยิ่งขึ้น ตำรวจในทุก สภ.จึงต้องปฏิบัติตามคำสั่ง โดยเฉพาะจุดที่มีการเกิดอุบัติเหตุทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต

ส่วนจุดที่ตำรวจ สภ.กุสุมาลย์ ได้ไปปฏิบัติหน้าที่ บริเวณนั้นมีอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นชาย อายุ 18 ปี ใช้ความเร็วสูงแล้วแหกโค้งไปชนกับเสาไฟเสียชีวิต สาเหตุไม่สวมหมวกนิรภัยและใช้ความเร็ว ก่อนที่ตำรวจจะไปตั้งจุดตรวจทาง อบต.ในพื้นที่รับผิดชอบได้นำป้ายไปติดเตือนแล้วว่าเป็นโค้งอันตราย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ก็ไปปฏิบัติงาน โดยหากพบผู้กระทำความผิดกฎวินัยจราจร เช่น ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ก็มีแค่ตักเตือนเท่านั้น ไม่ได้มีการออกใบสั่งแต่อย่างใด และวันดังกล่าวก็มีรถเพียง 1-2 คัน เท่านั้นที่ขับผ่าน จึงอยากชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบด้วยไม่ใช่ว่าตำรวจจะจ้องจะปรับอย่างเดียว ไม่เว้นแม้กระทั่งทางไปหมู่บ้านตามที่ชาวโซเซียลมีเดียได้ติติง

“เราเป็นห่วงประชาชนมากกว่าไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้งประชาชน หรือหากว่าวันดังกล่าวมีใครโดนเรียกตรวจและมีการออกใบสั่งแจ้งมาที่ตนได้ เพราะข้อเท็จจริงคือไม่ได้มีการจับปรับแต่อย่างใด”