‘อธิบดีกรมการข้าว’ รับแค้นแก๊งตบทรัพย์ วางแผนกับภรรยา ตั้งใจล่อซื้อ ยันไม่เกี่ยวที่ปรึกษา ‘ธรรมนัส’

‘อธิบดีกรมการข้าว’ รับแค้นแก๊งตบทรัพย์ วางแผนกับภรรยา ตั้งใจล่อซื้อ ยันไม่เกี่ยวที่ปรึกษา ‘ธรรมนัส’ แค่ชวนไปบ้าน ‘ศรีสุวรรณ’ ด้วยกันครั้งเดียวเพื่อเป็นพยาน

นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ออกมาแถลงข่าวครั้งแรก หลังตำรวจจับกุม นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก และน.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ กรณีเรียกรับเงิน 3 ล้านบาท เพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียน เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา

จุดประสงค์ของการแถลงข่าวในวันนี้ นายณัฏฐ์กิตติ์ ต้องการเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและเคลียร์ข้อเท็จจริงทั้งหมด กรณีมีผู้ไม่หวังดีพาดพิงว่า มีนายหมู ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นคนพาภรรยาของตนนำเงินไปมอบให้กับนายศรีสุวรรณ เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 66 อ้างเพื่อให้เรื่องร้องเรียนยุติลง และไม่ทำให้เสื่อมเสียต่อองค์กร

โดยสรุป นายณัฏฐ์กิตติ์ ยืนยันว่า ได้ดำเนินการเรื่องนี้กับภรรยาเพียง 2 คน จนกระทั่งวันที่ 28 พ.ย. 66 ด้วยความรำคาญ จึงตัดสินใจไปที่บ้านนายศรีสุวรรณ พร้อมกับภรรยาของตน และได้ชวนนายหมู ไปด้วยเพื่อเป็นพยาน ซึ่งไม่ใช่การไปเคลียร์ แต่ไปถามนายศรีสุวรรณ ในฐานะที่เป็นรุ่นน้องของตนที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ว่า ทำไมต้องร้องเรียน ทั้งที่ผลการสอบสวนออกมาแล้วว่าตนไม่ผิด คุยวันก็เข้าใจ หลังจากนั้นก็กลับออกจากบ้านศรีสุวรรณมา

“ผมไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่ไหนไป ผมไปกับพี่หมู กับแฟนผม 3 คน ไปในฐานะที่ว่าศรีสุวรรณ เป็นรุ่นน้องผม เป็นรุ่นน้องที่สถาบันแม่โจ้ ผมก็ไป จะเอายังไงกันแน่ พี่หมูก็พาผมไป ผมไม่มีญาติผู้ใหญ่ ผมก็ต้องมีพยานไปด้วย ถ้าไม่มีพยานไปด้วย เดี๋ยวก็ตายดิ มันก็ล่อผมหนัก ใช่ไหม ถามศรีสุวรรณจะรู้ว่าจริงไหม… ” นายณัฏฐ์กิตติ์ กล่าว

อธิบดีกรมการข้าว กล่าวอีกว่า หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์ มีการแถลงข่าวเกี่ยวกับกรมฝนหลวงฯ และวกมาที่กรมการข้าว

“ด้วยความแค้น เจ็บใจ เจ็บใจมาก ผมก็เลยวางแผนกับภรรยาผม มันเป็นใครอะ แล้วประเทศไทยจะอยู่ได้ยังไง ถ้ามีคนประเภทนี้ ผมก็เลยวางแผนกัน โดยผมไม่ได้ให้ทีมงานทางท่านรัฐมนตรีเดือดร้อน ผมหารือกับแฟนผมแล้วบอกว่าไม่ต้องอะ เราลุยกันเองเลย เราก็พอมีเงินอยู่ กลัวอะไรวะ สู้ไม่ได้ก็จ้างทนายสู้สิ ไม่ต้องไปเดือดร้อนกับใคร เพราะเดือดร้อนแล้วดึงคนนั้นคนนี้มา มันเสียหายหมด ไม่ได้ งานนี้ผมจัดการเอง ผมก็เลยต้องรวบรวมหลักฐานแล้วไปที่ ปปป. เนี่ยก็คือสาเหตุหนึ่ง อย่างอื่นไม่มีอะไร ด้วยความรำคาญ เข้าใจคำว่ารำคาญไหม แล้วผมน่ะเป็นคนหัวร้อนด้วย แล้วผมไม่ผิดแล้วผมก็บอกแล้ว คนที่ไปร้องเรียนผม ผมไม่ผิดน่ะผมสู้ตายนะ ตายเป็นตาย ผมไม่ได้กลัวอยู่แล้ว ชีวิตเราเกิดได้ครั้งเดียว ถ้าไม่ผิดแล้วอย่ามาแกล้งกัน จะผิดไม่ผิดเนี่ยมันเป็นข้อกฎหมาย ผมเป็นข้าราชการ ถ้าผมผิดผมก็ต้องถูกสอบสวน แต่วันนี้ผมถูกสอบสวนออกมาหมดแล้ว ผลการสอบสวนไม่มีมูล ก็ไม่มีมูลจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรให้มันผิด ไม่ได้ทำอะไรผิด ทุกอย่างมันโปร่งใส ชัดเจน ตรวจสอบได้ ” นายณัฏฐ์กิตติ์ กล่าว

อธิบดีกรมการข้าว กล่าวด้วยว่า ทีมที่ปรึกษารัฐมนตรีรู้ภายหลัง โดยตนได้โทรศัพท์มากราบขอโทษ รมว.เกษตรฯ ที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า กลัวเดือดร้อนเพราะตน ยืนยันตนรับราชการก็มีธุรกิจทำด้วยสุจริต ที่เจ็บใจมากที่สุดคือกว่าตนจะเลี้ยงไก่ได้แต่ละตัว ดันไปบอกว่าภรรยาตนฆ่าตีนไก่ นี่คือจุดแค้นมาก

ส่วนเหตุผลที่มีการติดกล้องวงจรปิดทั้งกรมการข้าว นายณัฏฐ์กิตติ์ เล่าว่า คืนหนึ่งมีโทรศัพท์เข้ามาไม่รู้ว่าเบอร์ใคร ขณะที่ตนกำลังสวนมนต์ โทรกลับไปไม่มีคนรับ พอเช้าโทรกลับมา ขอกินกาแฟด้วย ตนตอบกลับไปว่าได้ และได้สั่งลูกน้องติดกล้องวงจรปิดทั้งกรม

“ผมตั้งใจล่อซื้อเลยละ ผมตั้งใจล่อมันบอกตรงๆ” นายณัฏฐ์กิตติ์ อธิบายถึงเหตุผลที่ทยอยโอนเงินหลายครั้ง เพื่อรวบรวมหลักฐานให้แน่นหนา ไม่ทำโดยพลการ โดยก่อนล่อซื้อได้เข้าไปพบกับตำรวจก่อน และได้ปฏิเสธที่เปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากอยู่ในสำนวน

ผู้สื่อข่าวถามว่าตั้งแต่เกิดคดีขึ้นมาได้มีนักการเมือง หรือคนในกระทรวงเกษตรฯ บอกให้เบาหน่อยไหม อธิบดีกรมการข้าว ตอบว่า “ไม่มี ผมไม่รับโทรศัพท์ใครทั้งนั้น ไลน์ก็ไม่รับ ไม่อ่าน ทีวีผมก็ดูบ้างไม่มีดูบ้าง… ภรรยาก็ไม่มี เพราะว่าผมไม่รับโทรศัพท์ใครทั้งนั้น”

เมื่อถามว่า อะไรที่ทำให้ครอบครัวตกเป็นเป้า มีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายณัฏฐ์กิตติ์ ตอบคำถามเหล่านี้ว่า “ไม่รู้” และว่า ตั้งแต่รับราชการมาไม่เคยเกิดกรณีเช่นนี้มาก่อน ตนหยิ่งในศักดิ์ศรี จะสู้อะไรต้องสู้จริงๆ ตนเป็นข้าราชการดีเด่น ได้ครุฑทองคำ

เมื่อถามถึงงบประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ที่นายศรีสุวรรณร้องเรียน อธิบดีกรมการข้าว ชี้แจงว่า ไม่ได้ใช้ เพราะโอนให้ ธ.ก.ส. ตามที่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมาแล้ว เพื่อจ่ายเยียวยาชาวนาไร่ละ 1,000 บาท บอกทุกคนที่จะมาร้องเรียนแล้วว่าอย่าไปร้อง เพราะไม่ใช่ความจริง สำหรับเรื่องบัตรสนเท่ห์ร้องเรียน นายณัฏฐ์กิตติ์ ระบุว่า ได้แจ้งความแล้ว สภ.แก้งสนามนาง จ.นครราชสีมาแล้ว

เมื่อถามถึงคลิปเสียงแอบอ้างผู้ใหญ่ นายณัฏฐ์กิตติ์ ระบุว่า เป็นการแอบอ้างผู้ใหญ่เพื่อให้ตนเกรงกลัว ส่วนที่ต่อรองเงินที่เรียกรับ เพราะต้องการหลักฐาน ยืดระยะเวลาให้ถึงที่สุด หลักฐานแน่นที่สุดถึงจับได้ ย้ำ ร.อ.ธรรมนัส ไม่รู้เรื่องด้วย ตนทำกับภรรยาและตำรวจ ปปป. เก็บข้อมูลทุกวัน แล้วก็ไปหาตำรวจ ก็ได้รับคำแนะนำว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้

เมื่อถามว่า ในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องอยากบอกอะไรกับนายศรีสุวรรณ อธิบดีกรมการข้าว บอกว่า “ลงสระดิ ก้านกล้วย วิ่งรอบสระ 3 รอบ”

นายณัฏฐ์กิตติ์ กล่าวด้วยว่า ตนบริสุทธิ์ ถามว่าเรื่องนี้ถ้าตนไม่ออกมาเปิดโปงสังคมจะอยู่อย่างไร จะให้ข้าราชการถูกรังแกแบบนี้หรือ ใครจะสู้บ้าง ตนสู้เสี่ยงขนาดไหน เป็นข้าราชการระดับสูง ถ้าไม่มั่นใจจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเขาล่มตนกลับ วันนี้ต้องปกป้องศักดิ์ศรีข้าราชการ ศักดิ์ศรีผู้บริหารในกระทรวงเกษตรฯ หลักฐานที่เห็นในตอนนี้เป็นแค่เบื้องต้นยังมีอีก และว่าต้องการให้เรื่องนี้เป็นบรรทัดฐานของสังคม

“มันมาดูถูกผมเกินไป เข้าใจคำว่าดูถูกข้าราชการไหม คุณเห็นว่าข้าราชการเป็นอะไร เงินเดือนน้อยก็จริง แต่มีศักดิ์ศรีนะโว้ย บางวันผมกินมาม่ากับไข่ต้ม เสาร์อาทิตย์ผมก็ไม่ได้หยุด มีเวลาผมก็ไปเลี้ยงไก่ ดึกดื่นเที่ยงคืนผมก็ดูกล้องวงจรปิดให้ลูกน้องไล่ไก่ไปกินอาหาร เสาร์อาทิตย์ผมก็ต้องขับรถปิคอัพเองไม่มีใครรู้กับผมเหรอ ขับรถไปซื้อโครงไก่มาบดให้ปลาดุกผมกิน กว่าผมจะได้เงินมา” นายณัฏฐ์กิตติ์ กล่าวทิ้งท้าย

นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ไหว้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่มาให้กำลังใจ หลังการแถลงข่าวในวันนี้ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภาพ ธนัญชัย แก้วโสวัฒนะ /Thai News Pix