ตำรวจติดต่อขอข้อมูลนักแสดงไต้หวัน ตรวจสอบข้อเท็จจริงปมถูกเรียกเงิน

โฆษกตำรวจเผยติดต่อขอข้อมูลนักแสดงสาวไต้หวันทุกช่องทาง พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเกิดเหตุรีดทรัพย์จริงหรือไม่  หากผิดพร้อมลงโทษตามกฎหมาย

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีนักแสดงชาวไตหวันระบุว่าถูกตำรวจค้นตัวเรียกเงินระหว่างเดินทางมาประเทศไทย ว่า เบื้องต้นทราบตัวนักแสดงดังกล่าวแล้ว และได้ติดต่อผ่านช่องทางผ่าน Instagram และ Facebook เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ  และประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทยแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับเช่นกัน

เบื้องต้นมีข้อมูลว่านักแสดงคนดังกล่าวเดินทางเข้าประเทศไทยในวันที่ 29 ธันวาคม 2565 เดินทางออกในวันที่ 5 มกราคม 2566 และมีการเช็คอินห้องพักโรงแรมย่านทองหล่อ ขณะโดยสารด้วยรถตู้เอนกประสงค์ ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานให้คนขับเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม และได้ประสานที่พักตรวจสอบว่านักแสดงสาวเข้าพักที่โรงแรมจริงหรือไม่ รวมทั้งให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล  กองบังคับการตำรวจจราจร และ สน. ทองหล่อ ที่ปกติจะมีการตั้งด่านทั้งความมั่นคงและตรวจวัดแอลกอฮอล์อยู่แล้ว เพื่อให้ตรวจสอบว่ามีการตั้งด่านในช่วงเวลาที่นักแสดงสาวดังกล่าวอยู่ในประเทศไทยในพื้นที่ใดบ้าง โดยเน้นไปจุดที่มีคนต่างชาติพักอาศัย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ ทองหล่อ ห้วยขวาง ลุมพินี 

พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบอย่างรอบคอบ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในทุกมิติ  และพบว่าเป็นการเช็คอินหลังเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว แต่หากตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่กระทำผิดจริงสามารถดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ได้เลย โดยไม่ต้องรอผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์แจ้งความ ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังได้สั่งการให้ตรวจสอบเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติในกรณีอื่น ๆ อีกด้วย

นายกฯ สั่งติดตามตรวจสอบกรณีนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน ย้ำตรวจสอบทุกกระบวนการ 

ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบกรณีนักท่องเที่ยวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกเงิน ซึ่งได้สั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งติดตามและตรวจสอบกรณีดังกล่าว พร้อมเน้นย้ำให้มีการตรวจสอบอย่างรอบคอบในทุกขั้นตอน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว

ขณะนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางของนักท่องเที่ยวเบื้องต้นแล้ว โดยอยู่ระหว่างการประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจจราจร และ สถานีตำรวจนครบาล โดยเน้นไปยังจุดที่มีคนชาวต่างชาติพักอาศัยและเป็นสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ ทองหล่อ ห้วยขวาง ลุมพินี ซึ่งมีการตั้งด่าน ทั้งความมั่นคงและตรวจวัดแอลกอฮอล์ เพื่อตรวจสอบและให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป หากพบการกระทำความผิดจริง สามารถดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ได้ทันที โดยไม่ต้องรอผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์แจ้งความ

“นายกรัฐมนตรี สั่งการเน้นย้ำให้มีการตรวจสอบโดยละเอียดในทุกขั้นตอนอย่างโปร่งใส ซึ่งหากพบเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกระทำความผิดจริง จะต้องดำเนินคดีและลงโทษทางวินัยไม่มีข้อยกเว้น พร้อมกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทุกหน่วย เจ้าหน้าที่ทุกระดับ ยึดมั่นการปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รับผิดชอบ ยึดตามกฎระเบียบ และหลักเกณฑ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ไม่ทำให้เสียบรรยากาศการท่องเที่ยว และชื่อเสียงการเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย” นายอนุชาฯ กล่าว