SHARE

คัดลอกแล้ว

‘วุฒิสภา’ ลงมติเอกฉันท์ไฟเขียว งบฯ ปี 66 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท ห่วง ‘ท้องถิ่น-จังหวัด’ ได้งบน้อย

ในการประชุมวุฒิสภา (ส.ว.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท ที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ตามรัฐธรรมนูญ กำหนดให้วุฒิสภาต้องพิจารณาเห็นชอบภายใน 20 วันนับแต่วันที่ได้รับร่างพ.ร.บ. คือ วันที่ 24 ส.ค. 65 โดย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ในฐานะตัวแทนของคณะรัฐมนตรีเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภา

นายอาคม นำเสนอเนื้อหาตอนหนึ่งก่อนที่วุฒิสภาจะพิจารณา โดยยืนยันการจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยรับงบประมาณสอดคล้องกับแผนพัฒนาประเทศ แผนปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ รวมถึงรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ รัฐบาลขอขอบคุณวุฒิสภา ที่จะพิจารณาและพร้อมขอรับข้อสังเกตไว้ด้วยความขอบคุณ พร้อมจะนำไปพิจารณาปรับปรุงให้การจัดสรรงบประมาณคุ้มค่าเป้นประโยชน์สูงสุดกับประชาชนอย่างยั่งยืน

จากนั้น เป็นการชี้แจงรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 66 วุฒิสภา โดย พล.อ.ชาตอุดม ติตถะสิริ ส.ว. ฐานะประธานกมธ.ฯ อภิปรายว่า การจัดสรรงบประมาณลงจังหวัดนั้นต่ำกว่ากรอบ ทั้งนี้รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับพื้นที่ เพิ่มกระจายอำนาจในการจัดสรรงบเชิงพื้นที่ตามความต้องการของจังหวัด และหน่วยงานในจังหวัดเพื่อลดความซ้ำซ้อน ความเหลื่อมล้ำการกระจายงบลงสู่พื้นที่ สำหรับประมาณการรายรับที่จะส่งให้ท้องถิ่น รวมถึงรายได้ของท้องถิ่นคาดว่ามียอดต่ำกว่า 10%- 20% ดังนั้น รัฐบาลควรเพิ่มอำนาจให้ท้องถิ่นในการจัดเก็บรายได้ โดยเฉพาะ อปท.ที่มีรายได้น้อยหรือไม่มีเงินสะสม

“ยกเลิกกำหนดสัดส่วนจังหวัดหรอกลุ่มจังหวัด ในงบลงทุน 70% แต่ควรพิจารณาลดเหลือ 30% ที่เหมาะสมกับความต้องการจังหวัด ขณะที่งบซ่อมถนน กระทรวงคมนาคมควรรับผิดชอบเสนอตามความต้องการจังหวัดในช่วงเวลาที่เหมาะสม ขณะที่การถ่ายโอน รพ.สต. ให้ท้องถิ่น อาจมีปัญหาเรื่องบุคลากรทั้งการบริหารบุคลากรและงบประมาณ ดังนั้นควรให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกำหนดมาตรการแก้ไขที่เหมาะสม” พล.อ.ชาตอุดม กล่าว

พล.อ.ชาตอุดม กล่าวว่า สำหรับการควบคุมค่าใช้จ่ายบุคลากรส่วนราชการที่พบว่ามียอดเพิ่มขึ้นทุกปี กมธ.จึงมีข้อเสนออัตรากำลังภาครัฐ ด้วยการทบทวนบทบาท กรอบอัตราที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่แปรเปลี่ยน รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

ขณะที่ พล.อ.ปัฐมพงศ์ ประถมภัฎ ส.ว. ฐานะกมธ.รายงานผลการศึกษาตอนหนึ่งว่า สาระโดยสรุปว่า โครงการสำคัญที่หน่วยรับงบประมาณขออนุมัติจาก ครม. หลายโครงการ ไม่สอดคล้องกับแผนแม่บทและแผนยุทธศาสตร์ชาติทั้งนี้พบว่าไม่ปฏิบัติตามมติ ครม. ทำให้ไม่สามารถติดตามการใช้จ่ายเงินของภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ ดังนั้นการแก้ไขควรมีหน่วยงานเจ้าภาพเพื่อขับเคลื่อนโครงการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติและมติ ครม.

“แผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณ คลาดเคลื่อนจากรางานการเงินของหน่วยรับงบประมาณและมีเงินสะสมคงเหลือ เช่น องค์กรมหาชน องค์กรกำกับของรัฐมีเงินคงค้างจำนวนมาก และพบว่ามียยอดสะสมอของเงินนอกงบประมาณสูงถึง 2.8 ล้านล้านบาท ดังนั้นสำนักงบประมาณต้องเคร่งครัดนำข้อมูลนอกงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณที่ถูกต้องประกอบการพิจารณาต่อสภา เพื่อให้รักษากรอบการเงินการคลังของรัฐตามกฎหมาย” พล.อ.ปัฐมพงศ์ กล่าว

พล.อ.ปัฐมพงศ์ กล่าวด้วยว่าสำหรบความคืบหน้าการขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูปประเทศ ที่จะสิ้นสุดการเบิกจ่ายในวันที่ 30 กันยายน 65 พบว่าหลายโครงการต้องกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี และจะ เร่งรัดเบิกจ่ายให้เสร็จในวันที่ 31 ธันวาคม 2565

ขณะที่ การอภิปรายของส.ว. นั้น เบื้องต้นมีส.ว. ลงชื่ออภิปราย รวม 19 คน โดยนายพรเพชร กำหนดให้อภิปรายเรียงตามลำดับมาตรา คนละ 10 นาที ทั้งนี้เป็นที่สังเกตว่า ส.ว.ที่แจ้งขออภิปรายนั้น ส่วนใหญ่เป็นการอภิปรายภาพรวมของงบประมาณปี 2566 และหน่วยงานท้องถิ่น จังหวัดและกลุ่มจังหวัด รวมถึงองค์กรอิสระ แต่ไม่ปรากฎว่ามีผู้ใดที่อภิปรายในงบของกระทรวงกลาโหม งบกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงดีอีเอส.

จากนั้น เวลา 17.00 น. ที่ประชุมวุฒิสภา ลงมติในวาระที่ 3 ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เห็นชอบด้วยกับสภาผู้แทนราษฎร ด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 179 เสียง ไม่เห็นด้วย ไม่มี งดออกเสียง 3 เสียง และเห็นด้วยกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ จากนั้น จะจัดส่งให้คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

สภาฯ ผ่านร่างพ.ร.บ.งบฯ ปี 66 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาทแล้ว หลังใช้เวลาถก วาระ 2-3 รวม 5 วัน

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า