‘พิธา’ ยันไม่ยื่นร้องศาลรธน.เอง ปมเสนอชื่อนายกฯ ซ้ำ ปัญหาของสภาควรแก้ที่สภา

‘พิธา’ ยันไม่ยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญเอง ปมเสนอชื่อนายกฯ ซ้ำ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องในกรณีผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณีรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบการเสนอชื่อนานพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี รอบ 2 ถือเป็นญัตติทั่วไปห้ามนำเสนอญัตติซ้ำได้อีกหรือไม่ว่า คิดว่าเป็นปัญหาของสภาดังนั้นก็ควรแก้กันอยู่ที่สภา อย่างที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล ได้ยื่นญัตติหารือต่อที่ประชุมไปแล้ว ซึ่งตนไม่ได้คิดว่า เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องอะไรกับการสิ้นสุดหรือการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ถ้าประธานสภาบอกว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไป ก็คงสามารถที่จะไปต่อได้ และคิดว่า ปัญหาที่สภาก็ควรแก้ที่สภา

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะยื่นเองหรือไม่ เพราะมติที่ตีตก เป็นเพราะผู้ที่มาร้องไม่ได้เป็นผู้เสียหายโดยตรง นายพิธา ระบุว่า ไม่ได้ยื่น เพราะอย่างที่บอกว่าเป็นเรื่องของนิติบัญญัติก็อยู่ที่นิติบัญญัติ

ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้ขยายเวลาการชี้แจงคำร้อง เรื่องการหาเสียงแก้ไข ม.112เป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ จะเป็นผลดีกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายพิธา ระบุว่า ตามปกติก็มีโอกาสได้ขยายว่ามันไม่ได้เป็นการล้มล้างอย่างที่ถูกกล่าวหา

นายพิธา กล่าวด้วยว่า ในช่วงวันศุกร์- อาทิตย์นี้ จะลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร สส. เขต 3 จ.ระยอง ของพรรคก้าวไกล หาเสียงในการเลือกตั้งซ่อม เช่นเดิม

‘ก้าวไกล’ ลุยต่อดันญัตติทบทวนมติรัฐสภาห้ามเสนอชื่อซ้ำ ในวันโหวตนายกฯ รอบต่อไป

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีสภาโหวตเลือกนายกฯ เนื่องจากผู้ร้องเรียนไม่ใช่บุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพโดยตรง ไม่อาจใช้สิทธิยื่นคำร้องเรียนได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้พิจารณาในเนื้อหาสาระข้อเท็จจริง แต่ยกเรื่องเทคนิคกระบวนการมาเป็นเหตุผล สำหรับพรรคก้าวไกล ยืนยันโดยตลอดว่า กรณีเช่นนี้ รัฐสภาควรแก้ไขปัญหากันเองได้ ไม่จำเป็นต้องให้องค์กรภายนอกอย่างศาลรัฐธรรมนูญเข้ามา อะไรก็ตามที่ทำไม่ถูกต้องหรือผิดพลาดไป รัฐสภามีอำนาจแก้ไขปรับปรุง จึงเป็นที่มาที่ทำให้พรรคก้าวไกลเสนอญัตติเพื่อให้ทบทวนว่าการที่รัฐสภาเคยมีมติว่าญัตติที่เสนอ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคก้าวไกลซ้ำ ไม่สามารถทำได้นั้น เป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องทางกฎหมาย

ดังนั้น ในโอกาสที่จะมีการเลือกนายกฯ ต่อไป พรรคก้าวไกล ขอยืนยันจะเสนอญัตตินี้ต่อไปและหวังว่า กระบวนการนี้จะทำให้รัฐสภาได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง และยืนยันว่า นี่ไม่ใช่การตีรวนทางการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเช่นนี้นายพิธา จะยื่นคำร้องเองในฐานะบุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่ยื่นแน่นอน แม้พรรคก้าวไกลจะเป็นเป้าของการไม่ให้เสนอนายกฯ ซ้ำ แต่เรายืนยันมาตลอดว่า เรื่องนี้เป็นกิจการของรัฐสภา จึงต้องการใช้กลไกของรัฐสภาในการทำสิ่งที่ถูกต้อง

“เรื่องนี้เป็นเรื่องหลักการ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง หรือเพื่อให้พิธากลับมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ อีกครั้ง ไม่ว่าแคนดิเดตเป็นใคร จะได้ประโยชน์จากข้อเสนอของพรรคก้าวไกลทั้งสิ้น เว้นเสียแต่บางกลุ่มบางพวกต้องการวางหมากให้การเสนอนายกฯ เกิดขึ้นได้ครั้งเดียว ซึ่งไม่ใช่เจตนาที่ดีแน่ๆ โดยอาจแบ่งเป็น 2 กรณี หนึ่งคือเพื่อให้พรรคก้าวไกลไม่ผ่านหรือพรรคการเมืองบางพรรคไม่ผ่าน แล้วหวังว่าตัวเองจะได้ประโยชน์ และสอง เป็นการปูทางไปสู่นายกฯ คนนอก ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย” นายรังสิมันต์ กล่าว