SHARE

คัดลอกแล้ว

โฆษกกอร. เผยควบคุมผู้ชุมนุม กลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022 รวม 25 คน ขอตรวจสอบปมใช้ ‘กระสุนยาง’ ก่อนชี้แจง พร้อมระบุจะแนะนำ 3 ข้อปฏิบัติของสื่อมวลชน เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจรการประชุมเอเปค 2565 (โฆษก กอร.) แถลงข่าวและตอบคำถามจากสื่อมวลชน เกี่ยวกับประเด็นการดูแลความสงบเรียบร้อยกลุ่มผู้ชุมนุมในนาม ราษฎรหยุด APEC 2022 ในวันนี้ (18 พ.ย. 65) เวลา 14.30 น.

โดยสรุป พล.ต.ต. ระบุว่า กลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022 หลังจากอยู่ที่ลานคนเมืองยอดผู้ชุมนุม 350 คน ได้เคลื่อนขบวนเพื่อเดินทางไปยื่นข้อเรียกร้องต่อการประชุมเอเปค โดยเคลื่อนขบวนฝ่าฝืนข้อกำหนดและเงื่อนไข ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เจรจาและแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ชุมนุมทราบอย่างต่อเนื่อง สำหรับการเจรจาดังกล่าวนั้นเจ้าพนักงานดูแลชุมนุมสาธารณะ สน.สำราษราษฎร์ ได้มีคำสั่งที่ 115/2565 ลงวันที่ 17 พ.ย. 65 ในการกำหนดเงื่อนไขคำสั่งการเดินขบวนหรือเคลื่อนย้ายการชุมนุม โดยผู้ฝ่าฝืนมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และได้มีหนังสือแจ้งการฏิบัติในการชุมนุมสาธารณะให้ตัวแทนทราบตามประกาศดังกล่าวแล้ว ตลอดจนได้ชี้การกระทำที่อาจกระทำผิดกฎหมายอาญาอื่นๆ ด้วย

ต่อมาผู้ชุมนุมได้ฝ่าฝืน โดยเคลื่อนขบวนมาถึงถนนดินสอ เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องเสียงประกาศเจรจาแจ้งเตือน ปรากฏว่า กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยิมยอมและฝ่าฝืนกฎหมาย โดยได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ขว้างปาก้อนหิน สิ่งของ ทำลายรถกระบะทางราชการเสียหาย มีการใช้กำลังต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ตำรวจจึงมีความจำเป็นต้องใช้กำลังป้องกันตนเอง และทำการจับกุมผู้กระทำความผิดเหตุซึ่งหน้าดังกล่าว

เวลาประมาณ 12.30 น. ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมจุดไฟวางเพลิงเผาทรัพย์บนรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจำเป็นต้องเข้าคลี่คลายสถานการณ์ เร่งเข้าดับเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ ไม่ให้เกิดอันตรายต่อประชาชนหรือบุคคลอื่นๆ และทำการจับกุมตัวกรณีดังกล่าว โดยมีการจับกุมผู้ต้องหาในขณะนี้ รวม 25 คน ดำเนินคดีในพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558 ทำให้ทรัพย์ทางราชการเสียหาย วางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ร.บ.รักษาความสะอาด และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง

ส่วนกรณีปรากฏว่ามีสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้กำหนดแผนการดูแลสื่อมวลชน โดยมีข้อแนะนำ ดังนี้ 1. ให้มีการลงทะเบียนสื่อมวลชน 2. กำหนดสัญลักษณ์โดยมีปลอกแขนสื่อหรือแสดงสัญลักษณ์ 3. กำหนดพื้นที่ปลอดภัยเพื่อความปลอดภัยของสื่อและไม่รบกวนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จุดนี้ 3 ข้อจะได้มีการประชาสัมพันธ์ และแนะนำสื่อให้มีความเข้าใจให้การปฏิบัติไม่มีปัญหา และเกิดการบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน

สำหรับผู้บาดเจ็บ พล.ต.ต.อาชยน ชี้แจงดังนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ 5 นาย ผู้ชุมนุม มีการบาดเจ็บที่บริเวณคิ้วข้างขวา และผู้สื่อข่าว ซึ่งแพทย์ดูแลรักษาอยู่ โดยกำลังตรวจสอบว่ามีผู้ชุมนุมบาดเจ็บมากน้อยเพียงใดเพิ่มเติม

“สถานการณ์ในภาพรวมวันนี้ทางตำรวจมีความจำเป็นในการควบคุมสถานการณ์เพื่อป้องกันเหตุในบางกรณีอาจจะมีภาพที่ปรากฏในเรื่องการกระทบกระทั่งจนเกิดการได้รับบาดเจ็บหรือถ้าเกิดมีภาพที่เป็นสิ่งที่เห็นว่าผู้ชุมนุมได้รับการกระทำ ในแต่ละกรณีไปทางตำรวจเราก็จะต้องมีการดูว่าแต่ละกรณีนั้นเป็นอย่างไร ทุกๆ อย่างจะเปิดเผยกับทั้งประชาชนและสื่อมวลชนทุกประเด็น” โฆษก กอร. กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการประเมินสถานการณ์ถึงจุดใด จึงมีการใช้กระสุนยางและระเบิดควัน ในการควบคุมสถานการณ์วันนี้ พล.ต.ต.อาชยน ตอบว่า เรื่องนี้เป็นหลักที่อยู่หน้างาน ในเรื่องที่ผู้ชุมนุมได้กระทำการอย่างใด ที่จะต้องทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้ ถ้าตอบตรงนี้เราอาจจะไม่ได้เห็นมุมมองทุกอย่างของสถานการณ์ขอให้ได้พิจารณา โดยปัจจุบันได้มีกล้องภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และภาพจากสื่อมวลชนมากมายที่บันทึกภาพไว้ ตรงนี้ต้องนำมาดูกันว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้อุปกรณ์กับผู้ชุมนุม

เมื่อถามอีกว่ากรณีการใช้กระสุนยางมีมาตรฐานอย่างไร เพราะมีผู้บาดเจ็บที่ดวงตา พล.ต.ต.อาชยน ตอบว่า ขอดูข้อเท็จจริงก่อนว่า ผู้ถูกยิงเป็นอย่างไร ขณะนั้นอยู่อย่างไร ขอไปดูตรวจสอบ

เมื่อถาม เศษแก้ว ซึ่งไม่ได้อยู่ในอุปกรณ์ที่ตำรวจจะใช้ได้ตามหลักสากลจะชี้แจงอย่างไร พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า ตรงนี้ขอไปตรวจสอบ แต่ทุกอย่างที่มีการบันทึก ทุกอย่างที่มีเรื่องของการดำเนินการ มีคนเจ็บก็ต้องมีสอบสวน ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กระจ่าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเข้าควบคุมสถานการณ์การชุมนุมครั้งนี้รวดเร็วกว่าทุกๆ ครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ โฆษกกอร. ชี้แจงว่า สถานการณ์ทุกอย่างไม่ได้พิจารณาเรื่องเวลา หรือสิ่งใดอย่างเดียว แต่เป็นการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามยุทธวิธี

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีผู้ชุมนุมถูกจับกุมแล้วแต่ถูกตำรวจเบางคนข้ามาทำร้ายโดยที่เพื่อนตำรวจต้องช่วยกันห้ามตรงนี้เป็นการทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ พล.ต.ต.อาชยน ตอบว่า ทุกเหตุการณ์จะต้องมีคำตอบ จุดนี้เหตุการณ์เพิ่งเกืดขึ้นได้สักพักใหญ่ๆ ต้องมีคำตอบให้สื่อมวลชนและประชาชนต่างๆ ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ แต่อยากจะให้มองให้ภาพใหญ่ว่า การรักษาความสงบเรียบร้อย ผู้ชุมนุมหรือผู้เข้าร่วมชุมนุม ต้องชุมนุมโดยสงบ เคลื่อนที่โดยสงบ ใช้การประชาสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ด้วยการพูดคุย แต่ถ้าเริ่มด้วยการก่อความไม่สงบ โดยเฉพาะช่วงสุดท้ายที่มีการเผาวางเพลิงทรัพย์สินทางราชการ แต่ประเด็นย่อยๆ จะรับไปตรวจสอบและจะชี้แจงโดยไม่ชักช้า

ภาพจาก : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า