ก.ตร.เคาะ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล นั่ง ผบ.ตร. คนที่ 14

มติก.ตร.ให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. คนใหม่ ต่อจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ที่จะเกษียณอายุราชการ 30 ก.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในวันนี้ (27 ก.ย. 66) ใช้เวลาประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง

(ภาพจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)

หลังเสร็จสิ้นการประชุมนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะประธาน ก.ตร. ได้เดินลงมาจากห้องประชุมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมยกมือทักทายสื่อมวลชนแต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ เมื่อถูกถามว่าใครเป็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ นายเศรษฐา ยกนิ้วโป้งให้แต่ไม่ตอบคำถามและเดินทางกลับทันที

ขณะที่ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.คนปัจจุบัน หลังส่งนายกรัฐมนตรีขึ้นรถแล้ว ก็เดินกลับสำนักงาน โดยไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเช่นกัน บอกเพียงว่า ให้โฆษกเป็นผู้แถลงข่าว

เวลาต่อมา พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวว่า ที่ประชุมก.ตร.มีเคาะแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่ ลำดับที่ 14 แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ เพราะอยู่ในขั้นตอนธุรการ และจะต้องนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ตามขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป โดยจะดำเนินการไม่ล่าช้า คาดว่าพร้อมประกาศชื่อ ผบ.ตร.คนใหม่ ภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก.ตร.พิจารณาคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ในครั้งนี้ ยึดตามหลักอะไร โฆษก ตร. ตอบว่า ที่ประชุมได้พิจารณาความอาวุโสและประสบการณ์ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมระหว่างการประชุม ก.ตร. มีกระแสข่าวออกมาว่า ที่ประชุมแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 เป็นรักษาการผบ.ตร แต่เวลาต่อมาผ่านไป 1 ชั่วโมง เมื่อผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบกับคณะกรรมการในที่ประชุม ได้รับแจ้งว่า จะมีการลงมติเลือก ผบ.ตร. คนใหม่ ภายในวันนี้ โดยได้เชิญแคนดิเดต ผบ.ตร 2 คน ออกจากห้องตามธรรมเนียมปฏิบัติ

มีรายงานข่าวจากห้องประชุมว่า ที่ประชุมก.ตร มีมติ 9:1 ให้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ดำรงตำแหน่งผบ.ตร. คนที่ 14 โดยนายกฯ ‘เศรษฐา’ ได้งดออกเสียง เนื่องจากเป็นผู้เสนอชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งผบ.ตร และในฐานะประธาน ก.ตร.

คณะกรรมการ ก.ตร. มีทั้งหมด 12 คน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ลาประชุม

[ประวัติโดยสังเขป]

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล มีชื่อเล่นว่า ต่อ เกิดวันที่ 27 มกราคม พ.ศ.2507 ปัจจุบันอายุ 59 ปี จบมัธยมศึกษาจากโรงเรียนโยธินบูรณะ ปริญญาตรีรัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สิงห์แดงรุ่น 38 ปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณทิต จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม

ก่อนเข้ารับราชการตำรวจ เมื่อปี พ.ศ.2540 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เคยเป็นพนักงานบริษัทน้ำมันคาลเท็กซ์ ก่อนตัดสินใจลาออกเดินหน้าตามความฝันอยากเป็นตำรวจ ด้วยการเข้าหลักสูตรการฝึกอบรมผู้มีวุฒิ ทางด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ เพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (กอต.) รุ่นที่ 4

ปี พ.ศ.2561 เป็น ‘ผู้บังคับการ’ คนแรกของหน่วยงานใหม่ ‘กองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ’

จากนั้นขยับขึ้นเป็น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รองผบช.ก.) เป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วยผบ.ตร.) และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) รับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จะเกษียณอายุราชการ ในปี พ.ศ. 2567 และเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร. ที่มีอาวุโสเป็นอันดับ 4

นายกฯ ‘เศรษฐา’ นั่งหัวโต๊กประชุมก.ตร. แต่งตั้ง ‘ผบ.ตร.’ คนที่ 14