นายกฯ ย้ำเศรษฐกิจประเทศไม่ได้อยู่ในฐานะรัฐล้มเหลว รับไม่ได้ ‘อมรัตน์’ เคลื่อนไหวก้าวล่วงสถาบันของชาติ

นายกฯ ย้ำเศรษฐกิจไทยไม่ได้อยู่ในฐานะรัฐล้มเหลว แจงปมแท่นพระบรมราชานุสาวรีย์ เป็นการบริจาคจริงส่วน GT200 รักษาผลประโยชน์ชาติฟ้องและเรียกค่าเสียหาย 700 ล้านบาท แนะ ‘อมรัตน์’ แนะศึกษาประวัติศาสตร์จุดที่ดีไว้บ้าง หลังพบเคลื่อนไหวก้าวล่วงสถาบันของชาติ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ในวันที่ 3 (21 ก.ค. 2565) บอกในสภาว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาไปถวายเครื่องสักการะ แด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ณ วัดราชบพิธสถิต มหาสีมาราม ราชวรวิหาร ขอมอบผลบุญให้กับทุกคน สุดแล้วแต่ว่าใครจะรับได้หรือรับไม่ได้ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกรรม ตนทำอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด แต่อาจไม่ดีในสายตาของท่าน ก็ไม่เป็นไร วันนี้ท่านบอกว่าชื่อผมมีความหมายโน่นนี่ ก็ไปคิดเอาแล้วกันว่าตู่กับเตี้ยความหมายเหมือนกันไหม คงไม่เหมือนนะ แต่ไปดูที่ประโยชน์ใครทำอะไรมากกว่า เห็นไปเคลื่อนไหวอยู่ข้างนอกตลอดเวลา ท่านบอกว่าศึกษาประวัติศาสตร์ ศึกษาจุดที่ดีไว้บ้างก็แล้วกัน สิ่งที่ทำในหลายๆ อย่างก็ปรากฏแล้วว่า เกี่ยวข้องกับการก้าวล่วงสถาบันของชาติ ซึ่งผมก็รับไม่ได้อยู่แล้ว

ขณะที่นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประท้วงว่านายกฯ พาดพิงหาว่าก้าวล่วงสถาบัน ข้อหานี้ผิด มีโทษร้ายแรง จะมาปากพล่อยว่าคนอื่นอย่างนี้ได้อย่างไร ขอนายกฯ อย่ามั่ว ขอให้ถอนคำพูด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เวลาท่านพูดอะไรมา นายกฯ ฟังได้ ก็ขอให้ฟังบ้าง ไม่ได้ว่าอะไรที่เกินความจริงเพราะไปดูแล้วมีหลายคดีก็ไปต่อสู้คดีละกัน นายกฯ ยืนยันไม่ถอนคำพูด พร้อมอภิปรายต่อ 3 ประเด็น คือ

• การก่อสร้างแท่นประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 9 และงานปรับปรุงภูมิทัศน์

นายกฯ ชี้แจงว่า มีการจัดซื้อจัดจ้างใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ของกองทัพ โดยใช้วิธีการคัดเลือกผู้ประกอบการ 3 ราย คัดเลือกชนะวงเงิน 59 ล้านบาท หลังจากทำสัญญาระหว่างการก่อสร้างทางบริษัทคู่สัญญาได้แจ้งการประสงค์ที่จะบริจาคสิ่งปลูกสร้างให้แล้วเสร็จ อันได้แก่แท่นประดิษฐานและการปรับปรุงภูมิทัศน์รวมถึงสาธารณูปโภคตามที่สัญญากำหนดเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทัพบก โดยไม่ขอรับเงินค่าจ้างที่ระบุในสัญญา และยินยอมในการยกเลิกสัญญาโดยไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งกรมยุทธโยธาทหารบก ก็ได้ส่งคืนงบประมาณดังกล่าวที่ยังไม่ได้มีการเบิกจ่ายให้แก่ผู้ประกอบการให้กองทัพบกต่อไป

ส่วนที่มีการต้องตั้งข้อสังเกตว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินนั้น ไม่ได้เข้ามาตรวจสอบการก่อสร้างในครั้งนั้น นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า กองทัพบกได้รับการประสานงานอย่างไม่เป็นทางการจากสำนักงานตำรวจเงินแผ่นดิน เพื่อขอรับข้อมูลในการก่อสร้างและได้ชี้แจงไปว่าไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการ ดำเนินการภายใต้ทุนทรัพย์ของบริษัทและผู้มีจิตศรัทธาที่ดำเนินการก่อสร้างและมอบสิ่งก่อสร้างดังกล่าวให้กองทัพบกโดยไม่คิดมูลค่า สำนักงานต่อวัดเงินแผ่นดินได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวเหล่านี้แล้ว  

• การจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด GT-200

นายกฯ บอกว่า มีการติดตามและตรวจสอบมีการพูดมาหลายครั้ง และหลายรัฐบาล ตั้งแต่สมัยที่ตนดำรงตำแหน่งเป็นผบ.ทบ. วันนี้ก็คือวันนี้วันนั้นเราทำอะไรไปแล้วบ้าง แนวเรื่องการฟ้องร้องดำเนินคดีนั้นกระทรวงกลาโหมได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายมีการดำเนินคดีกับเอกชนผู้เป็นคู่สัญญาจำนวน 13 คดี ซึ่งปัจจุบันคดีถึงที่สุดแล้วจำนวน 5 คดี อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรวมจำนวน 6 คดี อยู่ในชั้นพิพากษา ของอัยการอีก 2 คดี ฟ้องเรียกค่าเสียหายรวมประมาณ 747 ล้านบาท ซึ่งผู้ถูกฟ้องบางส่วนได้ชำระค่าเสียหายบางส่วนพร้อมดอกเบี้ยแล้วจำนวน 11 ล้าน โดยฝ่ายกฎหมายกำลังติดตามคดีที่คั่งค้างอยู่ แนวเรื่องของการบังคับคดีเพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐต่อไป ซึ่งประเด็นปัญหา GT200 เป็นปัญหาทั้งโลก และมีการใช้ในสงครามอิรัก สงครามต่างๆ มากมาย และหลายประเทศก็ฟ้องร้องเช่นเดียวกัน เขาก็ใช้มาเหมือนกันในช่วงระยะเวลาดังกล่าว

นอกนี้นายกฯ ได้ชี้แจงในประเด็นพลังงานที่แพงขึ้นทั้งค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน และก๊าซ พร้อมมอบหมายให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมาชี้แจงในรายละเอียด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวช่วงหนึ่งว่า การพูดจาในสภาควรเป็นวาระที่สร้างสรรค์บ้าง ไม่ได้หวังว่าจะมาชม สิ่งต่างๆ ไม่ได้บอกว่าทำดีที่สุด เก่งที่สุด เยี่ยมที่สุด ไม่ใช่ ผมฟังท่าน อันไหนที่ฟังได้ก็ฟัง อันไหนที่ฟังไม่ได้ผมก็ไม่ฟัง เพราะไม่ได้เกิดประโยชน์กับผม การโจมตีให้ร้ายก็เฉยๆ ไม่เคยรังแก หรือก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรมใดๆ ทั้งสิ้น และเมื่อวานนั่งฟังทั้งวันแต่มีการพูดหลายเรื่องทำให้ชี้แจงได้ไม่หมด เพราะการทำการแก้ไขปัญหาไม่ง่ายเหมือนการพูด วันนี้ขอให้ติดตามสถานการณ์โลกว่าเกิดอะไรขึ้น ประเทศเราได้รับผลกระทบประเทศเดียวหรือไม่ ประเทศเราแก้ไขปัญหาได้มากน้อยแค่ไหน มีตัวเลขของหลายประเทศหากเทียบกันไทยทำได้มากกว่า แต่แน่นอนว่ารายได้ต้องลดลง คนที่มีรายได้น้อยเดือดร้อน รัฐบาลมีมาตรการเฉพาะกลุ่มออกไปดูแลทั้งเรื่องรายได้ น้ำมัน กลุ่มเปราะบาง ซึ่งต้องใช้งบประมาณที่สูงมาก เรากู้เงินมามากเพราะจำเป็นต้องกู้ ขณะเดียวกันก็มีทุนสำรองมากพอสมควร ขีดความสามารถในการชำระหนี้ก็มี ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมามีการวางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว หลายประเทศประสบปัญหาเหมือนกัน เราไม่ได้อยู่ในฐานะรัฐล้มเหลวอะไรในเวลานี้ ทุกคนก็ยังเชื่อมั่น เชื่อใจ พุ่งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียนของการลงทุน ต่างประเทศมองไทยอย่างไร ต่างจากไทยมองกันเอง มันต่างกันมาก เพราะฉะนั้นการจะพูดอะไรที่เป็นผลกระทบต่อการต่างประเทศ ประเทศเพื่อนบ้าน ขอให้ระมัดระวังเพราะมีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน

นายกฯ ยืนยันว่า การแก้ไขปัญหาไม่ใช่ไม่ดีทุกเรื่อง ไม่ใช่เลวที่สุด แย่ที่สุด เดี๋ยวจะสร้างความเข้าใจผิด เวลานี้ควรจะรวมพลังคนไทยทั้งชาติเพื่อแก้ปัญหาบ้านเมืองมากกว่ามัวทะเลาะ ท่านพูดแรง ผมก็อดไม่ได้เหมือนกัน ในฐานะที่เป็นมนุษย์ด้วยกัน แต่ผมก็ให้เกียรติท่านเสมอ อยู่ที่ท่านจะมีเกียรติหรือไม่ เวลาท่านพูดโจมตีผม ถึงจะรับไม่ค่อยได้ แต่ผมก็รักท่าน เพราะผมเป็นนายกรัฐมนตรี หลายท่านก็พูดโน่นนี่นั่น ผมถามว่าในห้องนี้มีสักกี่คนที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อน ผมย่อมมีประสบการณ์มากกว่าท่าน แต่เรื่องการพูดแข่งผมสู้ไม่ได้ ผมยอม