ทุบสถิติ ส.ส.ลาออก ทิ้งเก้าอี้แล้ว 36 คน สภาฯ เหลือส.ส.แค่ 442 คน ‘ชวน’ ชี้เพราะหัวหน้ารัฐบาล-แกนนำพรรคร่วมไม่ใช่ ส.ส.

‘รองปธ.ศุภชัย’ เผยสภาฯ เหลือ ส.ส. ทำหน้าที่ได้ 442 คน องค์ประชุมกึ่งหนึ่ง คือ 221 คน ส่วนยอดรวม ส.ส.ลาออกทุบสถิติมากถึง 36 ราย

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (15 ธ.ค. 65) ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจบสิ้นการตั้งกระทู้ถามสดแล้ว เมื่อเข้าสู่วาระการประชุมตามปกติ นายศุภชัย ได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงการลาออกของ ส.ส. 29 คน เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 65 โดยให้มีผลการลาออกในวันที่ 15 ธ.ค. 65 ทำให้ขณะนี้เหลือจำนวน ส.ส.ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทั้งหมด 442 คน องค์ประชุมกึ่งหนึ่งคือ 221 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ จำนวน ส.ส. 442 คน แยกเป็นรายพรรคได้ดังนี้

– พรรคร่วมฝ่ายค้าน มีส.ส.รวม 192 คน ประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย 123 คน พรรคก้าวไกล 45 คน พรรคเสรีรวมไทย 10 คน พรรคประชาชาติ 6 คน พรรคเพื่อชาติ  6 คน พรรคพลังปวงชนไทย 1 คน พรรคไทยศรีวิไลย์ 1 คน

– พรรคร่วมรัฐบาล มี ส.ส. รวม 250 คน ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ 85 คน พรรคภูมิใจไทย 62 คน พรรคประชาธิปัตย์ 51 คน พรรคเศรษฐกิจไทย 14 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 12 คน พรรคเศรษฐกิจใหม่ 6 คน พรรครวมพลัง 4 คน พรรคพลังท้องถิ่นไทย  5 คน พรรคชาติพัฒนา 3 คน พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 คน พรรครวมแผ่นดิน 1 คน พรรคเพื่อชาติไทย 1 คน  พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1 คน พรรคพลเมืองไทย 1 คน พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 คน และพรรคพลังธรรมใหม่ 1 คน

ทั้งนี้ จำนวนส.ส. ลาออกจนถึงล่าสุดวันที่ 14 ธ.ค. 65 มี ส.ส.ลาออกไปทั้งหมดแล้ว 36 คน ถือเป็นสถิติการลาออกของส.ส.ที่มากที่สุด แบ่งเป็น พรรคพลังประชารัฐ 12 คน, พรรคเพื่อไทย 8 คน, พรรคก้าวไกล  8 คน, พรรคเศรษฐกิจไทย 2 คน, พรรคประชาธิปัตย์, พรรคเสรีรวมไทย นอกจากนี้ พรรครวมพลัง พรรคประชาภิวัฒน์ พรรคประชาชาติ พรรคชาติพัฒนา พรรคละ 1 คน  ซึ่งยังไม่รวม ส.ส. ที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ อีก 8 คน และส.ส. ที่พ้นสมาชิกภาพ อีก 14 คน

‘ประธานชวน’ ชี้รับสภาฯ ยุคนี้ไม่เหมือนในอดีต ‘หัวหน้ารัฐบาล-หัวหน้าพรรคแกนนำ’ ไม่ได้เป็น ส.ส.

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ขณะนี้มี ส.ส. ยื่นลาออกเป็นจำนวนมากจะส่งผลกระทบต่อองค์ประชุมสภาฯ หรือไม่ว่า ตรวจดูตัวเลขกันอยู่ขณะนี้ มีองค์ประชุมอยู่ทั้งสิ้น 442 คน กึ่งหนึ่งก็คือ 221 คน ฝ่ายรัฐบาล มี 250 คน ฝ่ายค้านมี 152 คน องค์ประชุมก็ถือว่ายังพร้อมอยู่

แต่ถึงอย่างไรตนอยากให้กำลังใจคนที่อยู่ให้มาทำงาน เพราะเวลาที่มีอยู่ก็มากพอที่จะพิจารณาหลายเรื่อง เมื่อไปตรวจดูแล้ว มีเรื่องที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว 20 เรื่อง ซึ่งเสียเวลาพิจารณาไปเป็นปี เสียงบประมาณไปเป็นล้านบาท บางเรื่องเสียไปกว่า 2 ล้านบาท ฉะนั้นเรื่องที่ยืดเยื้อมาเป็นปีๆ เหล่านี้ควรจะจบในตอนสุดท้าย จึงคิดว่า ต้นปี 2566 จะหารือเรื่องการเพิ่มวันประชุม ในวันศุกร์ โดยพรุ่งนี้ (16 ธ.ค. 65) คิดว่า น่าจะผ่านเรื่องที่ กมธ. พิจารณาเสร็จแล้วได้หลายเรื่อง สมาชิกควรร่วมกันทำผลงานเหล่านี้ออกมา

ส่วนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ….  นายชวน บอกว่า คงใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์ เพราะอย่างที่เห็นในวันที่ 14 ธ.ค. 65 ทั้งวันพิจารณาไปได้เพียง 3 มาตรา เนื่องจากอภิปรายกันยาว แต่ต้องขอบคุณสมาชิกในการร่วมกันประหยัดเวลา ทั้งนี้ ยังมีกฎหมายสำคัญๆ ประมาณ 3 ฉบับ ถ้าทำให้แล้วเสร็จในช่วงต้นปี 2566 จะทำให้เรื่องที่ กมธ.พิจารณาเสร็จแล้วอีกประมาณ 4-5 เรื่อง สามารถนำเข้ามาเพื่อให้สภาฯ ให้ความเห็นชอบ และประกาศเป็นกฎหมายได้เลย

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การที่ส.ส.ทยอยลาออกไม่ส่งผลกระทบต่อองค์ประชุม นายชวน กล่าวว่า จำนวน ส.ส. ลดลง องค์ประชุมก็ลดลง ที่เหลืออยู่ก็ถือว่าสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้

เมื่อถามว่า ตั้งแต่อยู่สภาฯ มาเคยเจอปรากฏการณ์ส.ส. แห่ลาออกถึงกว่า 30 คนหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า มีในสมัยพรรคความหวังใหม่ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็มีการลาออกในลักษณะนี้ แต่สภาฯ ชุดนั้นก็ทำงานจนกระทั่งผลงานออกมามากที่สุดครั้งหนึ่ง จนวาระสุดท้ายก่อนครบ 4 ปี 7 วัน ตนก็ยุบสภาฯ เพราะพูดไว้ก่อนว่าจะอยู่ไม่ครบ ก็เลยต้องทำตามที่พูด

“แต่เที่ยวนี้ สภาฯ ไม่เหมือนในอดีต สมัยก่อนหัวหน้ารัฐบาลจะเป็น ส.ส. และพรรคที่เป็นแกนนำรัฐบาล หัวหน้าพรรคก็จะเป็น ส.ส. ด้วย แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีทั้ง 2 อย่าง เราจึงเห็นว่าเวลามีปัญหา จะหันหน้าไปถามใครยาก เพราะหัวหน้ารัฐบาลไม่ได้มาจากพรรคการเมือง และหัวหน้าพรรคใหญ่ ก็ไม่ได้อยู่ในสภาฯ คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) จึงน่าเห็นใจ ใครจะตำหนิก็ตาม แต่ผมนั่งดูเขาทำงานก็เห็นใจและให้กำลังใจ แต่วิธีความร่วมมือก็ช่วยได้เยอะ เช่น ผมประสานงานไปยังผู้นำฝ่ายค้านเองว่า เรื่องใดที่เป็นประโยชน์กับสมาชิกควรจะให้ผ่านไปได้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของฝ่ายรัฐบาล เป็นเรื่องของฝ่ายค้านด้วย ภาพรวมความร่วมมือนี้ ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ หวังว่าเวลาที่มีอยู่กว่าจะถึงช่วงที่มีการยุบสภาฯ ซึ่งเราก็ยังไม่รู้ แต่ก่อนถึงช่วงนั้น เรื่องที่ต้องเสียเวลา เสียเงิน ก็คงต้องผ่านไปทุกเรื่อง” นายชวน กล่าว