‘จุรินทร์’ หนุนข้อเสนอ ‘เพื่อไทย’ แก้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เป็นแบบ ‘พรรคเดียวเบอร์เดียว’

‘จุรินทร์’ เห็นด้วยกับเพื่อไทยดัน ‘พรรคเดียวเบอร์เดียว’ บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

วันที่ 16 ก.ย. 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตกล่าวว่า พรรคมีมติตั้งคณะทำงาน เพื่อยกร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่า ด้วยการเลือกตั้งส.ส. ให้สอดคล้องกับ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่รัฐสภา ผ่านวาระ 3 เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา

โดยนายจุรินทร์ ระบุว่า เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยที่จะเสนอแก้ไขบัตรเลือกตั้งให้เป็นแบบ “พรรคเดียวเบอร์เดียว” เพื่อจะได้ไม่สับสน ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แล้วใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศ จะง่ายต่อประชาชนที่จะเลือก

ส่วนกรณีพรรคเล็ก จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ถ้ารวมเสียงได้ 1 ใน 10 ก็ยื่นได้ ตนไม่กังวล เพราะเป็นเงื่อนไขและกระบวนการที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ อาจเป็นผลดี จะได้ไม่ต้องคาใจว่ากระบวนการดำเนินการ หรือประเด็นอื่นๆ ชอบตามรัฐธรรมนูญ หรือไม่

นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มั่นใจว่าประชาชนตอบรับพรรคมากขึ้น จากผลงานที่เป็นรูปธรรม ทั้งการประกันรายได้เกษตรกร และการแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งนี้มีอดีต ส.ส. 9 คน กลับเข้าพรรครวมทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วย

“จากการลงพื้นที่ในทุกภาค ทุกคนก็พูดตรงกันว่าวันนี้ประชาธิปัตย์กำลังเป็นการเดินขึ้น ไม่ใช่เป็นการเดินลง เพราะฉะนั้น ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนก็มีกำลังใจ สมาชิกคนเก่าๆ ก็กลับพรรค คนรุ่นใหม่ก็เข้ามาเติม ให้เรามีพลังมากขึ้นในการที่จะเดินหน้าพาพรรคประชาธิปัตย์ไปรับใช้ประชาชนอย่างเต็มกำลังให้มากขึ้นในอนาคตต่อไป”

‘นพ.ระวี’ รวมเสียง ส.ส.-ส.ว. เตรียมยื่นศาลรธน.ตีความ

ก่อนหน้านี้ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ได้เปิดแถลงข่าวที่รัฐสภาว่า ได้รวม ส.ส.และ ส.ว. บางส่วน ร่วมกันลงรายชื่อ “เกินครึ่ง” แล้ว เตรียมยื่นเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ การแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 83 และมาตรา 91 ที่ผ่านวาระ 3 ซึ่งผ่านการพิจารณาร่วมกันของรัฐสภาเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา

โดยเรื่องที่จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ คือ

1. การแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในวาระ 3 เป็นการแก้ไขเกินวาระ 1 เนื่องจากตามญัตติของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยื่นขอแก้ไขเพียง 2 มาตรา คือ มาตรา 83 และมาตรา 91 แต่ท้ายที่สุด ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้พิจารณาแก้ไขในมาตรา 86 ด้วย มองว่า จะเป็นการแก้ไขที่ไม่สมบูรณ์ เป็นการแก้เกมแล้วเปลี่ยนกติกาใหม่ ไม่เป็นไปตามวาระ 1

2. มีการแก้ไขเจตนารมณ์ที่สำคัญในระบบประชาธิปไตยรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ที่ได้ผ่านประชามติมาแล้ว และยังเป็นการทำลายระบบจัดสรรปันส่วนผสม ที่ถือเป็นเจตนารมณ์สำคัญในรัฐธรรมนูญปี 2560 และเป็นการทำลาย “ส.ส. พึงมี” ซึ่งถือเป็นระบบยุติธรรมที่สุดในการป้องกันการผูกขาดและเผด็จการทางการเมือง ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ยังผลให้คะแนนเสียงตกน้ำ เห็นว่า แก้ไขบัตรเลือกตั้งให้เป็นบัตร 2 ใบ จะทำให้คะแนนเสียงตกน้ำหมด