‘ชวน’ ยอมรับ ‘ประชาธิปัตย์’ ตกต่ำที่สุดตั้งแต่ตั้งพรรค หวังเลือกตั้งหัวหน้า 9 ธ.ค.นี้ ฟื้นศรัทธาได้ผู้นำไม่หวังผลประโยชน์

‘ชวน หลีกภัย’ เปิดใจยอมรับ ‘พรรคปะชาธิปัตย์’ อยู่ในยุคตกต่ำ ปัจจัยมาจาก ‘จุรินทร์’ บริหารคนล้มเหลว ‘สส.’ บางคนหวังแต่ผลประโยชน์อยากร่วมรัฐบาล หัวเลี้ยวหัวต่อการเมือง เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่อีกครั้ง 9 ธ.ค.นี้ หวังได้ ‘ผู้นำ’ ฟื้นศรัทธาประชาชน

นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์เปิดใจในรายการ TODAY LIVE สำนักข่าวทูเดย์ เมื่อวันที่ (6 ธ.ค. 66) ถึงสถานการณ์ในพรรคประชาธิปัตย์ และการเลือกหัวหน้าพรรค ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 9 ธ.ค. 66 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ย่านวิภาวดีรังสิต

นายชวน ระบุว่า “ขณะนี้พูดได้ว่าเป็นขาลงของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นช่วงเวลาที่มีปัญหา พรรคไม่เคยตกต่ำอย่างนี้มาก่อน แพ้เลือกตั้งในหลายพื้นที่ ได้สส.บัญชีรายชื่อ เพียง 3 คน และ 77 ปีของพรรคไม่เคยมีที่สมาชิกละเมิดข้อบังคับพรรค แต่ก็เกิดขึ้นในยุคปัจจุบันที่มี สส. ได้โหวตให้ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนากยรัฐมนตรี ทั้งที่ไม่ใช่มติของพรรค”

นายชวน ระบุว่า ความตกต่ำนี้เป็นสิ่งที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน เราไปเลือกนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรค เราเลือกนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นเลขาธิการพรรค และอีก 30 กว่าคนเป็นกรรมการบริหารพรรค เราเลือกหมายความว่า เราศึกษาแล้วว่าทำงานได้

“ผม คุณบัญญัติ บรรทัดฐาน คุณอภิสิทธิ์ เวชชาวีวะ มองว่า คุณจุรินทร์ เป็นหัวหน้าพรรคได้ ถ้าเรา 3 คนจึงช่วยกัน ถ้าวันนั้นไม่ช่วยคุณจุรินทร์ก็แพ้ เพราะคนอื่นที่แข่งก็มีศักยภาพ แต่เราไม่เชื่อว่าคุณจุรินทร์จะพาพรรคมาอยู่จุดนี้ เป็นเรื่องที่เสียดาย และการเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่มีวอร์รูม เลขาธิการพรรคซึ่งเป็นตัวหลักไม่ลงเลือกตั้ง และช่วงที่คุณจุรินทร์เป็นหัวหน้าพรรคคนมาลาออกจากพรรคเยอะมาก หลายคนผมรั้งไว้ แต่ก็ไม่อยู่”

นายชวน เล่าด้วยว่า “หลายคนที่มาลาออกจากพรรค บอกกับผมว่าถ้าเปลี่ยนหัวหน้าพรรคไม่ใช่คุณจุรินทร์จะกลับมาใหม่ เรื่องนี้ผมก็บอกคุณจุรินทร์เหมือนกัน แต่เมื่อเลือกมาแล้วเราก็ต้องช่วยหนุน ตอนมีกระแสข่าวว่าจะปลดคุณจุรินทร์ออกจากหัวหน้าพรรค ผมบอกว่าอย่าทำเลย ก็ให้กำลังใจคุณจุรินทร์ เพราะเป็นคนมีความสามารถ เคยเป็นเลขาฯ ผม ขณะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แต่วันนี้ก็ต้องยอมรับว่าล้มเหลวและตกต่ำ”

ส่วนการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ หลังจากที่ผ่านมาองค์ประชุมไม่ครบและการประชุมล่มนั้น นาย ชวน ระบุว่า เห็นใจคนจัดประชุม เชื่อว่าครั้งนี้ไม่ล่มและต้องจบ และจากบทเรียนผู้นำพรรคครั้งที่แล้ว การเลือกครั้งนี้ไม่ควรเดินซ้ำรอยความล้มเหลว ต้องหาแนวทางให้พรรคเติมโตได้

“เรามีประสบการณ์มาแล้ว กับการเลือกผู้นำและล้มเหลว เลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้ต้องแนวทางที่ดีกว่า และอย่าไปคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์คือพรรคเล็ก ไปขอรัฐมนตรี 2 คน ไปร่วมรัฐบาล เพราะการเมืองมีทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน อย่าดิ้นรนไปเป็นรัฐบาลตลอดเวลาเพียงเพื่อมีตำแหน่งหาประโยชน์ในตำแหน่ง ซึ่งประชาธิปัตย์ไม่เคยปฎิบัติ เรายึดความซื่อสัตย์สุจริต พรรคจึงอยู่ได้ 77 ปี”

เมื่อถามถึงผู้นำของพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ควรมีคุณสมบัติอย่างไร นายชวน บอกว่า ไม่อยากไปวิจารณ์ว่าควรเป็นแบบใด แต่อาจจะไม่มีแค่ผู้สมัครชิงหัวหน้าพรรคที่สื่อมวลชนนำเสนอ

“อาจจะไม่มีแค่ชื่อของคนที่อยู่ในหน้าสื่อ บางคนอาจจะเสนอชื่อผมเป็นหัวหน้า แต่ผมเป็นหัวหน้าพรรค 12 ปี ผมไม่คิดจะเป็นแล้ว แต่ขอช่วยเรื่องอื่นๆ การเป็นหัวหน้าพรรค 12 ปีเหมือนภูเขาอยู่บนอก”

ส่วนกรณีที่มีองค์ประชุมล่ม ใน 2 ครั้งที่ผ่านมา และมีการแถลงข่าวจากกลุ่มของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ว่า “มีผู้ใหญ่ในพรรคบางคนไม่อยากเปลี่ยนแปลง องค์ประชุมจึงล่ม” นั้น นายชวน ตอบว่า “การประชุม 2 ครั้ง เข้าร่วมตลอด และเห็นใจเรื่ององค์ประชุม แต่ยืนยันว่าไม่มีใครไปสั่งใครได้ เพราะทุกคนมี 1 เสียง แต่เรานำเสนอได้ว่าไม่เห็นด้วยกับความคิดบางอย่างคือ การไปร่วมรัฐบาล บางกลุ่มในพรรคบอกในที่ประชุม สส. ว่า จะไม่โหวตให้นายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ร่วมรัฐบาล แต่ในท้ายที่สุดตอนโหวตเลือกนายกฯ กลับโหวตให้นายเศรษฐา”

นายชวน กล่าวทิ้งท้ายว่า “มั่นใจการประชุมเลือกหัวหน้าพรรควันที่ 9 ธ.ค.นี้ องค์ประชุมจะครบ ไม่ล่ม และขอให้สมาชิกทุกคนเลือกผู้นำที่มีความสามารถ มีคุณธรรม  ไม่หวังประโยชน์ทางการเมือง”

สำหรับการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จัดขึ้นวันที่ 9 ธ.ค. 66 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ฯ ได้มีการจัดเตรียมสถานที่และกำหนดองค์ประชุมตามข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ ข้อที่ 81 และที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายพรรคการเมืองว่า จะต้องมีไม่น้อยกว่า 250 คน แต่ข้อบังคับพรรคได้มีการเตรียมองค์ประชุมไว้เบื้องต้น 346 คน

และมติรักษาการกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ที่ให้มีการกำหนดองค์ประชุมสำรองอีก 150 คน เมื่อมีการเข้าสู่ระเบียบวาระการเลือก กก.บห. ชุดใหม่ สมาชิกซึ่งเป็นองค์ประชุมจะเสนอชื่อของผู้แสดงเจตจำนง หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งต่อที่ประชุม พร้อมกับมีผู้รับรอง และเมื่อมีการตรวจสอบคุณสมบัติถูกต้อง ผู้แสดงเจตจำนงเหล่านั้น ก็จะเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งหัวหน้าพรรค อย่างเป็นทางการ กำหนดเกณฑ์การเลือกหัวหน้าพรรค คิดเป็นอัตราส่วน 70 ต่อ 30 หมายความว่า ปัจจุบัน พรรคประชาธิปัตย์ มี สส. 25 คน คิดเป็น 70% และอีก 30% นั้นให้เป็น อดีตกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคทั่วประเทศ

คลิปสัมภาษณ์ฉบับเต็ม :