SHARE

คัดลอกแล้ว

ป.ป.ช. นัด “ชำนาญ รวิวรรณพงษ์” อดีตประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา ให้ถ้อยคำ ม.ค. 65  หลังยื่นร้องสอบอดีตปธ.ศาลฎีกา และก.ต.เสียงข้างมาก

วันที่ 27 พ.ย. 64 นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ อดีตประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่ได้ยื่นร้องเรียน อดีตประธานศาลฎีกา 2 ท่าน รวมทั้ง กรรมการตุลาการ (ก.ต.) เสียงข้างมากและบุคคลที่เกี่ยวข้อง  ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. )   ใน 2 สำนวนคำร้อง

โดยระบุว่า  ป.ป.ช.แจ้งกลับมายังตนว่า ขณะนี้ อยู่ระหว่างสอบสวนเรื่องราวตามข้อร้องเรียน และขอเชิญไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติม  ซึ่งตนได้แจ้งป.ป.ช. ไปว่า จะไปให้ข้อมูลกับป.ป.ช. ในช่วงเดือน มกราคม 2565 เนื่องจากช่วงนี้ตนติดภารกิจหลายอย่าง

นายชำนาญกล่าวว่า ส่วนกรณีเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการกระทำของนายอนุรักษ์ สง่าอารีย์กุล   ประธานแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบในศาลอุทธรณ์  กรณีถูกร้องเรียนว่า ใช้แอปลิเคชั่นไลน์ หาเสียงเลือกตั้งก.ต.บุคคลภายนอกในกลุ่มไลน์ “สภาตุลาการ”

ล่าสุดตนทำหนังสือถึงผู้บริหารสำนักงานศาลยุติธรรมว่า เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับนายอนุรักษ์ ถือเป็นเรื่องใหญ่ ควรต้องรีบพิจารณาโดยเร่งด่วน  เพราะเกี่ยวพันกับคุณสมบัติของ ก.ต. บุคคลภายนอก 2คนที่ได้รับการเสนอชื่อเข้ามาเป็น ก.ต. แล้ว และยังเกี่ยวพันกับการลงมติด้วย  เพราะหากผลออกมาว่ามีความผิด อาจจะโยงไปว่า มีความเกี่ยวข้องกับ ก.ต. บุคคลภายนอกนี้ด้วยหรือไม่  เพราะอาจถูกมองว่า รู้เห็นด้วยหรือไม่ เพราะมีกฎหมายอยู่

“ก็เหมือน สส. นั่นแหละครับ ลงมติได้หรือเปล่า และที่ลงมติไปแล้วชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แล้วเบี้ยประชุมที่รับไป ต้องคืนหรือเปล่า ถ้าเกิดพบว่าการสรรหามาโดยมิชอบ เพราะฉะนั้น ทิ้งนานไปก็ไม่น่าจะดี เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ตรวจสอบให้มันถูกต้องไป ผิดไม่ผิด ก็ว่ากันไป”  นายชำนาญ กล่าว

ส่วนกรณีการขอให้ตรวจสอบว่า ชื่อบัญชีไลน์ที่มีการร้องเรียนว่า ใช้ล็อบบี้การหาเสียง ก.ต. บุคคลภายนอกนั้น ควรที่จะส่งเรื่องให้ตำรวจหรือหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบ หรือไม่  อดีตประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา  ระบุว่า ในการตรวจสอบเรื่องชื่อบัญชีไลน์  ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย เพียงแค่เรียกเจ้าตัวที่ถูกร้องเรียนมาสอบถามก็หมดเรื่องแล้ว ว่าเป็นผู้ใช้ชื่อบัญชีไลน์ดังกล่าวหรือไม่  หากใช้ชื่อไลน์นั้นจริง ส่วนอื่นๆก็ว่ากันไป เรื่องอย่างนี้ หากตรวจสอบไม่ได้แล้วจะไปพิจารณาเรื่องอื่นได้อย่างไร

“สำหรับอำนาจการตรวจสอบเป็นอำนาจของประธานศาลฎีกา ในขณะนั้น เพราะตนร้องเรียนไปยังประธานศาลฎีกา ซึ่งก็ต้องมีหน้าที่ในการตรวจสอบให้เรียบร้อย แต่รอดูครั้งที่ 2 ที่ยังมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวโยงกันว่าจะมีการพิจารณาออกมาในรูปแบบใด หากตนเห็นว่าไม่น่าจะถูก ก็ต้องส่งกลับไปให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบใหม่ คราวนี้ก็ต้องสอบทั้งคนที่สั่งให้ยุติการสอบสวน  ซึ่งตนมองว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับการลงมติ ของ ก.ต.”นายชำนาญกล่าว

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า