‘แพทองธาร’ เผย ‘ทักษิณ’ มีอาการเครียด-อ่อนเพลีย เชื่อมือแพทย์ รพ.ตำรวจ ยืนยันไม่มีย้ายไปรักษาตัวโรงพยาบาลเอกชน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าเยี่ยม นายทักษิณ ชินวัตรว่า คุณพ่อมีอาการอ่อนเพลีย ตั้งแต่วันที่เดินทางถึงเมืองไทย คุณพ่อไม่ได้สดชื่นเท่าเดิมและมีอาการเครียดพอสมควร ซึ่งในวันนั้นครอบครัวได้คุยกันก็เห็นว่า มีอาการเครียด และในคืนนั้นก็ได้ทราบพร้อมกับสื่อมวลชนว่ามีการนำตัวไปโรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากมีอาการเครียดและอ่อนเพลีย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทนายความระบุอาการยังน่าเป็นห่วง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ช่วงปี 2563 คุณพ่อเป็นโควิด รุ่นแรกๆ ก่อนที่จะมียารักษา ต้องเข้าไอซียูไป 9 วัน อยู่โรงพยาบาล 1 เดือน ออกมาน้ำหนักลดไป 10 กิโลกรัม เพราะฉะนั้นที่ปอดก็ยังมีร่องรอยอยู่ ซึ่งก็พยายามออกกำลังกายแล้วก็กลับมาได้เยอะ และคนอายุ 74 ปี บวกกับความเครียดด้วย
“คุณพ่อดีใจที่เจออิ๊งค์ คุณพ่อดีใจมาก คุณพ่อก็คือสู้ ยังสู้ และรู้สึกว่าท่านมีความเปลี่ยนแปลงเยอะ ซึ่งไม่ต้องคนอายุ 74 ปีก็ได้ แต่ใครก็ตามที่เจอสถานการณ์ที่ต้องเปลี่ยนที่อยู่ ไม่ต้องเป็นราชทัณฑ์ก็ได้ ไม่ต้องเป็นโรงพยาบาลก็ได้ แค่เปลี่ยนไปเรียนเมืองนอกหรืออะไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดความรู้สึกกับทุกๆ คน คุณพ่อก็เช่นกัน ก็ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่เป็นห่วงท่าน ตอนนี้ทีมคุณหมอเองก็เก่งมากๆ แล้วก็มอนิเตอร์ทุกอย่างแล้ว อีกทั้งประวัติที่ไปอยู่เมืองนอกมา การรักษาตัวได้ให้คุณหมอไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหัวใจ เรื่องของปอดหรือว่าประวัติที่ผ่านมา 10 กว่าปี ว่าเป็นอะไรมาบ้าง ผ่าอะไรบ้าง มอบให้กับทางโรงพยาบาลหมดแล้ว” น.ส.แพทองธาร กล่าว
ส่วนเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ในส่วนนี้ขอให้เป็นดุลพินิจของคุณพ่อทั้งหมดว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งก็ไม่ได้ติดขัดอะไร แต่จะทำเมื่อไร อย่างไร เป็นเรื่องของคุณพ่อจะตัดสินใจดำเนินการตามกระบวนการด้วยตัวเอง
เมื่อถามว่า จะต้องย้ายไปรักษาโรงพยาบาลเอกชนตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่มี เพราะคุณหมอโรงพยาบาลตำรวจเก่งๆ เยอะมาก เราไม่ได้มีการขอหรือจะย้ายไปที่โรงพยาบาลเอกชนเลยและยังอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า คุณหมอประเมินหรือไม่ว่าต้องใช้เวลารักษาอีกนานหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ก็ถามเหมือนกันแต่ยังไม่ทราบ เพราะยังมีอีกหลายปัจจัย หากเกิดเหตุด่วนขึ้นมาก็มีความจำเป็น เพราะว่าคุณพ่ออายุเยอะจริงๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เสียใจหรือไม่ที่ถูกสังคมครหาเรื่องอภิสิทธิ์ชน กล่าวว่า ไม่ได้เสียใจอะไร แต่เป็นห่วงคุณพ่อมากกว่า และเป็นห่วงคนที่เป็นห่วงท่านด้วย แต่ก็ดีใจที่ได้ไปพบท่านเมื่อวานนี้ คุณพ่อก็เหนื่อยเพลียบ้าง
“ด้วยความเป็นลูกเป็นห่วงเรื่องหัวใจ เพราะปัญหาเรื่องปอด แม้จะเป็นพื้นฐานเดิมที่ท่านเป็นอยู่ หากเป็นไรขึ้นมาก็ยังไม่เร็วเท่าหัวใจ แต่ในส่วนของข้อมูลทางการแพทย์อยากให้สอบถามทางคุณหมอที่จะมีรายละเอียด” น.ส.แพทองธาร กล่าว