SHARE

คัดลอกแล้ว

นายกฯ พบ ‘หวัง อี้’ หลังลงนามยกเว้นวีซ่าไทย-จีน ถาวร เริ่ม 1 มี.ค. นี้ เผยจีนหนุนส่ง ‘แพนด้า’ กลับมาอยู่สวนสัตว์เชียงใหม่ อีกครั้ง ระบุภาครัฐและเอกชนจีน สนใจโครงการ ‘แลนด์บริดจ์’

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยถึงการหารือร่วมกับนายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า มีการพูดคุยกันในหลายมิติ และลงนามวีซ่าฟรี ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ เริ่มต้นวันที่ 1 มี.ค. นี้ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ถือเป็นการแสดงความไว้วางใจ ซึ่งกันและกัน เป็นมิตรภาพที่ที่ดีต่อกันยาวนาน และจะครบ 50 ปี ในปี 2568 นี้ จึงเป็นนิมิตหมายอันดีที่สนับสนุนการไปมาหาสู่กันระหว่าง 2 ประเทศ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็นเศรษฐกิจหลักในประเทศไทย ขณะที่นายหวัง อี้ ก็ระบุว่า ประเทศจีนก็มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย และอยากให้นักท่องเที่ยวชาวไทยไปเที่ยวประเทศจีนด้วย ซึ่งตนเองก็สนับสนุนการไปมาของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ

ทั้งนี้ นายเศรษฐา ได้บอกกับทางการจีนว่า ยังมีจำนวนเที่ยวบินที่ยังไม่กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งก่อนสถานการณ์โควิด มีถึงสัปดาห์ละ 2,000 ไฟล์ท ปัจจุบันเหลือแค่ 1,200 ไฟล์ทต่อสัปดาห์ ดังนั้นจึงจะยกระดับการเดินทางระหว่าง 2 ประเทศ ไปมาหาสู่กันให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น มั่นใจว่า เมื่อมีการปรับจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามายังประเทศไทยสูงขึ้น และนักท่องเที่ยวชาวไทยก็จะได้ไปท่องเที่ยวประเทศจีนที่มีวัฒนธรรมอันดีงาม จึงเป็นผลดีต่อทั้งสองประเทศ

แต่ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถระบุได้ว่านักท่องเที่ยวชาวจีนจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าเพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น ที่มีความสัมพันธ์กันมาอย่างดี และในปีหน้าครบรอบความสัมพันธ์ 50 ปี ตนจึงเรียนเชิญ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางมาเยือนประเทศไทยด้วย

นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงกรณีที่นายหวัง อี้ พบปะหารือประชุมกับนายเจค ซัลลิเวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา ในกรุงเทพฯ ว่า ประเทศไทยมีเจตนารมณ์ให้การสนับสนุนและเป็นประเทศกลาง ที่สหรัฐฯ และจีน เป็นเวทีพูดคุยกันในหลายมิติ ซึ่งต่อไปในอนาคตก็ยินดีสนับสนุนการเจรจาในลักษณะเช่นนี้ให้เกิดขึ้น ซึ่งจีนระบุว่าต้องเป็นประเทศไทย ทำให้บ่งบอกถึงความสัมพันธมิตรไมตรีจิตที่ดีต่อกันมาโดยตลอด ทำให้เลือกประเทศไทยมาเป็นที่พูดคุย เป็นการประชุมประวัติศาสตร์ครั้งแรกก็ว่าได้ จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับประเทศไทย

นอกจากนี้ ได้มีการพูดคุยเรื่องการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งได้มีการพูดคุยกันในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ใช่เพียงแค่รถอีวี (EV) อย่างเดียว ยังมีเรื่องรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ซึ่งจะผ่านหนองคาย ประเทศลาว ไปยังประเทศจีน ซึ่งมีปัญหาเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้า ก็มีการพูดคุยในที่ประชุมด้วย โดยให้คณะทำงานทั้งสองประเทศ มาทำงานร่วมกัน ซึ่งเรื่องนี้ไทยมีแผนงานอยู่แล้ว หากแผนงานถูกต้อง มีรายละเอียดแล้วจะแถลงให้ทราบอีกครั้ง

อีกทั้งยังได้หารือการค้าขายด้านเกษตรกรรม โดยเฉพาะการค้าโค ซึ่งประเทศจีนมีความต้องการเป็นอย่างมาก แต่ด่านกักกันตรวจเชื้อโรค อยู่ที่ประเทศลาว ทำให้การค้าระหว่างสองประเทศไม่สะดวก จึงได้มีการพูดคุยและเสนอว่าอยากให้มีด่านกักกันตรวจโรคสัตว์ในประเทศไทย ไม่ใช่แค่ในประเทศลาว ซึ่งทางการจีนก็รับปากจะดำเนินการให้เกิดขึ้น

นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า ได้ร้องขอให้แพนด้า ให้กลับมาประเทศไทยอีกครั้ง เนื่องจากในขณะนี้ไม่มีแพนด้า ในสวนสัตว์เชียงใหม่แล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่บังเอิญ 2-3 วันที่ผ่านมา ตนเองได้ดูในแอปฯ X (ทวิตเตอร์) ว่าแต่ละประเทศมีแพนด้าอยู่กี่ตัว ซึ่งในประเทศไทยพบว่ามี 0 จึงเป็นกระจกสะท้อนที่ไม่ดีกับความสัมพันธ์ทางด้านการทูตที่ดำเนินการมาอย่างดีตลอด 50 ปี ตนจึงตัดสินใจขอไป และทางการจีนก็ยินดีให้การสนับสนุน ต่อไปไทยก็จะมีแพนด้ากลับมาอีกครั้งที่สวนสัตว์เชียงใหม่อีกครั้ง

นอกจากนี้ ได้มีการลงนามพิธีสารว่าด้วยข้อตกลงกำหนดการตรวจสอบและกักกันโรคต้นสนใบพายส่งออกจากไทยไปจีน และความตกลงเพื่อแก้ไขพิธีสารว่าด้วยหลักเกณฑ์การ ตรวจสอบการกักกันและสุขอนามัยทางสัตวแพทย์เพื่อการส่งออกสัตว์ปีกแช่แข็งไทยไปจีน ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเอกอัครราชทูตจีน

นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า นายหวัง อี้ ได้เอ่ยขึ้นมาว่าจีนสนใจโครงการแลนด์บริดจ์ และต้องการข้อมูลเพิ่มไม่ใช่แค่รัฐบาลจีนอย่างเดียว เอกชนจีนก็ด้วยที่ต้องการที่จะมีส่วนร่วม เนื่องจากทราบดีว่า หนึ่งในเหตุผลหลักที่ประเทศไทยต้องการลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์ เพราะการลงทุนที่เข้ามาจากประเทศจีน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีบริษัทใหญ่ของจีน มาลงทุนสร้างโรงงานผลิตและอุตสาหกรรมที่ใหญ่มากในเมืองไทย ไม่ใช่แค่มาผลิตตามความต้องการของคนไทยอย่างเดียว แต่ต้องการเป็นศูนย์กลางการส่งออก ดังนั้นไทยจึงจำเป็นต้องมีท่าเรือน้ำลึก และมีโครงการเมกะโปรเจ็กต์ใหญ่ๆ อย่างโครงการแลนด์บริดจ์มาสนับสนุนโครงการดังกล่าว โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะเดินทางไปในประเทศจีนเร็วๆ นี้ เพื่อจัดโรดโชว์โครงการแลนด์บริดจ์ให้เกิดขึ้น

ภาพจาก สำนักโฆษกฯ ทำเนียบรัฐบาล

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า