Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สรุป ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย ‘5 อดีตแกนนำ กปปส.’ พ้นสภาพ ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ

วันที่ 8 ธ.ค. 2564 ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยสมาชิกภาพ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของ 5 อดีตแกนนำกปปส. สิ้นสุดลง

– นายชุมพล จุลใส

– นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์

– นายอิสสระ สมชัย

– นายถาวร เสนเนียม

– นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2564 ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุก ทั้ง 5 คน ในคดีกบฎ กปปส. และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายชุมพล, นายอิสสระและนายณัฏฐพล (จำเลยที่ 1,3,5) มีกำหนด 5 ปีนับแต่วันมีคำพิพากษา โดยศาลอาญาออกหมายจำคุกระหว่างอุทธรณ์ฎีกาและขังผู้ถูกร้องทั้ง 5 รายที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ต่อมาทั้ง 5 รายได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์

(ภาพจาก YouTube ศาลรัฐธรรมนูญ 8 ธ.ค. 2564 จำเลยที่ 2,3,4 มาศาล ส่วนจำเลยที่ 1 และ 5 ส่งตัวแทนมา)

สรุปคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้สมาชิกภาพ ส.ส. ของผู้ถูกร้องที่ 1,3,5 คือ นายชุมพล, นายอิสสระและนายณัฏฐพล สิ้นสุดลง

และสมาชิกภาพ ส.ส. ของผู้ถูกร้องที่ 2,4 นายถาวร และ นายพุทธิพงษ์ สิ้นสุดลง นับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ วันที่ 7 เม.ย. 2564

สำหรับ สมาชิกสภาพ ส.ส. ของผู้ถูกร้องที่ 1,2,3,4 ในว่างลงตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. 2564 ที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย ส่วนผู้ถูกร้องที่ 5 ลาออกไปก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคพลังประชารัฐ จะต้องเลื่อนลำดับ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ขึ้นมาแทน นายอิสสระ และ นายพุทธิพงษ์

อีกทั้ง จะต้องจัดการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต ในเขต 1 ชุมพร (นายชุมพล) และ เขต 6 สงขลา (นายถาวร)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดใจ ‘ถาวร เสนเนียม’ ก่อนถึงวันชี้ชะตา สถานภาพ ส.ส. ‘5 อดีตแกนนำกปปส.’

คณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (4) (6) และมาตรา 96 (2) หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 7/2564)

คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ร้อง ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณี นายชุมพล จุลใส ผู้ถูกร้องที่ 1 นายพุทธิพงษ์  ปุณณกันต์ ผู้ถูกร้องที่ 2 นายอิสสระ สมชัย ผู้ถูกร้องที่ 3 นายถาวร เสนเนียม ผู้ถูกร้องที่ 4 และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ผู้ถูกร้องที่ 5 เนื่องจากศาลอาญามีคำพิพากษาในคดีอาญา หมายเลขแดงที่ อ 317/2564 ลงโทษจำคุกผู้ถูกร้องทั้งห้า และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้ถูกร้องที่ 1 ผู้ถูกร้องที่ 3 และผู้ถูกร้องที่ 5  มีกำหนดห้าปีนับแต่วันมีคำพิพากษา โดยศาลอาญาออกหมายจำคุกระหว่าง อุทธรณ์ฎีกาและขังผู้ถูกร้องทั้งห้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย

ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสี่ และมาตรา 17 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 และขอให้มีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้งห้าหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องเฉพาะในส่วนที่ขอให้วินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องทั้งห้าสิ้นสุดลงไว้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 8 วรรคสี่ประกอบวรรคหนึ่ง และมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้งห้าหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ 7 เมษายน 2564 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง ผู้ถูกร้องทั้งห้า ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาดังกล่าวรวมไว้ในสำนวน และเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง

และกำหนดประเด็นที่ต้องพิจารณาวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องทั้งห้าสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (4) (6) และมาตรา 96 (2) หรือไม่ นับแต่เมื่อใด

ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยว่า ผู้ถูกร้องที่ 1 ผู้ถูกร้องที่ 3 และผู้ถูกร้องที่ 5 ต้องคำพิพากษาของศาลอาญาให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของผู้ถูกร้องที่ 1 ผู้ถูกร้องที่ 3 และผู้ถูกร้องที่ 5 จึงสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (4) (6) และมาตรา 96 (2)

นับแต่วันที่ 7 เมษายน 2564  ซึ่งเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ผู้ถูกร้องที่ 3 และผู้ถูกร้องที่ 5 หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง

ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติโดยเสียงข้างมาก (6 ต่อ 3) วินิจฉัยว่า ผู้ถูกร้องทั้งห้าต้องคำพิพากษา ของศาลอาญาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาลอาญา  เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของผู้ถูกร้องทั้งห้าจึงสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (4) (6) และมาตรา 96 (2) นับแต่วันที่ 7 เมษายน 2564  ซึ่งเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้งห้าหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง

เมื่อสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องที่ 1 และผู้ถูกร้องที่ 4 สิ้นสุดลง ทำให้ มีตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งว่างลงและต้องดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อจัดให้มี การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่างภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ตำแหน่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 105 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 102 จึงให้ถือว่าวันที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลง คือ วันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟังโดยชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 76 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติให้คำวินิจฉัยของศาลมีผลในวันอ่าน คือ วันที่ 8 ธันวาคม 2564

เมื่อสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องที่ 2 และผู้ถูกร้องที่ 3 สิ้นสุดลง ทำให้มีตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อว่างลง ประธานสภาผู้แทนราษฎรต้องประกาศ ให้ผู้มีชื่ออยู่ในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองนั้นเลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แทนตำแหน่งที่ว่างลง โดยต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ตำแหน่งนั้นว่างลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 105 วรรคหนึ่ง (2) จึงให้ถือว่าวันที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลง คือ วันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟังโดยชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 76 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติให้คำวินิจฉัยของศาลมีผลในวันอ่าน คือ วันที่ 8 ธันวาคม 2564

สำหรับกรณีสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องที่ 5 ว่างลงนับแต่เมื่อใดนั้น เห็นว่า ผู้ถูกร้องที่ 5 มีหนังสือขอลาออกจากตำแหน่ง ต่อมามีประกาศสภาผู้แทนราษฎร ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ให้ผู้มีชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐเลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 115 วรรคหนึ่ง (2) ในวันดังกล่าวแล้ว จึงไม่จำต้องวินิจฉัย

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า