ผบ.ตร.เสียใจ “ร.ต.อ.” ยิงตัวตายเพราะถูกย้ายไปงานที่ไม่ถนัด

กรณี ร.ต.อ.พิเชษฐ์ สุชาติพงษ์ อายุ 48 ปี ก่อเหตุยิงตัวเองเสียชีวิตภายในบ้านพักใน อ.ปะทิว จว.ชุมพร พร้อมเขียนระบายความในใจที่ถูกย้ายจากตำแหน่งฝ่ายงานป้องกันปราบปรามให้ไปอยู่ฝ่ายสืบสวนอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม

วันที่ 27 มิ.ย.พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่สูญเสียผู้ใต้บังคับบัญชาไปโดยที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เบื้องต้นขอไปตรวจดูเรื่องคุณสมบัติ,คุณวุฒิ ของ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ ก่อน ถ้าไม่จบเกี่ยวกับกฎหมาย งานสอบสวนแต่ถูกย้ายไปก็ต้องให้ความเป็นธรรม พร้อมระบุต่อไปต้องกำชับให้นโยบายว่าหากจะมีการโยกย้ายสายงานก็ต้องตรงตามที่มีความวิชาความรู้ความสามารถ ใครที่ผ่านสายงานปราบปรามก็ต้องให้ไปตรงสายงานนั้น ไม่ใช่ย้ายไปสายที่ไม่เกี่ยวข้องเตะกันไปมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ อดีตเป็นตำรวจชั้นประทวนยศ จ่าสิบตำรวจ (จ.ส.ต.) ตำแหน่ง ผบ.หมู่ฝ่ายป้องกันปราบปราม สภ.มาบอำมฤต ก่อนสอบติดตำรวจชั้นสัญญาบัตรตำแหน่งรองสารวัตรป้องกันปราบปราม (รองสวป.) กระทั่งถูกโยกย้ายไปอยู่ในตำแหน่ง รอง สว.(สอบสวน) จนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

สำหรับเหตุการณ์ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ ยิงตัวเองเสียชีวิต เกิดขึ้น เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 26 มิ.ย. โดยตำรวจรับแจ้งเหตุ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ สุชาติพงษ์ อายุ 48 ปี ยิงตัวเองนอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่นอน มือขวากำปืนสั้นขนาด 9 มม.ยี่ห้อกล๊อค กระสุนในรังเพลิงถูกยิงออกไปแล้ว 1 นัด บนหัวเตียงนอนมีวิทยุสื่อสารวางอยู่ 1 เครื่อง

นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังพบสมุดบันทึกที่ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ เขียนข้อระบายไว้ 3 หน้ากระดาษ โดยระบุถึงสาเหตุที่ต้องยิงตัวตามมาจากคำสั่งที่ถูกย้ายจากงานสายป้องกันและปราบปรามไปอยู่ในตำแหน่งงานสอบสวนอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม ความอัปยศต่างๆ ในแวดวงสีกากีและเส้นสายในการวิ่งเต้นโยกย้ายในตำแหน่ง จนตำรวจดีๆ ต้องหมดหวังหมดกำลังใจ เจ้าหน้าจึงเก็บสมุดบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกำส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล

จากการสอบสวนทราบว่าช่วงเกิดเหตุ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ ออกเวรกลับจาก สภ.มาบอำมฤต แล้วเดินทางกลับเข้าบ้านหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เข้าไปเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องนอนเพียงคนเดียวโดยชั้นบนของบ้านได้ปิดไฟมิดสนิท ขณะลูกสาวคนโตอายุ 14 ปี เรียนชั้น ม.1 นั่งทำการบ้านอยู่บริเวณชั้นล่าง ส่วนภรรยาและลูกชายวัย 9 ขวบ เดินออกไปหาพี่ชายซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 400 เมตร ไม่นานมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แต่เสียงไม่ดังมากนักลูกสาวที่นั่งทำการบ้านอยู่เข้าใจว่าเป็นเสียงรถท่อรถจักรยานยนต์ ต่อมาจึงเอะใจว่าทำไม่พ่อปิดไฟในห้องและชั้น 2 บนบ้านทั้งหมดจนมืดสนิท จึงโทรศัพท์ไปบอกแม่ให้รีบกลับมาดู และเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปดูก็พบว่า ร.ต.อ.พิเชษฐ์ ยิงตัวตายดังกล่าว

ภรรยาของ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ ได้กล่าวเสียงดังต่อหน้า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ว่าสามีเกิดความเครียดในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาหลังมีคำสั่งย้ายจากตำแหน่งรองสารวัตรป้องกันและปราบปราม ไปอยู่ตำแหน่งรองสารวัตรสอบสวน เป็นการย้ายตำรวจจากงานถนัดไปอยู่งานที่ไม่ถนัดไม่เคยสอบถามใดๆ ทั้งสิ้น คิดจะย้ายใครไปอยู่ตรงไหนก็ย้ายโดยรู้ถึงปัญหา ตนขอตัดขาดจากวงการตำรวจอย่างเด็ดขาดจะไม่ขอเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น ขณะที่ พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ยืนฟังด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพร้อมกล่าวปลอบใจและให้กำลังใจ