‘นิคม บุญวิเศษ’ แฉสายสัมพันธ์ บ.ชนะประมูล ATK เคยซื้อเครื่องบินจาก ‘อนุทิน’ รมว.สาธารณสุข

ส.ส.พรรคพลังปวงชนชาวไทย อัด ‘ประยุทธ์’ รวบอำนาจแกล้งโง่ทำประเทศฉิบหาย พร้อมแฉสายสัมพันธ์ บริษัทชนะประมูล ATK เคยซื้อเครื่องบินจาก อนุทิน รมว.สาธารณสุข

วันที่ 2 กันยายน 2564 นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนชาวไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่บริหารผิดพลาดงานผิดพลาดและขัดรัฐธรรมนูญหลายมาตรา เช่น ม. 34 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด เขียน โฆษณา ม. 35 บุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนย่อมมีเสรีภาพในการเสนอข่าวสารหรือแสดงความคิดเห็นตามวิชาชีพ ม. 44 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ หรือ ม.47 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการรับบริหารสาธารณสุขของรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มีสิทธิ์ได้รับการปกป้องและขจัดปัดเป่าโรคร้ายแรงจากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

นายนิคม กล่าวว่า นอกจากนี้ยังขัด ม.60 ที่บัญญัติว่า รัฐต้องรักษาไว้ซึ่งคลื่นความถี่ และสิทธิในการเข้าถึงวงโคจรดาวเทียมอันเป็นสมบัติชาติ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ ประชาชน การจัดให้มีการใช้ประโยชน์จากคลื่นความถี่ไม่ว่าจะใช้เพื่อวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคมหรือเพื่อประโยชน์อื่นใดต้องเป็นไปตามประโยชน์สูงสุดของประชาชน ความมั่นคงของรัฐ ประโยชน์สาธารณะ และให้ประชาชนมีส่วนได้รับประโยชน์จากคลื่นความถี่ด้วย

“พล.อ.ประยุทธ์รวมอำนาจรวบกฎหมาย40 ฉบับควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ไม่ได้ทำอะไร ตั้งตัวเองนั่งในตำแหน่งต่าง ๆมากมาย พล.อ.ประยุทธ์นั่งฟังการรายงานของพล.อ.ประยุทธ์ซึ่งเป็นลูกน้องอีกคน แสดงว่านายกฯเราไม่มี เป็นการปกครองประเทศรัฐซ้อนรัฐ ใช้งบฟุ่มเฟือย ขนาดประสิทธิภาพ เบิกเงิน เบิกเบี้ยเลี้ยงจำนวนมหาศาล ที่บอกไม่รับเงินเดือน3 เดือนแค่สร้างภาพว่าเสียสละ ถ้าเสียสละจริงต้องให้คนอื่นขึ้นมาบริหารแทน เพราะท่านโง่ แต่สงสัยโง่จริงหรือแกล้งโง่ ถ้าท่านแกล้งโง่แสดงว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทำบ้านเมืองฉิบหาย จงใจทำให้บ้านเมืองเกิดความเสื่อมถอย ประชาชนขัดแย้งกันจำนวนมาก”

นายนิคม อภิปรายต่อว่า ที่ผ่านมานายกฯกลับมีการปิดหูปิดตาประชาชน ตั้งแต่เข้าสู่อำนาจเริ่มจากยุคคสช. ก็มีคำสั่งปิดสื่อตอน คุม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) และ10 ปีแล้ว มีการปิดวิทยุชุมชน ปัจจุบันมีความพยายามลดวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชนลงไป บีบให้เล็กลงจนจะอยู่ไม่ได้ นายกฯต้องทราบเพราะกำกับพรบ. กระจายเสียงคลื่นความถี่ มีการนำสื่อมาเป็นพวก แทนที่จะให้สื่อเสนอความจริงทุกมิติทุกด้าน แต่เลือกให้เสนอแต่เรื่องที่ท่านทำ หลอกประชาชนว่ารัฐบาลทำดีแล้ว ประเทศสงบไม่มีปัญหาความขัดแย้ง จนทุกวันนี้ประชาชนไม่ดูสื่อรัฐแล้ว ท่านทุ่มเงินไปปีละหลายพันล้าน กับสื่อของรัฐ จนเป็นสาเหตุให้ประชาชนไม่ฟังวิทยุ ไม่ดูทีวีรัฐเพราะเสนอข่าวด้านเดียว

นายนิคม ตั้งข้อสังสัย การทุจริตจัดซื้อชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชิ้น โดยมีการสงสัยว่า ผู้เป็นเจ้าของเครื่องบินส่วนตัว ที่ขายให้กับเอกชน คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สธ.แล้วเอกชนรายนี้สุดท้ายก็ไปมีความเชื่อมโยงกับการจัดซื้อชุดตรวจ ATK จำนวน 8.5 ล้านชิ้น และยังสงสัยว่า มีการลดสเปกชุดตรวจ ATK ลงมา ทำไมท่านอนุทิน ไม่เอาของที่ดีที่สุดให้ประชาชนใช้ หากทุกคนทราบว่าติดเชื้อเร็ว ก็จะได้รีบไปรักษา เครื่องตรวจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่เมื่อท่านไปสั่งลดสเปกลงมา เพื่อเอื้อให้บริษัทหนึ่งประมูลได้ ใช่หรือไม่ คำถามนี้ ยัน ท่าน รมว.สธ.จะต้องตอบว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร ถึงได้รับการประมูล

“ดังนั้นการมีข้อสั่งการให้ ลดสเปคเอทีเค ที่ไม่ต้องผ่านการรับรองจากองค์กรอนามัยโลก ผ่านแค่การรับรองจาก อย. เพื่อให้บริษัทดังกล่าวผ่านการประมูล ในราคา 65 บาท ทั้งที่ราคากลางตั้งไว้ 120 บาท ซึ่งการลดสเปคดังกล่าวทำให้ต้องลดค่าความแม่นยำ เหลือ 95% จากที่กำหนดค่าความแม่นยำ 98% ตามมาตรฐานขององค์กรอนามัยโลก” นายนิคม กล่าว