น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคก้าวไกลจะยังคงดำเนินยุทธการณ์โรยเกลือต่อเป็นครั้งที่ 3 แม้ที่ผ่านมาการยื่นเรื่องไปที่องค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบอย่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. คดีความจะไม่ค่อยมีความคืบหน้า ซึ่งก็สอดคล้องกับที่ได้อภิปรายใน 2 เรื่องที่แม้จะมองว่าเป็นเรื่องเก่าแต่ผลก็เพิ่งออกมา นั่นคือกรณีของ จีที 200 และนาฬิกาเพื่อน และแม้ว่าความเชื่อมั่นในองค์กรอิสระอย่าง ป.ป.ช. สำหรับประชาชนแล้วจะเหลือน้อย แต่คงต้องทำหน้าที่ต่อไปด้วยการรวบรวมเอกสารทั้ง 11 กรณีที่ได้อภิปรายนำไปยื่นอีกครั้ง ด้วยหวังว่าเมื่อระบอบประยุทธ์สิ้นสุดลง วัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดก็จะต้องหมดไปด้วย การเช็กบิลผู้ที่ทำผิดจะต้องเกิดขึ้นภายใต้ระบอบที่องค์กรอิสระเป็นอิสระอย่างแท้จริง
“ที่ผ่านมา เราพบความผิดปกติหลายๆ เรื่อง เช่น กรณีที่คุณอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคได้อภิปรายเรื่องทุจริตการสร้างอนุสาวรีย์ ก็พบว่ามีการยกเลิกประกาศสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง การสร้างเพียง 1 วันก่อนอภิปราย ซึ่งก็น่าจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้ทางพรรคได้ปล่อยหนังตัวอย่างออกมาว่าจะมีการอภิปรายเรื่องนี้ จึงส่งผลให้มีการแก้ประกาศเพียง 1 วันหลังจากนั้น และเป็น 1 วันก่อนที่จะมีการอภิปราย ซึ่งนี่เรื่องผิดปกติออย่างมาก
ยังมีอีก 2 กรณี ที่ไม่สามารถไปยกเลิกประกาศย้อนหลังได้อย่างแน่นอน ซึ่งเราเตรียมข้อมูลหลักฐานไว้พร้อมแล้ว นอกจากนี้ยังมีเรื่องกัญชา การซุกหุ้น การทุจริตในเคหะแห่งชาติ การออกโฉนดอย่างไม่ชอบ การใช้สปายแวร์สอดแนมโจมตีผู้เห็นต่างและนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม และที่สำคัญคือการทุจริตในกองบินตำรวจ ก็ต้องเข้าสู่การตรวจสอบด้วยเช่นกัน ซึ่งตอนนี้หลักฐานพร้อมแล้ว ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปจะเริ่มทยอยยื่นหลักฐานต่อ ป.ป.ช.ได้” ศิริกัญญา กล่าว
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้อภิปรายเรื่องการทุจริตในกองบินตำรวจ กล่าวว่า การเอาผิดในเรื่องนี้ต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกที่เกี่ยวพันโดยตรงกับ พล.ต.ต. “ก ไก่” และอีกส่วนก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นผู้อนุมัติงบกลางไปใช้จนทำให้รัฐเกิดความเสียหาย และด้วยหลักฐานทั้งหมดที่เรามีในขณะนี้ เชื่อว่าจะสามารถเอาผิดได้อย่างแน่นอน เพราะถ้าลองย้อนไปดูการชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ จะเห็นว่าไม่สามารถชี้แจงอะไรได้เลย