บช.น. ลั่น ต้องหามาตรการจับ ‘ผู้อยู่เบื้องหลัง’ แจงเหตุระเบิดใน ‘ม็อบ 19 กันยา’ บาดเจ็บ 4 คน เพิ่มกำลังตำรวจ ปรับแผนเตรียบรับ ‘ทะลุแก๊ส’ ขยายพื้นที่ป่วน ออกจากสามเหลี่ยมดินแดง
วันที่ 20 ก.ย. 2564 เวลา 12.15 น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) ในฐานะโฆษกบช.น. แถลงสรุปภาพรวมการชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 19 ก.ย. ครบรอบ 15 ปี วันรัฐประหาร 2549 ว่า มี 2 กลุ่มหลัก คือ 1. กลุ่มคาร์ม็อบ นำโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด รวมตัวกันที่แยกอโศก ในเวลา 14.00 น. เคลื่อนตัวไปตามพระราม 4 เข้าเขตสาทร ฝั่งธน แล้วกลับมาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการใช้เครื่องขยายเสียง ปิดการจราจร และใช้ผ้าดำคลุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 18.00 น. ยุติการชุมนุม ภาพรวมเหตุการปกติ
แต่ระหว่างเคลื่อนขบวน เวลา 15.15 น. เมื่อผู้ชุมนุมบางส่วนเดินทางถึงหน้าศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ รถจักรยานยนต์ล้มและเกิดระเบิดขึ้นทำให้มีผู้บาดเจ็บ 4 คน จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุและเสื้อผ้าผู้บาดเจ็บ น่าเชื่อว่ามี 1 คนพกระเบิดแสวงเครื่องติดตัวมาด้วย ขณะนี้ทั้ง 4 คน รักษาตัวอยู่ใน รพ.ตำรวจ ซึ่งหากผลตรวจสอบยืนยันว่าเป็นวัตถุระเบิดจริง จะมีการดำเนินคดี พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน
กลุ่มที่ 2 กลุ่มทะลุแก๊ส เวลา 17.30 น. รวมตัวที่สามแยกดินแดง ขว้างปาสิ่งของ จุดพลุเพลิง เวลา 19.00 น. ผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามมาที่แยกนางเลิ้ง และมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ จากนั้นเวลา 19.00 น.เศษ มีเผาตู้ยามจราจร นางเลิ้งและทางลงด่วนยมราช เสียหาย ขณะเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ตรวจที่เกิดเหตุ ถูกล้อมรถและทุบทำลายรถ มีการนำเอกสารสำคัญของทางราชการ ที่เกี่ยวกับการตรวจที่เกิดเหตุและเอกสารทางคดี ไปทำลายและเผา เจ้าหน้าที่จึงจับกุมผู้กระทำผิด 16 รายมาดำเนินคดี
โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง, ต่อสู้และขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติงานตามหน้าที่ ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งนี้มีการตรวจยึดของกลางคล้ายปืนปากกา มาตรวจสอบ
พล.ต.ต.ปิยะ สรุปด้วยว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึงปัจจุบัน มีการดำเนินคดีเกี่ยวกับชุมนุมทั้งหมด 219 คดี มีผู้ต้องหา 797 คน จับกุมมาแล้ว 552 คน ขณะเดียวกันในช่วงเดือนที่ผ่านมามีทรัพย์สินเสียหาย อาทิ ตู้ยามจราจรกว่า 10 ป้อม, ระบบการควบคุมการจราจรหลายพื้นที่ถูกทำลาย, กล้องวงจรปิดกว่า 40 ตัวถูกทำลาย ทั้งของราชการและเอกชน, ตู้ควบคุมอุโมงค์ดินแดง, ระบบระบายน้ำและระบบพัดลมระบายอากาศในอุโมงค์ดินแดง, ตู้เก็บเงินทางด่วน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทั้งของราชการและประชาชนรวมกว่า 50 คัน
สำหรับมาตรการหลังจากนี้ กรณี ‘กลุ่มทะลุแก๊ส’ ขยายพื้นที่จากสามแยกดินแดง บช.น. ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจต่างๆ มาดูแลความสงบเรียบร้อยพื้นที่วงใน โดยเฉพาะที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง จะปรับการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นทุกวัน
ส่วนจะมีการพัฒนารูปแบบก่อเหตุความวุ่นวายนั้น โฆษกบช.น. ยอมรับว่า เป็นไปได้ เพราะเนื่องจากผู้ที่มาก่อเหตุไม่ได้มาคนเดียว มีผู้อยู่เบื้องหลัง มีคนหนุนหลังอยู่แล้ว บช.น. จะต้องมีมาตรการต่างๆ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีกับผู้อยู่เบื้องหลัง