SHARE

คัดลอกแล้ว

‘ชัยธวัช’ ซัดรัฐบาลทำ “ประชาธิปไตยแบบไหลย้อนกลับ” ทำลายสิ่งใหม่เพื่อรักษาสิ่งเก่า ด้าน ‘เศรษฐา’ ลุกติงพูดแรง ท้าส่งหลักฐานข้อกล่าวโทษ

ภาพ เจมส์ วิลสัน / Thai News Pix

วันนี้ (3 เม.ย. 67) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 152 ที่นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กับคณะ จำนวน 98 คน เป็นผู้เสนอ

โดยนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวเปิดอภิปรายเป็นคนแรกเสนอญัตติในภาพรวมว่า หลังการเลือกตั้งประชาชนต่างคาดหวังว่า เราจะได้ผู้นำประเทศคนใหม่ที่ต่างไปจากผู้นำหลังการรัฐประหาร แต่เวลาผ่านไปเรากลับได้นายกรัฐมนตรีที่ไร้วุฒิภาวะ หลายครั้งมีความสับสนว่า ท่านเป็นใคร มีอำนาจทำอะไรได้บ้าง ขาดภาวะผู้นำในการสร้างความเชื่อมั่นและความชัดเจนในทิศทางของรัฐบาล ซ้ำร้ายยังมีวิธีคิดในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) แบบเดิมๆ ที่จัดสรรตามโควตา “สมบัติผลัดกันชม” แทนที่จะสรรหาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสมในการเข้ามาบริหารกระทรวงต่างๆ เห็นหน้ารัฐมนตรีหลายคนหลังประกาศจัดตั้ง ครม. พี่น้องประชาชนสิ้นหวัง

ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวต่อว่า เมื่อรัฐบาลชุดนี้ได้บริหารประเทศมากว่าครึ่งปี ประชาชนก็คาดหวังที่จะได้เห็นนโยบายในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ปากท้องดีขึ้น แต่สิ่งที่ประชาชนพบ คือการดำเนินนโยบายที่สับสน คิดไป ทำไป นโยบายเรือธงของรัฐบาลขาดยุทธศาสตร์และแนวทางที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม ตรงเป้าหมาย และแทนที่ประชาชนจะได้เห็นการบริหารราชการแผ่นดินที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้ลืมตาอ้าปาก เสมอภาคเท่าเทียม เป็นธรรม เรากลับเห็นการส่งเสริมระบบเศรษฐกิจที่ผูกขาดหรือเอื้อประโยชน์ต่อทุนใหญ่เต็มไปหมด หลายนโยบายแอบอ้างประชาชนบังหน้า แต่เบื้องหลังเนื้อในกลับเต็มไปด้วยการฉ้อฉลเชิงนโยบาย เปิดทางให้รัฐมนตรีและพวกพ้องแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบอย่างน่าละอาย

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ประชาชนยังคาดหวังจะเห็นการปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น รัฐบาลชุดใหม่ ตอนเริ่มจัดตั้งรัฐบาลก็แถลงด้วยความมั่นใจว่าจะผลักดันให้เกิดการจัดทำประชามติเพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาจัดทำธรรมนูญฉบับใหม่โดยเร็ว วันนี้ผ่านไป 7 เดือนแล้วยังคงวนไปวนมา ประชาชนไม่แน่ใจแล้วว่า ตกลงรัฐบาลจะเอาอย่างไรต่อการปฎิรูปการเมือง การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จนมีการวิเคราะห์กันว่าแม้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ทันจริงในรัฐบาลสมัยนี้ เราก็อาจจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่แม้จะใหม่ แต่ก็ยังไม่ไว้วางใจประชาชนเหมือนเดิม นอกจากนี้ประชาชนยังคาดหวังว่าหลังมีรัฐบาลใหม่ จะได้เห็นการฟื้นฟูสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน จะเห็นการคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองที่สืบเนื่องมาอย่างยาวนาน แต่เมื่อเวลาผ่านไป เรากลับพบว่ากระบวนการนิติสงครามยังดำเนินต่อไปไม่ต่างจากหลังการรัฐประหาร สถานการณ์การปราบปรามประชาชนที่มีความเห็นต่างในนามกฎหมายยังไม่เปลี่ยนแปลง สิทธิ เสรีภาพ ของสื่อมวลชนเริ่มมีสัญญาณว่าถูกคุกคามแทรกแซง

ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวต่อว่า ประชาชนคาดหวังจะเห็นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เห็นการฟื้นฟูนิติธรรม นิติรัฐ อย่างที่รัฐบาลแถลง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกลับเป็นวิกฤตศรัทธาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ในตำรวจรวมถึงในระบบราชการยังเต็มไปด้วยระบบตั๋ว ระบบส่วย จนพี่น้องประชาชนไม่สามารถไว้วางใจในกลไกการบริหารราชการแผ่นดิน ความเสมอภาคเท่าเทียมในการบังคับใช้กฎหมาย และความเสมอภาคเท่าเทียมในกระบวนการยุติธรรมถูกเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ซ้ำเติมกระบวนการวิกฤติศรัทธาในกระบวนการยุติธรรมยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

“ท่านไม่ต้องพูดว่าถ้าไม่ชอบกันก็ต่างคนต่างอยู่ เพราะพี่น้องประชาชนต้องการอยู่ในระบบเดียวกัน ต้องการอยู่ในประเทศเดียวกัน หนึ่งระบบที่พวกเราได้รับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพเสมอภาคกัน ได้รับการปฏิบัติเท่าเทียมกัน เสมอหน้ากันต่อหน้ากฎหมายฉบับเดียวกัน” ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าว

นายชัยธวัช ยังอภิปรายต่อไปว่า หลังการเลือกตั้ง หลังมีรัฐบาลใหม่ ประชาชนคาดหวังจะเห็นระบบการเมืองที่นำพาชาติและประชาชนเดินไปข้างหน้า ไปสู่อนาคตที่ดีกว่า แต่สิ่งที่เราได้กลับกลายเป็น “ประชาธิปไตยแบบไหลย้อนกลับ” ที่ผู้นำทางการเมือง ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองลุแก่อำนาจ ได้คืบจะเอาศอก พยายามผูกขาดอำนาจทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจให้อยู่ในมือของชนชั้นนำไม่กี่กลุ่ม แทนที่เราจะเห็นการยกระดับทางการเมืองเดินไปข้างหน้า เพื่อสร้างการเมืองแบบใหม่ เรากลับเจอกับการเมืองที่พยายามทำลายสิ่งใหม่ เพื่อรักษาสิ่งเก่า

ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่างทิ้งท้ายว่า สภาวะทั้งหมดที่ผ่านมาทำให้เราตกอยู่ในสภาพการเมืองที่ไร้ความสามารถในการตอบสนองกับความคิดแบบใหม่ๆ ของประชาชน ไม่สามารถตอบสนองกับความต้องการแบบใหม่ในยุคสมัยใหม่ของประชาชน นี่คือสถานการณ์ที่พวกตนในฐานะผู้แทนราษฎร จำเป็นที่จะต้องวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ ตั้งคำถาม และเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี ซึ่งเพื่อนสมาชิกของพวกตนในพรรคร่วมฝ่ายค้านจะมาอภิปรายลงลึกในรายละเอียดแต่ละประเด็นต่อไปตลอดการอภิปราย 2 วันนี้

ภาพ เจมส์ วิลสัน / Thai News Pix

ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า ญัตติดังกล่าวแม้จะระบุว่ารัฐบาลทำทุกอย่างถอยหลัง แต่รัฐบาลมีความคืบหน้า โปร่งใสหลายเรื่อง สิ่งที่ทำอยู่เป็นบวก เป็นแสงสว่าง สิ่งที่รัฐบาลทำมา 6 เดือน มั่นใจมีความซื่อสัตย์ โปร่งใส ยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง เรื่องหนี้นอกระบบ หนี้เกษตรกร มีการแก้ปัญหาพักหนี้ให้ ปัญหาพลังงานได้ดูแลราคาน้ำมันเบนซิน ดีเซล ค่าไฟฟ้า ไม่เพิกเฉยนิ่งนอนใจ เรื่องยาเสพติด ตั้งคณะทำงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สาธารณสุขและกระบวนการยุติธรรมแก้ปัญหา ไตรมาส 4 ปีที่แล้ว จับยาบ้าได้มากกว่าปีก่อนทั้งปี ขณะที่ราคายางพุ่งเกือบ 100 บาทต่อกิโลกรัม ราคาข้าวพุ่งสูง พืชผลอื่นๆ ก็ไม่มีการมาประท้วง มีการเปิดตลาดในต่างประเทศ ทำงานอย่างบูรณาการให้ราคาพืชผลดีขึ้น ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศบ่อย เพราะต้องไป ให้ประเทศไทยมีตัวตนในเวทีโลก สส. 314 คน ทุกคนยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง

“ผมพร้อมรับฟังความเห็น สส. ประชาชน แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลา รัฐบาลเพิ่งบริหารประเทศมาแค่ 7 เดือน ถ้ามีข้อเสนอแนะดีๆ เรายินดีรับฟัง แต่ถ้าเป็นข้อกล่าวหา กล่าวโทษก็ขอหลักฐานมา หลังเลือกตั้งเราจะก้าวไปสู่ประชาธิปไตยที่ดีขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่ง

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า