SHARE

คัดลอกแล้ว

‘รังสิมันต์  โรม’ แฉตั๋วช้างภาค 2  เปิดหลักฐาน นายกฯ ควักงบกลาง 937 ล้าน กลบหนี้ทุจริต ‘กองบินตำรวจ’ 

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของข้าราชการตำรวจ ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ กรณีปล่อยปละละเลยทุจริตที่เกิดขึ้นในกองบินตำรวจ ทั้งยังมีการยอมให้ใช้ ‘ตั๋วช้าง’ อีกประเภทหนึ่งเป็นเกราะกำบังเพื่อไม่ให้ใครหรือหน่วยงานใดกล้าตรวจสอบได้ ย้อนไปในปีงบประมาณ 2563 ในช่วงที่ พล.ต.ต.ก ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองบินตำรวจ (บ.ตร.) ได้เซ็นสัญญาโครงการซ่อมบำรุงอากาศยาน กับ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้เป็นผู้ดำเนินการซ่อมและจัดหาอะไหล่ ตามงบประมาณปี 2563 จำนวนกว่า 950 ล้านบาท แต่ต่อมาเมื่อเดือนก.ย. 2564 การบินไทยได้ยื่นหนังสือทวงหนี้มายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จึงทำให้พบว่ากองบินตำรวจ โดย พล.ต.ต.ก และพวก ได้สั่งจ้างสั่งซื้อเพิ่มเติมเกินกว่างบประมาณที่วางไว้ รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดของโครงการเป็นจำนวนถึง 2,774 ล้านบาท ซึ่ง 2 ใน 3 ของทั้งหมดนี้ กองบินตำรวจไม่สามารถเบิกจากคลังมาจ่ายได้ และกว่า 784 ล้านบาท ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการซ่อมเครื่องบินเลย เช่น ซื้อถังน้ำดับไฟป่า 8 ล้านบาท หรือซื้อตะขอเกี่ยวสินค้า 6.3 ล้านบาท เป็นต้น

นายรังสิมันต์ อภิปรายต่อว่า เมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบกลับล่าช้า และทำซ้ำไปมา กระบวนการตรวจสอบครั้งแรก เริ่มต้นจากการเสนอเรื่องให้ ผบ.ตร. สั่งให้จเรตำรวจตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ในเดือนมี.ค. 2564 แต่กลับใช้เวลากว่า 3 เดือน จึงจะสามารถตั้งคณะกรรมการตรวจสอบได้ และเสร็จสิ้นในเดือนต.ค. 2564 และหลังจากนั้น กลับมีคำสั่งให้ส่งเรื่องไปกองวินัยตำรวจเพื่อตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาใหม่อีก และกว่าจะได้ตั้งคณะกรรมการชุดใหม่กันจริงๆ คือช่วงปลายเดือนเม.ย. 2565 ที่ผ่านมา และก็ยังวุ่นอยู่กับการเปลี่ยนตัวกรรมการไม่เลิก ซึ่งเรื่องนี้เชื่อมโยงไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดของตำรวจ ได้ทราบเรื่องนี้ตั้งแต่ที่ สตช. ทำหนังสือขอความช่วยเหลือมายังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2564 

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงนามท้ายหนังสือรับทราบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายก็ยังปล่อยปละละเลยไม่เร่งรัดกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง กระทั่งกรมบังคับคดีซึ่งดูแลเรื่องการฟื้นฟูกิจการของการบินไทยส่งหนังสือทวงหนี้ 1,824 ล้านบาท มายัง สตช. ซึ่งในขั้นตอนนี้เป็นโอกาสสำคัญที่จะปฏิเสธหนี้ก้อนนี้ได้ เพราะตามขั้นตอน สตช. มีเวลาในการปฏิเสธหนี้ภายใน 14 วัน แต่ สตช. กลับล่าช้าทำหนังสือปฏิเสธหนี้ตอบกลับไปเกินเวลาที่กำหนด ทำให้ สตช. ต้องชำระหนี้การบินไทยเป็นจำนวนถึง 937 ล้านบาท ส่วนสาเหตุที่หนี้ลดลงจากเดิม เนื่องจากทางตำรวจไปขอต่อรองกับการบินไทยให้ยกเลิกรายการบางส่วนที่ยังไม่ได้รับพัสดุมาได้ ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ ใช้วิธีอนุมัติงบกลางเพื่อใช้หนี้ใน วันที่ 23 ก.พ. 2565 และในวันที่ 12 เม.ย. 2565 ครม.ก็อนุมัติอีกที รวมถึงยังอนุมัติให้ สตช. สามารถก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าที่กำหนดไว้ในงบประมาณปี 2563 ด้วย มตินี้จึงเหมือนเป็นทั้งการฟอกขาวให้ไปในตัว ทั้งยังนำเงินภาษีของประชาชนไปจ่ายให้กับการทุจริตที่เกิดขึ้นในกองบินตำรวจอีกด้วย

นายรังสิมันต์ ยังอภิปรายต่ออีกว่า นอกจากนี้ยังมีอีกกรณีทุจริตจากการที่ พล.ต.ต.ก ไปทำสัญญาแลกเปลี่ยนอะไหล่อากาศยานด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง โดยรวบรวมเอาอะไหล่เก่าๆ ที่เสื่อมสภาพแล้วไปแลกกับชุดใบพัดหางเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 ชุด ซึ่งในเรื่องนี้จาก คำสั่ง ตร. ระบุว่าตำแหน่งระดับผู้การกองบินมีอำนาจอนุมัติวงเงินได้แค่ 5,000,000 บาทเท่านั้น หรือในระเบียบกระทรวงการคลัง ระบุไว้ว่าวงเงินต้องไม่เกิน 500,000 บาท แต่เมื่อมีการประเมินราคาของที่ พล.ต.ต.ก นำไปแลกจำนวนทั้งหมด 6,622 ชิ้น นั้นพบว่า ราคารวมกันสูงถึง 1,157 ล้านบาท และในจำนวนนี้ยังพบด้วยว่ามีคำสั่งให้เอาอะไหล่ของเครื่องบิน Skyvan 1 ลำ 4 ชิ้น ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเครื่องยนต์ 2 ชิ้น และอะไหล่ของเฮลิคอปเตอร์ Bell 3 ลำ อีก 21 ชิ้น ไปยำรวมกับเศษเหล็กด้วย โดยอะไหล่ดังกล่าวที่สวมเข้ามาในบัญชีแลกเปลี่ยนนี้ยังใช้งานได้ทั้งหมด ประเมินแล้วมีมูลค่าประมาณ 111,000,000 บาท แต่เมื่อนำไปยำรวมกับเศษเหล็กมูลค่าจึงเหลือเพียง 2,500,000 บาทเท่านั้น และกรณีนี้เมื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบก็มีการเตะถ่วง ตั้งคณะกรรมการสอบวนไปวนมาเช่นเดิม 

ทั้ง 2 กรณี พล.อ.ประยุทธ์ รู้ปัญหาดีมาตลอดเพราะเป็นผู้เซ็นรับทราบด้วยตัวเอง แต่กลับไม่ได้ดำเนินการอะไร จึงทำให้ตนเกิดความสงสัยและไปตรวจสอบต่อ จนพบข้อมูลว่า พล.ต.ต. ก มีฐานะเป็นผบ.ศปก.ถปภ.ขบวน ฮ.เดโชชัย 5 ซึ่งจากเดิมถูกให้ไปดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ แต่หลังจากได้หนังสือตอบจากสำนักราชวังให้ปฏิบัติงานต่อตามที่ขอได้สตช. จึงออกเอกสารที่มีชื่อว่า ‘แผนถวายความปลอดภัยสำหรับขบวนเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะ’ เซ็นอนุมัติไว้ท้ายเอกสารโดยผู้ช่วย ผบ.ตร. ปฏิบัติราชการแทนผบ.ตร. สาระสำคัญคือระบุถึงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการถวายความปลอดภัยสำหรับขบวนเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปก.ถปภ.ขบวน ฮ. เดโชชัย 5 มีอำนาจสั่งการทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องในการจัดเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะ และยังกำหนดให้กองบินตำรวจ ต้องคอยรับผิดชอบและปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายมาจากพล.ต.ต.ก. ทั้งที่มีเพียงกองบินตำรวจเท่านั้นที่ขึ้นตรงกับสตช. ไม่มีชื่อศูนย์นี้ระบุไว้ว่าสังกัดหน่วยงานใด จึงเป็นคำถามว่าศูนย์นี้ตั้งขึ้นมาโดยอาศัยอำนาจอำนาจตามกฎหมายอะไรและทำไมจึงสั่งการกองบินตำรวจได้ กรณีนี้จึงเหมือนเป็นการเอาหนังสือจากสำนักพระราชวังมาอ้าง โดยบอกว่า เพื่อวางแผนถวายความปลอดภัยฯ แบบนี้จึงเท่ากับ ‘ตั๋วช้าง’ อีกประเภทหนึ่งใช่หรือไม่

โดยในช่วงท้าย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า  สุดท้ายแล้วพล.อ.ประยุทธ์ ก็คือบุคคล ที่สำคัญที่สุดที่เป็นผู้สานต่อวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด วัฒนธรรมทุจริตแล้วได้ดิบดีให้แผ่ไพศาลไปทั่วทั้งระบบราชการ ไม่ใช่แค่ตำรวจ แต่รวมทั้งทหาร ครู ศาล อัยการ และราชการอื่นใดทั้งหมดทั้งปวง ฉุดชากเอาระบบราชการของประเทศนี้ที่ตกต่ำอยู่แล้ว ให้ตกต่ำลงไปอีกในแบบที่ เราไม่อาจเห็นได้เลยว่าก้นบึ้งแห่งความตกต่ำนี้อยู่ที่ใด ถ้าเพื่อนสมาชิกเห็นกันแล้ว ก็ขอให้ช่วยกันลงมติลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีคนนี้ 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า