เลือกตั้ง 66 พล.อ.ประยุทธ์ เปิดใจหลังยุบสภา อนาคตทางการเมืองเป็นแคนดิเดตนายกฯ ให้รวมไทยสร้างชาติ

นายกฯ  ขอบคุณทุกฝ่าย หลังประกาศยุบสภา ย้ำเดินหน้าทำงานกับพรรคร่วมในช่วงรัฐบาลรักษาการ ให้ประชาชนตัดสินพอใจผลงานรัฐบาลหรือไม่ ย้ำอยู่ต่อตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ไม่ตอบลง ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลัง ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศ พระราชกฤษฎีกา ยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ขอขอบคุณทุกคน รวมถึงสภาผู้แทนราษฎรที่ช่วยกันทำงานมาหลายปี มีทั้งเรื่องสำเร็จและไม่สำเร็จบ้าง แต่ก็ขอขอบคุณทุกคนที่ได้ทำเพื่อประเทศชาติ ส่วนตัวไม่ได้มีความขัดแย้งกับใคร

นายกฯ กล่าวต่อว่า ขณะที่ผลงาน 4 ปีของตนเองนั้น ต้องสอบถามประชาชนว่ามีความพอใจหรือไม่ และได้รับประโยชน์มากน้อยเพียงใด รวมถึงสังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งอยากให้กลับไปดูว่า มีหลายสิ่งเกิดขึ้นมากมายในรอบหลายปีที่ผ่านมา ยอมรับ ยังมีหลายเรื่องมีความตั้งใจที่ยังไม่ได้ลงมือทำ แต่ยังไม่อยากจะพูดตอนนี้ เพราะหลายเรื่องพยายามจะทำ แต่ยังติดขัดหลายอย่าง โดยเฉพาะข้อกฎหมายที่เป็นปัญหาอยู่ หวังว่า รัฐบาลหน้าจะเข้ามาจัดการให้เรียบร้อย

ส่วนตัวภูมิใจการทำงานตลอด 8 ปีที่ผ่านมา คือ ขอบคุณในความร่วมมือของทุกคน โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจากหลายอย่างที่ออกมา มาจากนโยบายของแต่ละพรรค ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลทำมาแล้วทั้งหมด และที่ผ่านมาการดำเนินการ ตามนโยบายที่แยกย่อยออกไป ก็จะถูกนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำได้ ดังนั้นในอนาคตจะทำสิ่งใดก็ตามก็จะมีขั้นตอนเช่นนี้ เพราะนโยบายต่างๆ ก็มีการหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่าจะอนุมัติงบประมาณให้อย่างไร โดยยึดนโยบายการเงินการคลังด้วย ซึ่งรัฐบาลของตนเองอย่างน้อยได้สร้างสิ่งดีๆ ขึ้นมา และสิ่งที่เป็นรายได้ให้แก่ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรืออีอีซี การสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ซึ่งในการประชุมบีโอไอวันนี้ ก็ได้มีการอนุมัติการลงทุนต่างๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศหลายหมื่นล้านบาท

นายกฯ ยังขอบคุณสื่อมวลชน เพราะไม่ได้เป็นศัตรูกันอยู่แล้ว แต่บางครั้งนายกฯ อาจหงุดหงิดไปบ้าง ทำงานเยอะและเครียด แต่ยืนยันว่า ไม่ได้โกรธใคร ยอมรับที่ผ่านมาตนเองได้ประโยชน์จากการทำงานทางการเมือง ซึ่งปฏิเสธเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะตนเองก็เป็นนักการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศ สิ่งต่างๆ ที่ออกมาได้ก็เป็นการตัดสินใจของตนเอง หลังจากรับเรื่องต่างๆ มา ก็ต้องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง สมควร แต่เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วย บางเรื่องก็ผ่านไม่ได้ ดังนั้นทั้ง ครม. ต้องเห็นชอบด้วยกัน  ถ้าไม่เห็นด้วย ก็ไม่นำเสนอเข้าที่ประชุม ครม. ยืนยันหลังจากนี้ ในฐานะรัฐบาลรักษาการ จะเดินหน้าทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนเดิม ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก ต้องแยกระหว่างการบริหารประเทศและทางการเมือง

พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ขอตอบว่า จะลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ แต่ในอนาคต ก็จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค

ส่วนสนามเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าอย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามนั้น ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคกี่คนนั้น ตนไม่ทราบ และจะต้องมีแคนดิเดตสำรองไว้หรือไม่ เนื่องจากตนจะดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้อีกเพียง 2 ปี นั้น เป็นเรื่องของพรรคที่จะต้องหารือกัน

ภาพจาก : ทำเนียบรัฐบาล