SHARE

คัดลอกแล้ว

ชนกอภิปรายชัยวุฒิประพฤติเสื่อมเสียทางศีลธรรมอันดี เจ้าตัวลั่นอภิปรายแบบนี้เป็นมาตรฐานที่ต่ำ ด้านวันนิวัติระบุตั้งคนสนิทนั่งที่ปรึกษา เอื้อประโยชน์พวกพ้อง 

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันที่ 2 โดยมีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม โดยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง และทุจริตเอื้อประโยชน์พวกพ้อง 

 ซึ่งนายวันนิวัติ สมบูรณ์ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เกี่ยวกับพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (PDPA) ซึ่งเป็นกฎหมายที่ดี แต่รมว.ดีอีเอส นำมาใช้ขณะที่ยังไม่มีความพร้อม เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง โดยเซ็นแต่งตั้งที่ปรึกษา 7 ท่าน หนึ่งในนั้นคือเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ชั้น ม.1 มีความสนิทแนบแน่นอย่างมาก ที่สำคัญเป็นผู้บริหารเจ้าของบริษัทไอที โดยตั้งเป็นที่ปรึกษา แต่ตนคิดว่าไม่เหมาะสม เพราะเมื่อตั้งเป็นที่ปรึกษาแล้ว ที่ปรึกษาท่านนี้ยังไปเป็นกรรมการในสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีอำนาจหน้าที่ในการอนุมัติแผนการดำเนินงาน แผนการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงาน แต่เมื่อกฎหมาย PDPA ไม่พร้อมก็ต้องมีการประชาสัมพันธ์ โดยตั้งงบประมาณไว้ 220 ล้านบาท แต่มีการประมูลได้ที่ 219 ล้านบาท 

นอกจากนี้ยังมีการล็อกสเปคศูนย์ดิจิทัลชุมชน เอื้อประโยชน์พวกพ้อง เริ่มจากปี 2563 ทำสัญญากับบริษัท กสท. โทรคมนาคม (CAT) จัดทำศูนย์ดิจิทัลชุมชนมีการเซ็นสัญญา 250 ศูนย์ วงเงิน 277 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ต่อมาในปี 2564 มีการตั้งงบอีก 500 ล้านบาท เพื่อจะตั้งศูนย์ฯ อีก 500 แห่ง สิ่งที่แปลกประหลาด คือในทีโออาร์ไม่มีการระบุว่าต้องเป็นของใหม่ และยังระบุด้วยว่าให้ใช้เวลา 15 วัน เพื่อให้ได้ศูนย์ฯ ในกลุ่มแรก 250 ศูนย์ฯ จึงมีเพียงผู้รับเหมาเก่าเท่านั้นที่จะเปิดรับตรงนี้ได้ เพราะผู้รับเหมาใหม่คงจัดเตรียมไม่ทัน  อย่างไรก็ตาม วันนี้เราควรมีศูนย์ฯ 750 ศูนย์ฯ ทั่วประเทศ แต่เรามีเพียง 500 ศูนย์ฯ ประชาชนเสียประโยชน์ และเกณฑ์การพิจารณาปกติกรมบัญชีกลางจะใช้เกณฑ์ราคาเป็นตัวกำหนด แต่กลับใช้เกณฑ์ประสิทธิภาพต่อราคา ซึ่งแปลกประหลาด เพราะทีโออาร์รอบที่ 2 มีการบิดการประมูล โดยมีบริษัทเข้าร่วมประมูล 4 บริษัท ซึ่ง 3 ใน 4 บริษัท เป็นเอกสารจากธนาคารเดียวกัน และ 2 ใน 4 บริษัท มีเลขต่อกัน ชี้ชัดว่าท่านเอื้อประโยชน์ผู้รับเหมาเก่า เพื่อให้ได้งานใน 250 ศูนย์ฯ แรก 

ต่อมา น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย อภิปรายนายชัยวุฒิ กล่าวหาในประเด็น จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย มีความประพฤติเสื่อมเสียทางศีลธรรมอันดี ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดย น.ส.ชนก มีการนำภาพจากเฟซบุ๊กส่วนตัวตัวของภรรยานายชัยวุฒิ มาอภิปรายในเนื้อหาระบุถึงปมชู้สาว

ทำให้ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์  ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นประท้วงเนื่องจากเห็นว่า เป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ได้เกี่ยวกับการบริหารงานของรัฐมนตรี และเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนที่อาจกระทบไปถึงครอบครัวด้วย

น.ส.ชนก บอกว่า สิ่งที่พูดในฐานะที่เป็นเพื่อนกับภรรยา รมว.ชัยวุฒิ และมั่นใจว่าเพื่อนสมาชิก ต้องการข้อมูลนี้นำไปประกอบการตัดสินใจ ว่าจะไว้วางใจนายชัยวุฒิหรือไม่

นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ จึงได้ลุกขึ้นประท้วงว่า ถ้าจะพูดเรื่องการปฏิบัติหน้าที่จะรับฟัง แต่ถ้าพูดพาดพิงถึงครอบครัว บุคคลที่สาม และเรื่องลูกของทั้งสองฝ่าย ท่านเองต้องตรวจสอบตัวเองด้วยว่าสมควรและเหมาะสมหรือไม่และเด็กจะได้รับผลกระทบอย่างไร

ด้านนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุมวินิจฉัยว่า ยังเป็นไปตามข้อกล่าวหาที่ยื่นญัตติ แต่ขอให้น.ส.ชนก ระมัดระวังเพราะจะมีผลกระทบไปถึงหลายๆฝ่าย

น.ส.ชนก อภิปรายต่อโดยยืนยันว่าตนอภิปรายในฐานะที่เป็นแม่ของลูกคนหนึ่ง ซึ่งการอภิปรายตามข้อกล่าวหาที่กล่าวมา เป็นบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา76 วรรค3 เพื่อใช้กำหนดประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมืองพ.ศ.2564 ทั้งหมด 11 ข้อ โดยนายชัยวุฒิ กระทำขัดต่อข้อที่ 10  ที่ระบุว่า ข้าราชการการเมืองต้องดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดี และรักษาภาพลักษณ์ของทางราชการ

จากนั้นบรรยากาศเป็นไปอย่าดุเดือดเมื่อ ส.ส.หญิง นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ, นันทนา สงฆ์ประชา ส.ส.พรรคประชาภิวัฒน์  สลับกันลุกขึ้นประท้วง โดยย้ำว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน 

ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นชี้แจงสนับสนุนการอภิปรายของน.ส.ชนกว่า เรื่องนี้บรรจุอยู่ในญัตติ เหตุการณ์เกิดขึ้นจริง ที่สำคัญเกิดความเสียหายต่อการปฏิบัติราชการ บุคคลนี้มีกระบวนการก้าวก่ายการจัดซื้อจัดจ้างในกระทรวง ตนเห็นใจทุกฝ่าย หลายคนที่ประท้วงเหมือนว่า น.ส.ชนกผิด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นจากนายชัยวุฒิ ดังนั้นขอสรุปเลยว่ามีเรื่องชู้สาวจริงๆ ทั้งสื่อมวลชนและสังคมต่างรับรู้

นอกจากนี้นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ  ได้ประท้วงนายศุภชัย ที่ทำหน้าที่ประธานควบคุมการประชุมระบุว่า ขอให้พูดถึงปัญหาการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะเรื่องชู้สาวนั้น ก็ไม่รู้ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่หากปล่อยไปอาจเกิดความเสียหาย 

จากนั้นยังคงมีการประท้วงสลับกันไปมา ด้านนายศุภชัย ระบุว่า ได้ตักเตือน น.ส.ชนกหลายครั้งแล้ว ว่าขอให้ยุติการพูดเรื่องครอบครัวของรัฐมนตรี หากอภิปรายประเด็นอื่นจะอนุญาตให้อภิปรายต่อ

น.ส.ชนก อภิปรายว่า นายชัยวุฒิมีพฤติกรรมที่ไม่เป็นแบบอย่างที่ดี ไม่รักษาขนบธรรมเนียมประเพณี อดสงสัยไม่ได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอื้อประโยชน์ในกระทรวงที่รัฐมนตรีบริหารอยู่หรือไม่ จึงไม่สามารถไว้วางใจนายชัยวุฒิได้จริงๆ

ก่อนจบการอภิปราย  น.ส.ชนก ร่ายกลอนส่งท้ายว่า “อันเรื่องราวตัณหานี้สาหัส ถ้าใครตัดเสียได้ฉันให้ถอง อุตส่าห์หัดวิชาหาเงินทอง ก็เพราะของสิ่งเดียวมันเกี่ยวกวน” 

ด้านนายชัยวุฒิ ขึ้นมาชี้แจงโดยระบุว่าขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่านที่ให้เกียรติ ที่มาประท้วง ที่จริงผมไม่ได้ประสงค์ให้มีการปิดกั้น รูปถ้าอยากจะเปิดก็เปิดไปเถอะ ของมันไม่จริงก็ไม่มีอะไร ไม่ได้กลัวอยู่แล้ว 

“ส่วนตัวคิดว่าการอภิปรายในประเด็นแบบนี้ไปไกลไปหน่อย และมาตรฐานมันต่ำ มันมีเรื่องให้พูดตั้งเยอะนะครับ คือการพูดเรื่องที่มันต่ำ คนพูดก็จะต่ำไปด้วย ภาพนี้จะติดตัวท่านไป ผมคิดว่าคนที่ให้ข้อมูลกับท่านเรื่องนี้ไม่ได้หวังดีกับท่านหรอกครับ เพราะนอกจากจะเป็นภาพที่ไม่ได้ที่จะติดตัวเราไปแล้วเนี่ยมันจะมีคดีติดตัวด้วย คดีหมิ่นประมาท ไปฟังคนโน้นคนนี้ว่ามา มโนไปอย่างโน้นอย่างนี้แล้วเอามาพูดในสภา ข้อเท็จจริงไม่มี สุดท้ายจะไปสู้ที่ศาลครับ ไม่ใช่ผมฟ้องนะครับ คนที่เขาเสียหายเขาฟ้อง  

ผมบอกเลยคนที่เอาเรื่องนี้ให้ท่านพูดไม่ได้หวังดีกับท่านแน่นอน เพราะทำให้ภาพท่านดูไม่ดี มีคดีติดตัวด้วยแน่นอน แต่ก็โชคดีที่ท่านไม่ได้พูด คงอธิบายแค่นี้นะครับว่า ทุกคนถ้ารู้จักผมนะครับจะรู้ว่าผมเป็นคนอย่างไร  ถ้าคุณไม่รู้จักผมคุณก็อย่ามาอภิปรายในเรื่องส่วนตัวของผม ไปฟังคนโน้นคนนี้พูดมาแล้วมันไม่ใช่หรอกครับ”  นายชัยวุฒิ กล่าว

นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องในงานคนที่คุณพูดทั้งหมด เพื่อนตนบางคนที่เข้ามาช่วยงานตน ทีมงานที่ปรึกษา เลขาฯ เพื่อนบางคนมาช่วยก็ไม่ได้มีเงินเดือน ไม่ได้มีตำแหน่ง เป็นเพื่อนว่างๆ ก็มาช่วยกันคิดช่วยกันทำงานจะได้พัฒนางานในกระทรวงให้ดียิ่งขึ้น หลายคนมีประสบการณ์ในแต่ละด้าน 

อย่างบางคนก็อาจเคยทำงานด้านไอที ด้านเทเลคอม เขาก็มาช่วยเพราะมีความรู้ ความชำนาญ บางคนมีความเชี่ยวชาญในเรื่องกฎหมาย เขาก็มาช่วยแนะนำในเรื่องกฎหมาย มันเป็นเรื่องปกติ  ตนว่าก็ทุกกระทรวง รัฐมนตรีบางคนก็จะมีเพื่อน มีคนรู้จักมาช่วยทำงาน ส่วนบางคนเขามีความรู้ความสามารถ สมัครไปเป็นกรรมการในองค์กรต่างๆ ซึ่งก็มีกระบวนการสรรหาตามกฎหมายและได้เข้าไปเป็นกรรมการ ซึ่งคิดว่าเป็นประโยชน์และสามารถเข้าไปช่วยงาน ในองค์กรต่างๆ ในราชการได้  ก็ไม่เห็นเป็นสิ่งที่ผิดหรือขัดรัฐธรรมนูญอย่างไร เป็นสิ่งที่สามารถทำได้  ถ้าทุจริตท่านต้องไปฟ้อง ป.ป.ช. ตามกฎหมาย ไม่ใช่มาอภิปรายพูดเหมือนมีความผิดทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรผิด

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การอภิปรายที่ฟังมาไม่ได้มีข้อเท็จจริงเลย ที่เป็นความเสียหายต่อการทำงานของตน เพียงแต่มีคนรู้จักกัน เป็นเพื่อนกันมาช่วยทำงาน เป็นที่ปรึกษา อยากให้เข้าใจในตรงนี้ ซึ่งตนคิดว่าทุกคนในสภาก็มีคนมาช่วยเพื่อให้งานเดินหน้า มาช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเมือง

ส่วนเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้าง ศูนย์ดิจิทัลชุมชนของปี 63, 64 ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่ง เรื่องนี้ตนได้ติดตามตรวจสอบอยู่ และจากโครงการก็ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว และก็ไม่ได้มีความเสียหายหรือมีการฟ้องร้องกันอยู่  แต่จากข้อมูลที่ท่านให้มา จะไปตรวจสอบแล้วจะมารายงานผ่านกลไกสภา หรือผ่านสื่อมวลชน 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า