เลือกตั้ง 66 สรุป “Advance MOU” ปมเดือด หมอชลน่าน vs ศิธา

สรุป “Advance MOU” ปมเดือด หมอชลน่าน vs ศิธา ฝ่ายหนึ่งบอกไม่สบายใจที่จะร่วมงาน อีกฝ่ายก็ออกมาประกาศยินดีลาออกจะไม่ขวางทาง 

ความเคลื่อนไหวในพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้ง ล่าสุดมีประเด็นความไม่พอใจเกิดขึ้น ระหว่าง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กับ น.ต.ศิธา ทิวารี หรือ ผู้พันปุ่น ฉายาในโซเชียลว่า “แด๊ดดี้” อดีตคนไทยรักไทย ที่ปัจจุบันเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ในเรื่อง “Advance MOU”

ที่มาที่ไปของ “Advance MOU” ถูกพูดถึงโดย น.ต.ศิธา ทิวารี ที่ได้ตั้งคำถาม เรื่องการทำ Advance MOU หรือ บันทึกข้อตกลง ที่ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านจะต้องอยู่ด้วยกัน จะไม่แยกกัน โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงจากประชาชนมากเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2

โดยในวันที่ 22 พ.ค. 66 หลัง 8 พรรค เซ็น MOU จัดตั้ง “รัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน” ระหว่างที่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ถามคำถาม ปรากฏว่า น.ต.ศิธา ซึ่งนั่งอยู่ในกลุ่มสื่อมวลชนด้วยได้ลุกขึ้นถามคำถาม พุ่งไปที่หัวหน้าพรรคก้าวไกล และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

โดย น.ต.ศิธา ถามว่า บทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 กำหนดให้ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีได้ใน 5 ปี ทำให้กระบวนการประชาธิปไตยถูกบิดเบือน ผิดเพี้ยนไป จนมองได้ว่า เป็นการสืบทอดอำนาจของเผด็จการที่ยึดอำนาจการบริหารประเทศ เวลานี้เรากำลังโดนดึงไปเล่นในเกมนั้น คือเอา ส.ว. มาโหวต แม้จะรวมเสียงข้างมากได้ 313 เสียงแล้วก็ตาม

คิดว่า สิ่งที่อยู่ในใจประชาชนอยากจะมี Advance MOU คือการยกระดับประชาธิปไตยให้เข้มข้น ในอนาคตอันใกล้ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะลง MOU ร่วมกันไม่จำกัดเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาล แต่ไม่ว่า จะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ทั้ง 2 พรรคจะอยู่ด้วยกัน รวมถึงพรรคอื่นๆ ด้วย

ซึ่งทาง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวโดยสรุปในวันนั้นว่า เป็นไปได้ คิดว่า Advance MOU ที่ทำให้ระบบเป็นระบบ ไม่ใช่แค่การเข้าสู่อำนาจ การจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่ว่าเรื่องระบบทั้งหมด เป็นการตัดตอนผลพวงจากรัฐประหารอย่างชัดเจน คืนความเป็นปกติให้กับการเมืองไทย

ในเมื่อสภาล่างที่มาจากประชาชน รวมทั้งหมด 25 ล้านเสียงแล้วเลือกมาเป็นแบบนี้ ก็ควรที่จัดตั้งรัฐบาลได้ และก็ควรที่จะมาอยู่ในเกมของระบบประชาธิปไตยตามปกติ

ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวในวันดังกล่าวว่า ไม่อยากจะใช้คำว่า Advance MOU เพราะคำถาม ถามอธิบายแล้วก็ตอบอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว คือสิ่งที่เรายึดมั่น เราเชื่อมั่นว่าเราเป็นฝ่ายประชาธิปไตย และเราไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากพี่น้องที่เห็นชัดว่าเป็นผู้ต้องการประชาธิปไตย ดังนั้นภารกิจที่เรารับมอบจากประชาชน เราก็จะทำให้เป็นไปตามจุดประสงค์ของพี่น้องที่ต้องการประชาธิปไตย

อะไรที่บิดเบี้ยว ผิดเพี้ยนอยู่ในรัฐธรรมนูญ เราก็พยายามที่จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด จริงอยู่ ส.ว. ชุดนี้ บทเฉพาะกาลที่มีอยู่ก็หมดในปี 2567 คืออีก 1 ปี ถ้าเราสามารถที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ทัน และพยายามทำรัฐธรรมนูญให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน ที่มีความสมดุล ที่คำนึงถึงการมีส่วนร่วม เราก็มั่นใจตรงนั้น ยืนยันตรงนี้

อย่างไรก็ตาม หลังการถาม-ตอบ ในวันที่ 22 พ.ค. 66 แล้ว ในวันรุ่งขึ้น นพ.ชลน่าน ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “อยากมีเรื่องคุย” ของข่าวสดออนไลน์ โดยระบุว่า ไม่สบายใจเท่าไหร่สำหรับคำถามของ น.ต.ศิธา เพราะไม่ได้เป็นสื่อ แต่ไปคาดคั้นอย่างนี้ อีกทั้งตัวเองเป็นพรรคร่วม คิดว่า เสียมารยาทอย่างยิ่ง ฝากคุณหญิงสุดารัตน์ด้วย

ทางด้าน น.ต.ศิธา ก็ได้ทวีตข้อความกลับตอนหนึ่ง ระบุว่า แถลงข่าวเสร็จ “เราก็ไปนั่งทานข้าว และพูดคุยชนแก้วกันอย่างชื่นมื่น โดยที่คุณหมอก็พูดคุยกับผมตามปกติ ไม่ได้มีการคาดคั้น หรือชี้แจงจากทั้งสองฝ่ายแต่อย่างใด ผมไม่ทราบว่า หลังจากนั้น คุณหมอโดนใครตำหนิ หรือไปรับบรีฟจากใครมา อยู่ๆ วันนี้จึงงัวเงีย ออกมาพูดกับสาธารณชนว่า เป็นการเสียมารยาท และฝากหัวหน้าพรรคฯ มาอบรมผมด้วย”

ในวันนี้ (24 พ.ค. 66) น.ต.ศิธา ก็ได้ทวีตข้อความอีกครั้ง ขออภัยหัวหน้าพรรคเพื่อไทย “หากคำถามของผมมันล้ำหน้า (Advance) มากเกินไป จนทำให้ไม่สบายใจ ผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย” พร้อมลงท้ายว่า “ต่อไปนี้ ไม่ล้ำเส้น ไม่เร่ง ไม่บีบคั้น เรามาเดินหน้าต่อแบบพอดีๆ ไปด้วยกันครับ”

ขณะเดียวกัน วันนี้ที่พรรคเพื่อไทย ได้เปิดที่ทำการพรรค จัดงาน ‘ประสานกำลังใจ เดินหน้าต่อไป เพื่อประชาชน’ เพื่อให้กำลังใจและแสดงความยินดีกับการทำงานอย่างหนักของว่าที่ ส.ส. และผู้สมัคร ส.ส. โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนายเศรษฐา ทวีสิน 2 แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยมาร่วมงานด้วย

ทางด้าน นพ.ชลน่าน ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นกับ น.ต.ศิธา โดยออกตัวว่า ไม่สบายใจที่จะร่วมกับ น.ต.ศิธา และยังขอให้พรรคก้าวไกล ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไปพูดคุยกับทางพรรคไทยสร้างไทยด้วยว่า พฤติกรรมแบบนี้จะเป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าพรรคก้าวไกลพูดก็จบ ส่วนตัวก็จบ ไม่มีประเด็น แต่ถ้าหากพรรคก้าวไกลไม่พูด ยังปล่อยปละละเลย ตนก็ไม่สบายใจ

ทั้งนี้ ขณะเดินออกจากวงสัมภาษณ์ นพ.ชลน่าน สีหน้าไม่ค่อยดีนัก แล้วยังได้พูดขึ้นว่า “ถ้าชกได้ ผมชกไปแล้ว”

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด น.ต.ศิธา ได้ทวีตข้อความอีกครั้ง ประกาศยินดีลาออกไม่ขวางการตั้งรัฐบาล โดยระบุว่า “พรรคไทยสร้างไทย พูดชัดเจนมาโดยตลอดว่า เรายินดียกมือสนับสนุน ให้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ได้จับมือกันตั้งรัฐบาล ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล หากต้องการเสียงของไทยสร้างไทย เข้าร่วมรัฐบาล แต่ติดขัดที่ตัวผม ผมยินดีลาออกจากพรรคให้ทันที ยืนยันว่าเราไม่ใช่เงื่อนไข ที่จะทำให้ ปชต. ต้องหยุดชะงัก ครับ”

My Country Talks ร่วมกับสำนักข่าว TODAY ขอเชิญผู้ที่มีความสนใจ เข้าร่วมกิจกรรม World Talks ที่จะชวนคนจากหลากหลายพื้นที่ของโลกมาแลกเปลี่ยนไอเดีย เรื่องราว มุมมอง ผ่านการสนทนาแบบ 1:1

ผู้เข้าร่วมจะได้รับโอกาสพูดคุยกับผู้ที่มาจากต่างวัฒนธรรม ต่างบริบท ต่างแนวคิด โดยคัดจากการตอบคำถามในแง่มุมต่างๆ

หากท่านสนใจเข้าร่วม สามารถเริ่มต้นจากการตอบคำถามด้านล่างนี้ หรือเข้าไปที่ https://www.theworldtalks.org/invite

*คำถามและบทสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ