พรรคก้าวไกล รวม 41 รายชื่อ ยื่นญัตติด่วน ขวาง กมธ. แก้รัฐธรรมนูญ แก้เกินเลยหลายมาตรา
วันที่ 13 ส.ค. 2564 นายธีรัจชัย พันธุมาศ และนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงความคืบหน้า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่. … พ.ศ. … (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือก) รัฐสภา
นายธีรัจชัย พันธุมาศ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่ยังเป็นอำนาจของ ส.ว. และไม่ได้เป็นการแก้ไขเรื่องการปฏิรูปประเทศ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ แต่เป็น การแก้ไขระบบเลือกตั้ง เพียง 2 มาตราเท่านั้น ซึ่งมีการโต้เถียงตลอดการพิจารณาเสมอว่า กรณีแบบนี้จะพิจารณามาตราอื่นได้หรือไม่ เพราะตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 124 หลักการในการแก้ไขต้องเป็นไปโดยชัดแจ้ง ซึ่งความชัดแจ้ง คือ แก้ไขมาตรา 83 จำนวน ส.ส. และ มาตรา 91 คำนวณคะแนน
นอกจากนี้ ยังจะตีความแก้ไขเกินเลยไปหลายมาตรา โดยเฉพาะการให้อำนาจคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกข้อกำหนดเองได้ ซึ่งเป็นการมอบอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติให้ กกต. ถามว่าเป็นการกระทำที่ชอบหรือไม่ อีกทั้งยังแก้ไข มาตรา 85 86 92 93 และ 94 เหล่านี้เป็นการแก้ไขเกินหลักการหรือไม่ อาศัยเสียงข้างมากตีความตามอำเภอใจได้หรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 ระบุว่า รัฐสภาต้องปฏิบัติหน้าที่ตามหลักกฎหมาย และหลักนิติธรรม แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้พยายามตีความให้เกินเลย แปลงร่างให้เอาร่างของพรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย ที่ถูกตีตกไปแล้วในชั้นรับหลักการวาระแรกมาใส่ให้ได้
และทั้งสองพรรค ก็พิจารณาอย่างค่อนข้างเอื้ออาทรและเป็นมิตรต่อกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน กระหนุงกระหนิงช่วยเหลือกันมา ซึ่งพรรคก้าวไกล เห็นว่าจะตีความตามอำเภอใจไม่ได้ ต้องตีความตามหลักนิติธรรม ดังนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจน จึงได้พิจารณาแล้วว่า ในวันนี้จะยื่นญัตติ ให้รัฐสภาพิจารณาอีกครั้งว่า การแก้ไขที่ตีความให้แก้เกินหลักการแบบนี้ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยยื่นตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 151 เพื่อให้เป็นบรรจุเป็นญัตติ ก่อนการพิจารณารัฐธรรมนูญในวาระ 2-3
ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า เหลือเชื่อว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะออกมาเป็นแบบนี้ เราเห็นความพยายามในการสอดไส้การแก้กฎหมายมาหลายครั้ง ทำไมครั้งนี้ยังกล้าทำอีก หลักการแก้ไขแค่ 2 มาตรา แต่สิ่งที่ทำในชั้นกมธ. กลับแก้ไข 6 มาตรา และเพิ่มมาอีก 2 มาตรา เราส.ส.หน้าใหม่เกิดความสงสัยทันทีว่า หลักการวาระที่ 1 ที่ให้แก้ 2 มาตรา ไม่มีความหมายเลยใช่หรือไม่ แต่จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์มากที่สุดใช่หรือไม่ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเสี่ยงว่าจะผิดรัฐธรรมนูญอย่างไร เรารู้สึกผิดหวัง และสุดท้ายการแก้ไขครั้งนี้จะไม่นำพาให้ประเทศนี้ออกสู่วิกฤตทางการเมืองได้
ทั้งนี้ พรรคก้าวไกล ยืนยันว่า การยื่นญัตติดังกล่าวเป็นการตรวจสอบเรื่องข้อกฎหมายก่อนพิจารณาร่างแก้ไข หวังว่าแล้วเสร็จวันเดียวกัน ไม่ได้ส่งผลให้ร่างล่าช้า ซึ่งไม่ใช่การตีรวน แต่เป็นการตรวจสอบการกระทำที่มีความพยายามสอดไส้
ส่วนจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยหรือไม่ นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า ทาพรรคเห็นควรใช้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 151 ก่อน เพื่อให้วินิจฉัยชี้ขาดเรื่องการตีความข้อบังคับ และไม่อยากให้กระทบกับพรรคการเมืองที่เป็นพันธมิตรจึงเริ่มจากช่องทางนี้ก่อน