รมช.กห. เผยมีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้ามาอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราวกว่า 2,000 คน ยันดูแลจนสถานการณ์สงบแล้วส่งกลับ เข้มมาตราการคัดกรองโควิด
วันที่ 20 ธ.ค. 2564 ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) กล่าวถึงผู้หนีภัยจากการสู้รบในพื้นที่ชายแดนประเทศเมียนมา ได้เข้าไทยบริเวณชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า พยายามดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด โดยให้ศูนย์บัญชาการชายแดน จ.ตาก และหน่วยทหารในพื้นที่ร่วมการสนับสนุนการดำเนินการ
เมื่อถามว่า ได้ประเมินถึงสถานการณ์ความรุนแรงของประเทศเพื่อนบ้านอย่างไร พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า หากเกิดความรุนแรงมากขึ้น เราจะดูแลประชาชน ที่อพยพมาอย่างดีที่สุด จนกว่าสถานการณ์จะสงบเรียบร้อย และเชื่อว่าเมื่อสถานการณ์สงบจะ เดินทางกลับประเทศ ซึ่งจำนวนผู้อพยพที่อยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวขณะนั้นมีกว่า 2,000 คน ซึ่งจะมีการคัดกรองตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ด้วย
ด้าน พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า การสู้รบยังรุนแรงต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงนี้มักจะมีการสู้รบเป็นประจำ และมีผู้อพยพเข้ามาในไทยกว่า 2,000 คน และส่งกลับประเทศไปบางส่วนแล้ว หากพื้นที่ใดพร้อมจะส่งกลับผู้อพยพไปพื้นที่ปลอดภัย ส่วนพื้นที่ที่มีปัญหาเราจะรับมาดูแล จัดที่พัก อาหารตามหลักที่กำหนด ซึ่งมีระบบรองรับไว้แล้ว และมีการตรวจคัดกรองโควิด-19 โดยกองทัพบกและจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบ และพบมีผู้ติดเชื้อบางส่วน และนำเข้าสู่ระบบการรักษาต่อไป เมื่อเหตุการณ์ต้องส่งกลับประเทศโดยสมัครใจ
ส่วนความคืบหน้าสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลเมียนมา กับ ทหารกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) ยังคงสู้รบกันอย่างต่อเนื่อง และรุนแรงกว่าเดิม นอกจากการขยายพื้นที่การสู้รบไปยังพื้นที่ไปยังด้านใต้ จ.เมียวดี ตรงข้าม บ้านแม่กุใหม่ท่าซุง ต.แม่กุ บ้านแม่โกนเกน บ้านห้วยมหาวงศ์ ตำบลมหาวัน อ.แม่สอด ส่งผลให้ราษฎรเมียนมาจากบ้านผาลูใหญ่ , บ้านผาลูน้อย , บ้านเลเตอก่อได้อพยพทยอยข้ามมาที่บริเวณคอกวัวมหาวันท่าเมยโค้ง หมู่ที่ 9 บ้านห้วยมหาวงค์ ต.มหาวัน จำนวนกว่า 2,000 คน
ด้านศูนย์สั่งการชายแดน ไทย – เมียนมา จังหวัดตาก ได้ออกเอกสารแถลงถึงสถานการณ์ชายแดนพื้นที่ จังหวัดตากเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 64 ถึงสถานการณ์การสู้รบด้านใต้จังหวัดเมียวดีว่า ได้เกิดการปะทะระหว่างทหารเมียนมา กับ กองกำลังชนกลุ่มน้อยเมียนมา ลึกจากชายแดนเมียนมา 500 เมตรจากการปะทะกันดังกล่าวส่งผลให้มีกระสุนไม่ทราบชนิด ไม่ทราบฝ่าย จำนวน 7 นัด ตกลงบริเวณริมแม่น้ำเมยของฝั่งไทย ไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนคนไทยในพื้นที่ ขณะที่กองกำลังนเรศวรได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่14 อ.แม่สอด ทำการยิงเตือนด้วยกระสุนควัน จำนวน 5 นัดในห้วงเวลาดังกล่าว เพื่อเป็นการแจ้งเตือนไม่มีกระสุนล้ำเข้ามาตกในเขตไทยอีก และทำการประท้วงไปยังฝ่ายเมียนมาผ่านช่องทางทีบีซีแล้ว