‘นภาพร’ ชี้ รฟท.รังแกประชาชน เหตุฟ้องขับไล่ชุมชน เปิดทางเอกชนเข้าพื้นที่

ส.ส. นภาพร พรรคเสรีรวมไทย ชี้ รฟท.รังเเกประชาชนเหตุฟ้องขับไล่ชุมชน เปิดทางเอกชนเข้าพื้นที่ ทั้งๆที่ปล่อยให้ชาวบ้านบุกรุกหลายสิบปี ตรงนี้ผิดม.157 หรือไม่

วันที่ 5 เมษายน 2565 นางสาวนภาพร เพ็ชร์จินดา รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยเเละประธานภาคกทม.กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตลอด2-3ปีที่ผ่านมานี้ ปัญหาใหญ่ของประเทศเรื่องหนึ่ง คงไม่พ้นเรื่องที่อยู่อาศัย ตนรับเรื่องร้องเรียนบ่อยสุดคือถูกการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ขับไล่

“เมื่อเดือนก่อนตนเเละคณะลงพื้นที่ชุมชนแดงบุหงา เขตราชเทวี กทม.ก็ทราบว่าถูกฟ้องดำเนินคดีพร้อมดอกเบี้ย อีกชุมชนหนึ่งที่ติดตามกันมา คือชุมชนวัดใหม่ยายมอญ เขตบางกอกน้อย ถูกไล่ที่ การรถไฟฯต้องการพื้นที่คืน เพื่อให้เอกชนเช่าจึงไล่ชาวบ้าน ทั้งที่อยู่มานานกว่า50ปี ชาวบ้านรวบรวมเงินกันจ้างทนาย แต่ไม่รู้เหตุผลอันใดที่ปัญหาไม่ได้ทุเลา พวกเขาจึงติดต่อมาให้เราเข้าไปช่วยเหลือดูแล เราจึงส่งทีมทนายเพื่อประชาชนของพรรคเสรีรวมไทยเข้าไป ขณะที่อยู่กับชุมชนนั้น บริษัทผู้รับเหมา มีคนงานพร้อมทุบบ้านยืนรออยู่ โดยมีตำรวจรถไฟคุมการต่อต้านจากชาวบ้านในพื้นที่เห็นแล้วเศร้าใจ

วันนั้นมีชาวบ้าน มาเซ็นเอกสารเป็นผู้เสียหายให้ทีมทนายเรา เราจึงเร่งทำสำนวนยื่นคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อขอคุ้มครองชั่วคราว ศาลตลิ่งชัน ศาลท่านก็เมตตา มีคำสั่งทุเลาการบังคับคดีทันทีทันใด ห้ามรื้อถอน จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลฎีกา “นางสาวนภาพรกล่าว

นางสาวนภาพรกล่าวว่า เหตุการณ์นี้ ตนภูมิใจ ที่อย่างน้อยได้ช่วยชุมชน ทำให้ลูกเด็กเล็กแดง ผู้ป่วยติดเตียง คนชรา รวมกว่า 400 ชีวิต ได้ต่อลมหายใจไปอีกซักระยะหนึ่ง โดยตนแนะนำชาวบ้านในระหว่างนี้ว่า ต้องต่อสู้ตามกฎหมายและทราบดีว่า ผู้ว่าการรถไฟฯทำงานตามหน้าที่เพื่อการรถไฟฯแต่การรถไฟฯเป็นของชาติ เเละ“ประชาชนคือส่วนหนึ่งของชาติ” รวมทั้งเป็นเจ้าของการรถไฟฯด้วย ดังนั้นไม่อยากให้ผู้ว่าการรถไฟฯและผู้มีอำนาจทั้งหลายลืมหลักการเหล่านี้

“การกระทำใดๆควรยึดถือประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก บวกด้วยคุณธรรม กรณีจะเอาที่ดินของการรถไฟฯไปให้เอกชนรายใหญ่เช่า ทำไมไม่ให้โอกาสชาวบ้านที่อาศัยอยู่ก่อนได้เช่า หรือว่าเรื่องนี้จะมีผลประโยชน์จากเอกชนรายใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งหากเป็นจริง ผู้มีอำนาจก็ต้องคำนึงถึงคุณธรรมโดยจัดหาที่อยู่อาศัยใหม่ให้กับชาวบ้าน ไม่ใช่ใช้อำนาจฟ้องร้องและรื้อถอนแบบนี้”นางสาวนภาพรกล่าว

นางสาวนภาพรกล่าวว่า สิ่งที่ทำให้รู้สึกอึดอัดมากที่สุดเรื่องหนึ่งคือการรถไฟฯ เอาภาษีของประชนชนไป “บริหารกิจการ ขาดทุนมาตลอด” เงินเดือนผู้ว่าการรถไฟฯและพนักงานก็มาจากภาษีของประชาชน ตนเป็นกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้เเทนราษฎร ไม่เคยขัดใจการรถไฟฯเรื่องของบประมาณ เพราะทราบดีว่า “กิจการรถไฟขาดทุนเพื่อสวัสดิการของประชาชน”แต่เรื่องที่ประชนที่อาศัยอยู่ในที่ของการรถไฟฯต้องเดือดร้อนถูกขับไล่ที่นี้ การรถไฟฯไม่คิดที่จะดูแลคนกลุ่มนี้บ้างเลยหรือ

“ส่วนข้อแก้ตัวของการรถไฟฯที่อ้างว่าประชาชนบุกรุกที่ของการรถไฟฯนั้น ท่านอย่าลืมว่าการบุกรุกนี้มีมากว่า 40-50 ปีแล้ว คนที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดปัญหาบุกรุกก็คือ”การรถไฟฯ”ถ้าประเทศชาติเสียหาย การรถไฟต้องเป็นจำเลยที่1 เพราะ”ผิดมาตรา 157 ประมวญกฎหมายอาญา มาตลอด “ถ้าจะขับไล่ชาวบ้าน ก็ต้องขับไล่ผู้บริหารการรถไฟฯก่อน”รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยระบุ