พรรคเล็กกินกล้วย ถ้าหลักฐานชัด ผิดทั้งผู้ให้-ผู้รับ อดีต กกต.ชี้โทษหนักถึงยุบพรรค

อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีจบ บรรดารัฐมนตรีต่างชื่นมื่นไปกับคะแนนเสียงผ่านฉลุย แต่สำหรับ แม้จะมีการใช้กำลังภายในกันฝุ่นตลบในก่อนหน้านี้ และจากนี้ไปก็จับตา ‘คนแจกกล้วยและส.ส.พรรคเล็กที่กินกล้วย’ ที่มีหลักฐานตั้งใจให้หลุดออกมาเพื่อแฉพฤติกรรมนักล็อบบี้ยิสต์ งานนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยเปิดพร้อมบวกให้ระวังกันไว้ 3-4 ปีที่ผ่านมาพรรคพวกนี้รับเงินเดือนจากใครให้จำไว้ มีลายเซ็นทุกอย่าง รับเกิน 3,000 บาท

นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 ถึงกลับออกมาเตือน ร.อ.ธรรมนัสใช้วิธีการเช่นนี้ ใครจะมาร่วมงานด้วยในอนาคต

• ครอบงำพรรค อาจถูกยุบพรรคได้

เรื่องนี้อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สมชัย ศรีสุทธิยากร ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเมื่อเวลา 21.40 น. วันที่ 22 ก.ค. 2565 ระบุว่า การจ่ายเงินให้พรรคการเมือง รายเดือน เดือนละ 100,000 บาทนั้น ไม่ใช่ความผิดแค่เรื่องเจ้าหน้าที่รัฐรับสิ่งของที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาทเท่านั้น แต่การจ่ายเงินดังกล่าว หากเป็นการจ่ายในลักษณะเงินเดือนต่อเนื่องมาตลอดเวลากว่า 3 ปี ของการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองด้วย มีโทษทางอาญาทั้งผู้ให้และผู้รับ และถ้าถึงขั้นครอบงำพรรค ก็อาจจะยุบพรรคการเมืองได้

สมชัย ระบุว่าในฐานะคนคุ้นเคย หากมีหลักฐาน ให้นำหลักฐานไปร้อง กกต. ในความผิดตาม มาตรา 28 และมาตรา 29 ของพ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 หากไม่ถนัดร้องเอง “ผมทำเรื่องร้องให้ครับ”

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี อาจพูดแสดงความคิดเห็นได้ไม่เต็มปากนัก แต่ก็บอกว่าการตรวจสอบสามารถทำได้ 2 วิธี คณะกรรมการการเลือกตั้งหยิบยกขึ้นมาเอง หรือมีผู้ร้องให้ตรวจสอบ ก็สามารถทำได้ ถ้า กกต. ไม่มีช่องทางใดเลยจะหยิบขึ้นมาก็ยาก แต่ถ้าหลักฐานคาหนังคาเขา ก็สามารถหยิบขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นทำได้ทั้งสองอย่าง ความผิดจะผิดทั้งผู้ให้และผู้รับเลยหรือไม่นั้น ผู้ให้ไม่ได้พูดถึงไว้ ยกเว้นจะรู้มูลเหตุจูงใจว่าให้ทำไม แต่ผู้รับนั้นเกิน 3,000 บาทไม่ได้อยู่แล้ว

• ศรีสุวรรณ เร่งรวบหลักฐานร้อง ป.ป.ช.

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกมาบอกว่าเพื่อให้เกิดความชัดเจนสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจะได้รวบรวมพยานหลักฐานจากแหล่งที่ปรากฏในสื่อสำนักต่าง ๆ ในโซเชียลมีเดีย กลุ่มไลน์ต่าง ๆ และแหล่งข่าวเพื่อนำไปประมวลยื่นให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ หากได้หลักฐานเพียงพอ คาดว่าจะยื่นเรื่องได้ในสัปดาห์หน้านี้
การที่มี ส.ส.รับเงินอาจเข้าข่ายฝ่าฝืน ม.128 วรรคแรก แห่ง พรป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 ที่บัญญัติว่า “ห้ามมิให้เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคํานวณเป็นเงินได้จากผู้ใด นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ ที่ออกโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เว้นแต่การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยธรรมจรรยาตามหลักเกณฑ์และจํานวนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. “เจ้าพนักงานของรัฐจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาได้แต่ละโอกาสไม่เกิน 3,000 บาทเท่านั้น

ส.ส.ที่ฝ่าฝืนจะมีความผิดตาม ม.169 แห่ง พรป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง 2560 ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10 และข้อ 17 ประกอบ ข้อ 27 วรรคสองได้ ซึ่งหาก ป.ป.ช.ชี้มูลว่าฝ่าฝืนจริงก็อาจยื่นคำร้องส่งให้ศาลฎีกาวินิจฉัย และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของ ส.ส.ผู้นั้น และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปี ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.2560 มาตรา 235 และ พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 87 นั่นเอง

ที่มา
https://www.facebook.com/profile.php?id=100044326334588
https://www.facebook.com/somchaivision
.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง https://workpointtoday.com/politics-228/