ตร.ไม่ปักใจเชื่อรองเท้าติดเบรก เหตุกระบะแหกโค้งชนนิสิต ม.เกษตร เจ็บเพียบ ด้านผู้ก่อเหตุเครียดจัด

ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบรถกระบะแหกโค้งใน ม.เกษตรศาสตร์ ทำนิสิตเจ็บ 5 ในจำนวนนี้สาหัส 1 เบื้องต้นไม่พบรองเท้าแตะ ผู้ก่อเหตุอ้างนำกลับไปไว้บ้านแล้ว ส่วนผลเลือดไม่พบสารเสพติดและแอลกอฮอล์ ด้านผู้ก่อเหตุร้องไห้ตลอดเวลา

วันนี้ (25 ต.ค. 2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สน.บางเขน ผู้เชี่ยวชาญการตรวจสภาพรถยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าตรวจสภาพรถกระบะฟอร์ดเรนเจอร์ สีเทา ของ นายรัฐวิทย์ สราวุธวินัย อายุ 37 ปี เพื่อหาสาเหตุของการเสียหลักแหกโค้งพุ่งชนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (บางเขน) ทำให้นิสิตได้รับบาดเจ็บ 5 คน ซึ่งคนขับอ้างว่า รองเท้าแตะไปขัดอยู่ที่ใต้แป้นเบรก จึงทำให้เบรกไม่ได้ รวมถึงตรวจสภาพรถจักรยานยนต์ 3 คัน ที่ผู้บาดเจ็บขี่มาจนถูกชน

พ.ต.ท.ธนาพันธ์ ผดุงการ รอง ผกก.สน.บางเขน กล่าวว่า จะมีการตรวจบริเวณรอบรถ และภายในห้องโดยสาร โดยเฉพาะบริเวณคันเร่งและเบรก เพื่อนำมาตรวจสอบว่าตรงกับคำให้การไว้หรือไม่ เบื้องต้นไม่พบรองเท้าแตะในรถ โดยผู้ต้องหาได้นำกลับไปไว้ที่บ้านแล้ว

ส่วนการทดลองระบบเบรกของรถก็ไม่พบความผิดปกติ ดังนั้น อุบัติเหตุดังกล่าวจะเกิดขึ้นจากรองเท้าแตะ หรือสิ่งอื่น ก็ยังเข้าข่ายในข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้มีทรัพย์สินเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส รวมถึงจะมีการไล่กล้องวงจรปิดการขับขี่ของรถคันดังกล่าว ว่าขับขี่มาเร็วขนาดไหน

จากการสอบปากคำนายรัฐวิทย์ คนขับรถกระบะ ให้การว่า ขับมาด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุไม่สามารถควบคุมรถได้ เนื่องจากเบรกไม่ทำงาน ซึ่งคาดว่ารองเท้าแตะที่ถอดไว้ไปขัด ทำให้ไม่สามารถเหยียบเบรกได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการสอบปากคำ นายรัฐวิทย์ร้องไห้ตลอดเวลา เพราะเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งมีอาการเครียดถึงขั้นคิดจะฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่และญาติพยายามพูดคุยให้อาการดีขึ้น ให้คิดบวกไว้ เพราะคดียังไม่จบ

ขณะที่ผลการตรวจเลือดไม่พบระดับแอลกอฮอล์และสารเสพติด และเนื่องจากผู้ก่อเหตุได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง หลังแจ้งข้อหาแล้วได้ปล่อยตัวไปโดยไม่ต้องประกันตัว

ส่วนการสอบปากคำผู้บาดเจ็บ ได้สอบไปแล้ว 4 คน ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน ซึ่งเป็นนิสิตชายปี 3 ที่ยังมีอาการสาหัสจากเลือดออกในสมอง พักรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU จึงยังไม่สามารถสอบปากคำได้

ขั้นตอนหลังจากนี้จะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์รถประมาณ 2 สัปดาห์ และผลการตรวจจากโรงพยาบาลว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บได้รับบาดเจ็บระดับไหน ก่อนจะสรุปสำนวนการสอบสวนส่งให้พนักงานอัยการอีกครั้ง

ขณะที่กรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางมาสอบถามผลคดีกับพนักงานสอบสวน เพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย กรณีบาดเจ็บด้วย