SHARE

คัดลอกแล้ว

เรื่องเดือดในโซเชียลฯ ระหว่างผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย กับ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ เจี๊ยบ กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ถูกถกเถียงกว้างขวาง เมื่อผู้ใช้โซเชียลฯ ที่ถูกรู้จักในนาม ‘ปีใหม่ ‘ ออกมาร้องเรียนว่าถูก ‘อมรัตน์’ คุกคาม แบบล่าแม่มด มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวและอีกหลายเรื่อง ขณะที่ทาง ‘อมรัตน์’ ก็ออกมายืนยันว่า ที่ทำไปเพื่อปกป้องตัวเองที่เป็นเหยื่อจาก ‘ปีใหม่’ สำนักข่าว TODAY สรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไล่เรียงดังนี้

เริ่มต้นที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า ปีใหม่ ปีใหม่ โพสต์จดหมายเปิดผนึก ลงชื่อ ปีใหม่ ศิริกุล ในวันที่ 19 ก.ย. 66 ถึง 4 นักการเมือง ประกอบด้วย นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

เรื่อง ขอความเป็นธรรมและขอความคุ้มครองจากการถูกข้าราชการการเมือง (ที่ปรึกษารองประธานสภาฯ คนที่ 1) เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว ข่มขู่คุกคาม ไล่ล่าแม่มด และใช้อำนาจหน้าที่บีบบังคับให้เอกชนสนองความต้องการให้ตน

ใจความโดยสรุประบุถึง อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ที่ปรึกษารองประธานสภาฯ คนที่ 1 (นายปดิภัทธ์ สันติภาดา) ได้โพสต์และทวีตข้อมูลส่วนตัวของตน อาทิ ชื่อเล่น อายุ วันเดือนปีเกิด บ้านเลขที่ ที่อยู่ หมู่บ้าน รูปพรรณสัณฐานที่พักอาศัย เช่น สีประตูรั้วบ้าน สีรถยนต์ที่ใช้ รวมถึงระบุชื่อมารดา จำนวนบุตร และยังได้ระบุสถานที่ทำงานพร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ทำงานโดยละเอียด

นอกจากนี้ ยังขอให้ผู้จัดการฝ่ายบุคคลของบริษัทที่ตนทำงานอยู่ ตักเตือนหรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยผู้ที่โพสต์จดหมายเปิดผนึกดังกล่าว ยอมรับว่า โพสต์วิจารณ์การเมือง นักการเมือง และพรรคก้าวไกลจริง โดยใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ระบุชื่อ สกุลจริงของใคร ไม่มีคำไหนสร้างความเสียหาย และไม่ได้คิดร้ายหมายขวัญใครถึงชีวิต ใช้สิทธิเสรีภาพตามกรอบกฎหมายทุกประการ

“หากนางอมรัตน์รู้สึกว่าดิฉันทำความเสียหายให้นาง นางก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้” ผู้โพสต์จดหมายเปิดผนึกดังกล่าวระบุ

ทั้งนี้ ผู้โพสต์ฯ มีการชี้แจงต่อว่า “ดิฉันไม่ได้กระทำในนามบริษัท และไม่ได้โพสต์ในเวลางาน เวลาที่โพสต์นอกเวลางาน เช่น ก่อนเริ่มงาน พักเที่ยง หลังเลิกงาน วันหยุด หรือ วันที่ดิฉันใช้สิทธิลางานทั้งสิ้น ดิฉันได้แจ้งต่อผู้บริหารว่า นางอมรัตน์เริ่มโพสต์เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวดิฉันก่อนหน้านี้แล้ว 1 ครั้งเมื่อกลางเดือนสิงหาคม โดยดิฉันไม่ได้ตอบโต้อะไรนางรุนแรงเกินไปกว่าการโพสต์อธิบายข้อเท็จจริงหักล้างข้อความเท็จที่นางกล่าวหาดิฉัน เหตุเกิดหลังดิฉันประกาศยุติสงครามเหลืองแดง ขอเชิญชวนเหลืองแดงสมานฉันท์เดินหน้าประเทศด้วยกัน และขอโทษคนเสื้อเหลือง หากเคยใช้วาจาไม่สุภาพต่อกันในอดีต”

“ดิฉันจึงจำเป็นต้องเรียนมาเพื่อขอความเป็นธรรม และขอคืนความรู้สึกปลอดภัยให้ครอบครัวดิฉันจากทุกท่าน ประชาชนของประเทศไทย ควรต้องได้รับความคุ้มครองสวัสดิภาพ ต้องไม่ตกอยู่ในอันตรายจากการไล่ล่าแม่มดจากนักการเมือง จากข้าราชการการเมือง และหรือจากประชาชนด้วยกัน” ผู้โพสต์ฯ ระบุทิ้งท้าย

‘อมรัตน์’ ชี้แจงยืนยันไม่ได้คุกคามแต่ปกป้องตัวเอง

ด้าน อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นโดยสรุปว่า ต้องขออภัยที่อาจจะทำให้สังคมในโลกโซเชียลฯ มีความเป็นพิษ (Toxic) ยินดีน้อมรับถ้าจะมีเรื่องทางกฎหมายตามมา แต่ตนขอชี้แจงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจาก ‘อาการเหลือทน’ จากการเป็นผู้กระทำต่อเนื่องยาวนาน คนที่ไม่ได้ชื่อจริงในการเปิดบัญชี ใช้พื้นที่ในสังคมโซเชียลฯ ปั่นกระแสข่าวเท็จ ด่าทอโจมตี ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นอย่างไม่มีเหตุผลรองรับ มีผู้ได้รับผลกระทบมากมาย เพจดังกล่าวเป็นของอินฟลูเอนเซอร์ ที่มีผู้ติดตามเป็นระดับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่

“จุดที่มันทนไม่ไหวก็คือการเอาภาพไปตัดต่อ ซึ่งอันนี้เป็นความผิดฐานนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เอาภาพตัวดิฉันไปตัดต่อกับภาพกำนันนก… และมีการกล่าวหาทำนองให้เข้าใจว่ามีความเกี่ยวพันกับมาเฟียหรืออะไรต่างๆ หลายๆ โพสต์ รู้สึกว่าทนไม่ไหว แล้วก็มีคนให้เบาะแสมาว่า คนนี้มีตัวตนที่พยายามจะแสดงออก ที่ทำให้สังคมเข้าใจผิดว่า เป็นบุคคลที่เป็นแบ็คอัพ…  แต่ในฐานะที่เราเป็นผู้ถูกกระทำ เริ่มจากการที่เราเป็นเหยื่อต่อเนื่องมายาวนาน 2-3 ปีแล้ว พอเราเป็นเหยื่อแล้วก็มีความรู้สึกว่าเอ๊ะเป็นใคร… พอดิฉันได้ทราบว่าน่าจะเป็นบุคคลนี้ ทำงานอยู่ที่นี่ที่นั่น ดิฉันก็ได้เช็กไปทางที่ทำงานว่าเป็นพนักงานของโรงงานนี้บริษัทนี้จริงหรือไม่ เมื่อโทรไปเช็กแล้วผู้จัดการฝ่ายบุคคลก็ขอหลักฐานว่า พนักงานตัวเองไปใช้ช่องทางโซเชียลในเวลาทำงานหรือเปล่า…”

(ภาพ ธนัญชัย แก้วโสวัฒนะ / Thai News Pix)

‘อมรัตน์’ ระบุด้วยว่า พอได้แอดไลน์กันเขาก็ขอหลักฐาน จากนั้น ตนจะกลับบ้านที่ จ.นครปฐม บริษัทเป็นทางผ่าน จึงได้แวะและแลกบัตรเข้าไป ก็ได้รับการต้อนรับจากผู้จัดการฝ่ายบุคคลและกรรมการบริหารของบริษัทนี้มีการพูดจากันด้วยความสุภาพ ไปคนเดียว และได้ทราบว่าทางทางบริษัทสรุปจะมีการทำหนังสือตักเตือนบุคคลดังกล่าวตามระเบียบของบริษัท โดยเจ้าตัวก็ยินยอม ตนไม่คิดว่าเป็นการคุกคามหรือข่มขู่ ส่วนที่ตนโพสต์ลงในโซเชียลฯ คิดว่า มาตรการทางกฎหมายก็ใช่แต่ต้องใช้มาตรการทางสังคมด้วย

“ถ้ามีส่วนไหนที่จะผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมาย PDPA เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ก็ยินดีที่จะต่อสู้ตามกระบวนการของกฎหมาย แต่ขออภัยนิดนึงว่า การเปิดเผยข้อมูลนั้น เปิดเผยอยู่ในกรอบที่คิดว่า ไม่ได้เข้าข่ายกฎหมาย PDPA เพราะไม่ได้บอกชื่อจริง นามสกุลจริง ไม่ได้บอกเลขที่บัตรประชาชน ไม่ได้บอกทะเบียนรถ ไม่ได้บอกบ้านเลขที่อย่างชัดเจน ไม่ได้บอกพิกัดหมู่บ้านจัดสรรอย่างชัดเจน ก็อันนี้ก็ไปว่ากันในชั้นศาล”

‘อมรัตน์’ ยืนยันว่าไม่ได้ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ทำอย่างมีสติ ตัดสินใจว่าต้องช่วยเหลือตัวเอง ไม่ทนที่จะเป็นเหยื่ออีกต่อไป แต่มาตรการที่เราตอบโต้ ถ้ามันจะมีความเกินเลยไปบ้างเราก็พร้อมรับผิดชอบ ส่วนตำแหน่ง ที่ปรึกษารองประธานสภาฯ คนที่ 1 ขึ้นอยู่กับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา แต่งตั้งจะพิจารณาอย่างไร ย้ำทำด้วยสติ และคิดว่าสิ่งที่ทำก็คุ้มค่าด้วย เอาคนอยู่ในเงามืดออกมาให้คนรู้จัก ทำหน้าที่เป็นเหมือนไฟฉาย น่าจะเป็นการป้องปรามไม่ไปทำร้ายใคร

‘หมออ๋อง’ พร้อมพิจารณาตำแหน่ง ‘อมรัตน์’ 

ขณะที่ ‘ปดิพัทธ์’ กล่าวถึงกรณีนี้ ยืนยันว่า กรณีของ ‘อมรัตน์’ เป็นการแสดงออกที่ไม่เหมาะสม แต่จำเป็นต้องทราบข้อเท็จจริงจากทั้ง 2 ฝ่าย และเมื่อมีการทำความผิดจริงพร้อมที่จะเปลี่ยนตำแหน่งจากที่ปรึกษารองประธานสภาฯ

ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย หลายคนออกมาเคลื่อนไหวกับกรณีนี้เช่นเดียวกัน เช่น นายนิยม นพรัตน์ หรือ ‘เค สามถุยส์’ วันนี้ได้เข้ายื่นหนังสือกับ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เพื่อให้ส่งเรื่องไป ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในนามกลุ่ม the red FC เพื่อไทย ให้ตรวจสอบจริยธรรมของนางอมรัตน์ จากกรณีมีพฤติกรรมการข่มขู่คุกคามประชาชน จากการโพสต์ข้อมูลชื่อที่อยู่ ของผู้ที่เห็นต่างทางการเมือง

โดยมีแฮชแท็กที่ติดเทรนด์ใน X (ทวิตเตอร์) ไทย 2 แฮชแท็กคือ #อมรัตน์คุกคามประชาชน และ #ปีใหม่

ล่าสุด ‘อมรัตน์’ เคลื่อนไหวผ่าน X (ทวิตเตอร์) ส่วนตัวอีกครั้ง ระบุ ได้แจ้ง ‘ชัยธวัช’ รักษาธิการเลขาธิการพรรค ขอแสดงความรับผิดชอบ โดยให้พรรคก้าวไกลตัดสิทธิการถูกเสนอชื่อเข้าดำรงตำแหน่งบริหารในพรรค  

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า