ศาลฎีกา พิพากษาจำคุก 2 ปี ‘ธาริต’ ไม่รอลงอาญา หลังถูกฟ้องปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี ‘ธาริต’ อดีตอธิบดีดีเอสไอ ไม่รอลงอาญา หลังถูกฟ้องปฏิบัติหน้าที่มิชอบ แจ้งข้อหา ‘อภิสิทธิ์-สุเทพ’ สั่งสลายม็อบนปช. ปี 53 ยกฟ้องจำเลยอื่นทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.20 น. วันนี้ (10 ก.ค. 66) ที่ศาลอาญา รัชดา ศาลฎีกายกคำร้องของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ยื่นคำร้องต่อศาลคัดค้านองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาและขอให้ประธานศาลฎีกาคนปัจจุบัน และที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามีคำทบทวนคดีนี้ และอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ยืนตามศาลอุทธรณ์ เห็นว่า นายธาริต มีเจตนากลั่นแกล้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะ ผอ.ศอฉ. สั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา

ส่วนจำเลยที่ 2-4 พิพากษายกฟ้อง เห็นว่า ทำตามคำสั่ง ไม่มีเจตนา นำตัวนายธาริต เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพในช่วงเย็นวันนี้

ด้าน นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ว่า การตัดสินของศาลในวันนี้ ถือว่าเป็นการสิ้นสุดการรอคอยร่วม 2 ปี โดยส่วนตัวไม่ขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่ศาลฎีกามีคำพิพากษา ถือว่าเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แม้ว่าที่ผ่านมาศาลฎีกาจะนัดมาคำพิพากษาตั้งแต่ปี 2563 แต่ก็พบว่านายธาริต มีความพยายามประวิงเวลามาโดยตลอด จนกระทั่งมาถึงวันนี้ยังยื่นคำร้องอีกหลายฉบับทำให้การอ่านคำพิพากษาล่าช้าออกไป จากที่จะต้องอ่านคำพิพากษาแล้วเสร็จตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งจะเห็นว่าคำร้องทุกคำร้องศาลได้ยกทั้งหมด แต่ศาลก็ต้องอ่านคำชี้แจงถึงการพิจารณาคำร้อง เพื่อให้นายธาริต และทนายความได้เข้าใจ

ส่วนประเด็นที่ศาลคำพิพากษาออกมาในลักษณะแบบนี้ เพราะศาลเห็นว่า นายธาริตมีความพยายามที่จะชี้นำพนักงานสอบสวน เนื่องจากตรวจสอบพบว่าการทำสำนวณในครั้งแรก พยายามชี้นำพนักงานสอบสวนว่ากลุ่มผู้ชุมนุมใช้อาวุธ เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลกลับเปลี่ยนสำนวณไปดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ที่อยู่ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ. ว่ามีคำสั่งให้ทหารใช้อาวุธและความรุนแรงจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นประเด็นที่ศาลเห็นว่ามีเจตนากลั่นแกล้ง ซึ่งศาลเห็นว่านี่คือพฤติกรรมการกลั่นแกล้ง ส่วนจำเลยที่ 2-4 ศาลยกฟ้อง เนื่องจากถูกผู้บังคับบัญชาชี้นำ จึงยกประโยชน์ให้กับจำเลยทั้ง 3 คน

นายสวัสดิ์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาไม่เคยออกมาตอบโต้ตั้งแต่กระบวนการในขั้นแรก ที่ศาลขั้นต้นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับมาให้ลงโทษจำเลยทั้งหมดจำคุก 2 ปี จนกระทั่งศาลฎีกามีคำพิพากษาสั่งให้ลงโทษนายธารืตคนเดียวจำคุก 2 ปีไม่รอลงอาญา ซึ่งตนเองก็เคารพกระบวนการยุติธรรม เพราะหากไม่เคารพกระบวนการยุติธรรมก็จะทำให้บ้านเมืองเสียหาย ซึ่งการดำเนินคดีดังกล่าวมาครบทุกศาลแล้ว ถือว่าคดีสิ้นสุดแล้ว

‘ธาริต’ ฟังคำพิพากษา พร้อมยื่นคำร้องถึงศาลฎีกา ขอนำคดีเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา

พล.อ.ประยุทธ์ บอก “ไม่เกี่ยวผม” ปม ‘ธาริต’ อ้างทหารขู่ทำคดี 99 ศพ จะทำรัฐประหาร