‘อดิศร’ ประกาศกลางงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย ย้ำไม่ยอมให้ตำแหน่ง ‘ประธานสภาฯ’ กับพรรคก้าวไกล

‘อดิศร’ ย้ำไม่ยอมให้ตำแหน่ง ‘ประธานสภาฯ’ กับพรรคก้าวไกล ด้าน ‘ภูมิธรรม’ แจงการเจรจายังไม่จบ

ในงานสัมมนาของพรรคเพื่อไทยในวันนี้ (21 มิ.ย. 66) มีการเปิดโอกาสให้ ส.ส. ได้แสดงความคิดเห็น ภายใต้หัวข้อ “เพื่อไทยเปิดใจ เพื่ออนาคตไทย”

โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวเปิดใจถึงกระบวนการทำงานในการเป็นตัวแทนพรรคไปทำหน้าที่เป็นเจรจาในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล ว่าที่ผ่านมาพวกตนได้ดำเนินการตามที่คณะกรรมการบริหารพรรคมอบหมาย การพูดคุยกับพรรคก้าวไกลได้เสนอไปว่าแต่ละพรรคได้ ส.ส. ใกล้เคียงกันก็ควรได้ตำแหน่งรัฐมนตรีพรรคละ 14 คน พรรคก้าวไกล ได้ ส.ส. มาที่หนึ่ง ก็ควรได้ประมุขฝ่ายบริหาร พรรคเพื่อไทยควรได้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ

แต่เรื่องตำแหน่งประธานสภา ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ยังรอคำตอบจากทางพรรคก้าวไกล แต่การให้ข่าวของตนและเลขาธิการพรรค อาจจะทำให้สมาชิกพรรคเกิดความไม่สบายใจ หรือความไม่พอใจ เรื่องการยึดหลักการ หลักพรรคอันดับ 1 วันนี้จึงเปิดโอกาสให้ ส.ส.ได้แสดงความเห็นได้เต็มที่

จากนั้น นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่เรา 141 เสียง เขา 151 เสียง เราจะไปยอมเขาทุกเรื่อง ทุกพรรคการเมืองในการหาเสียงเลือกตั้ง ไม่มีพรรคใดที่ได้คะแนนเกิน 250 จึงมีศักดิ์ศรีเท่ากัน พรรคก้าวไกลเขาได้ 151 ก็ให้เขาเป็นฝ่ายบริหารไป อันนี้เห็นด้วยและทุกคนเห็นด้วย ที่จะสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยความจริงใจ แต่ถึงอย่างไรเราก็ไม่สามารถให้ประธานสภาฯ กับพรรคก้าวไกลได้ เมื่อเกิดความขัดแย้งก็โหวตกันในสภาฯ ยืนยันว่า ศักยภาพคนของเรา เรามีบุคลากรที่เหมาะสม

“ผมไม่อยากเห็นพระบวชใหม่มาเป็นเจ้าอาวาส เรามีบุคลากรเยอะ อย่าไปยอมให้เขาง่ายๆ เราอย่าไปห่วงความรู้สึกเขา คุณจะเป็นพรรคก้าวไกล หรือพรรคเพื่อไทย เรื่องประธานสภาฯ ถึงอย่างไร ผมคิดว่าต้องเป็นของพรรคเพื่อไทย เพื่อให้รัฐบาลผสมเดินทางไปสู่การแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม”

“ผมคนหนึ่งไม่รู้จะงดออกเสียงหรือไม่ เพราะไม่สามารถยกมือให้พระบวชใหม่ได้ พรรคเพื่อไทยไม่ใช่สาขาของพรรคก้าวไกล เราเหนื่อยยาก เพราะต้องสู้กับพรรคก้าวไกล ฉะนั้นการทำงานในทางการเมืองอย่าอ่อน แข็งต้องแข็ง พรรคเพื่อไทยมีประสบการณ์มา 22 ปี เราต้องสรุปบทเรียน และพรรคเพื่อไทยจะกลับมายิ่งใหญ่กว่าทุกพรรคในประเทศนี้” นายอดิศร กล่าว