Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

นายกฯ ซัดฝ่ายค้านอภิปรายงง พิจารณางบประมาณฯ ปี 66 หรืองบของพรรคการเมืองใหม่ ที่ไม่ได้เป็นรัฐบาลเวลานี้ ขออย่าใช้โอกาสหาเสียง ผิดเวที

วันที่ 1 มิ.ย. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วันที่ 2 พร้อมชี้แจง ได้ฟังการอภิปรายของ ส.ส.มาตลอด ต้องขอขอบคุณในคำอภิปราย เข้าใจดีทุกคนมุ่งหวังให้ประเทศไทยก้าวหน้า-เติบโต แต่วันนี้รู้สึกงงว่าเป็นการพิจารณางบประมาณฯ ปี 66 หรืออภิปรายงบของพรรคการเมืองใหม่ ที่ไม่ได้เป็นรัฐบาลเวลานี้ อย่าใช้โอกาสหาเสียงผิดเวที

พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงในหลายประเด็น ยืนยันว่าการจัดสรรงบประมาณ ปี 66 ต้องแก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้ารายครัวเรือน เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ในส่วนของการจัดทำงบประมาณรัฐบาลมีการเตรียมการล่วงหน้า หลายปีที่ผ่านมาทำหลายอย่างให้จีดีพีสูงขึ้น สิ่งแรกวันนี้ที่เราต้องมองคือทำอย่างไรให้ทุกคนอยู่รอด แน่นอนว่าต้องมีความลำบาก รัฐบาลลำบาก ไม่ใช่รัฐบาลสบายใจมีความสุข เราคิดทุกวัน ทุกคนทำงานเต็มที่ หลายอย่างก็สำเร็จ จะพูดแต่ว่าไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลยก็ไม่เป็นธรรม

ทุกคนทำงานเต็มที่ รัฐบาลขณะนี้ลำบาก ไม่ใช่สบาย ที่ปรากฏมีผลสำเร็จหลายอย่าง ถ้าบอกว่าไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ไม่เป็นธรรมต่อรัฐบาล ประชาชนจะไม่เข้าใจสำหรับการจัดเก็บรายได้ของรัฐ ตอนนี้ไม่ได้เพิ่มอัตราภาษี ยังคงเก็บภาษี 10% เพราะไทยยังไม่เข้มแข็งเพียงพอ ยืนยันการหารายได้ไม่จำเป็นต้องรีดภาษี วันนี้รีดใครหรือยัง การหารายได้ให้กับประเทศต้องใช้ระบบดิจิทัลเชื่อมการค้าการลงทุนกับต่างประเทศ มีขั้นตอนเจรจาต่อรอง

นายกฯ กล่าวว่า ที่บอกว่ารัฐบาลหารายได้ไม่เป็น ขอให้มองย้อนไปตอนเข้ามาเป็นรัฐบาล สิ่งที่ทำคือ สร้างโอกาสและความเท่าเทียม พร้อมกับสร้างการลงทุนต่างๆ วางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อแก้ปัญหาบริหารราชการ แก้ปัญหาสถานการณ์โควิด-19 และเตรียมใช้ในการแก้ปัญหาการบริหารราชการ วางโครงสร้างต้องทำกฎหมายใหม่ แก้กฎหมายหลายฉบับ ทุกอย่างต้องอยู่บนระเบียบกฎหมาย ปฏิรูปกฎหมาย ไม่ใช่นึกจะทำก็ทำ กฎหมายใดเป็นประโยชน์ต่อแผ่นดิน เป็นประโยชน์ต่อประชาชนขอให้ช่วยผ่านเร็วๆ ก็รีบทำ ทั้งเรื่องการเสนอลดข้าราชการ เสนอบรรจุข้าราชการใหม่มีอยู่ในแผนของ ก.พ. แล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่พูดไม่มีใครฟัง หาแต่ทางโจมตี ยืนยันการใช้งบประมาณ สามารถตรวจสอบได้ เป็นนายกฯ 8 ปี รู้ว่าเป็นอย่างไร ใครถูกครอบงำหรือถูกสั่งการ รัฐบาลต้องตรวจสอบ คัดกรอง ไม่เช่นนั้นติดคุก

  • พิธา-หมอชลน่าน ประท้วง

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ใช้สิทธิพาดพิงในข้อกล่าวหาว่า สภาฯ ถูกใช้เป็นเวทีหาเสียงโดยพรรคการเมืองที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล
นายพิธา ชี้แจงว่า ข้อเท็จจริงการอภิปรายครั้งนี้เป็นเวทีพิทักษ์ภาษีประชาชน หากจะติอย่างเดียวไม่มีสิ่งใหม่นำเสนอ จะถูกมองว่าใช้เป็นเวทีการเมือง ดังนั้นจึงนำเสนอสิ่งใหม่ และตัวอย่างจากต่างประเทศเพื่อให้รัฐบาลได้เห็น และไม่ต้องกลัว หากถึงเวลาของพวกตนเมื่อไร ทำแน่นอน

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประท้วงว่า นายกฯ ระบุว่า ฝ่ายนิติบัญญัติมีหน้าที่อนุมัติงบประมาณ ถ้ารายการใดไม่เหมาะสม มีสิทธิที่จะปรับลดไม่ว่างบก้อนใด เว้นแต่กฎหมายบัญญัติว่าห้ามปรับลดเท่านั้น ซึ่งงบลงทุนกฎหมายไม่ได้บัญญัติห้ามปรับลด ถ้าท่านขอซื้อเครื่องบิน หรือเรือดำน้ำมา เราสามารถปรับลดได้ทั้งหมด

การที่นายกฯ บอกว่าปรับลดแล้วทำให้เม็ดเงินลดลง เมื่อพวกเราปรับลดแล้วเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องใช้โครงการขอใช้งบแปรญัตติหรืองบปรับลด โดยเรามีหน้าที่อนุมัติงบปรับลดนั้นให้กับโครงการที่ขอมา ซึ่งปีที่แล้วปรับลด 16,000 ล้านบาท แต่โครงการดังกล่าวไม่ได้ของบลงทุนมา มีรายการที่ กมธ.และสภาอนุมัติตามที่ท่านขอ จึงทำให้ตัวเลขของท่านเพี้ยนไป จะโทษสภาไม่ได้ เราไม่ได้มีหน้าที่ในการคุมว่าตั้งอย่างไร เรามีหน้าที่ว่าจะอนุมัติอย่างไร

นายกฯ ไม่ควรแสดงภาวะเช่นนี้ในการโยนผิดให้คนอื่น แม้กระทั่งหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติท่านยังล่วงเกินเลย ท่านไม่เหมาะจริงๆ ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เวลาตอบในสภา ฝากนายกฯ ไปบอกคนเขียนโพยด้วยว่าเวลาเขียนโพยอย่าใส่อารมณ์มาด้วย เขาเขียนใส่อารมณ์มาด้วย ทำให้นายกฯ มีอารมณ์

  • รองโฆษกฯ โต้ฝ่ายค้าน ต่างชาติยังคงสนใจลงทุนในไทยเพิ่ม

ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณแผ่นดิน ประจำปี 2566 ซึ่งเนื้อหาบางส่วนมีการวิจารณ์จากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านว่า โรงงานอุตสาหกรรมย้ายฐานการผลิต เพราะไม่เชื่อมั่นในรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารและสืบทอดอำนาจ ซึ่งหากดูตัวเลขจริงจะพบว่า

ประเทศไทยยังคงได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งภายใต้สถานการณ์โควิด-19 เห็นได้จากช่วง 4 เดือนแรกปี 2565 (ม.ค.- เม.ย.) มีจำนวนนักลงทุนต่างชาติขออนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 196 ราย เม็ดเงินลงทุนรวม 3.6 หมื่นล้านบาท ธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S-Curve) อาทิ บริการให้ใช้แพลตฟอร์มแอปพลิเคชั่น บริการขุดเจาะปิโตรเลียม บริการตรวจสอบ ซ่อมแซมสินค้าประเภทเครื่องมือแพทย์ บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า บริการรับจ้างผลิตและประกอบรถยนต์ เป็นต้น

หากดูตัวเลขจำนวนบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ก็มีแนวโน้มในทิศทางเดียวกัน คือ มีจำนวนเพิ่มขึ้น ตัวเลขระหว่างเดือน ม.ค.- เม.ย. ปีนี้ มีบริษัทจดทะเบียนตั้งใหม่ทั่วประเทศ รวม 28,083 ราย คิดเป็นมูลค่าทุนจดทะเบียน 245,497 ล้านบาท

สิ่งนี้สะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและโอกาสเติบโตในระยะยาวของไทย ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในมิติต่างๆ จากภาครัฐ
สำหรับในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 นี้ ภายใต้ยุทธศาสตร์เสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ รัฐบาลได้เสนอของบประมาณไว้ที่ 3.96 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็นเป้าหมาย อาทิ มุ่งเป้าเป็นประเทศชั้นนำ

ด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง งบประมาณ 8 หมื่นล้านบาท
ประตูการค้าการลงทุนและยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ 1.18 แสนล้านบาท เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) 1.1 หมื่นล้านบาท

จุดหมายการท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพและยั่งยืน 7.27 พันล้านบาท เป็นต้น จึงหวังว่า ร่างพ.ร.บ. งบประมาณประจำปี 2566 จะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนประเทศในช่วงเวลาอันสำคัญยิ่งเช่นนี้

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า