วิปฝ่ายค้านชี้อาจเกิดวิกฤตทางการเมือง หาก ‘พล.อ.ประยุทธ์’ อยู่ต่อ

‘วิปฝ่ายค้าน’ รอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญปม 8 ปี นายกฯ ที่สภาฯ ยอมรับห่วงวิกฤตทางการเมือง หากศาลวินิจฉัยให้ ‘พล.อ.ประยุทธ์’ อยู่ต่อ

นายสุทิน คลังแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงทิศทางของพรรคร่วมฝ่ายค้านในการฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 17 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่

ปรระธานวิปฝ่ายค้าน ระบุว่า ความจริงพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ได้มีการนัดหมายอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ในวันนี้ถ้าใครสะดวกก็ให้มาฟังคำวินิจฉัยร่วมกันที่ห้องผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เวลา 14.00 น. หากใครไม่สะดวกก็ฟังจากที่บ้านได้ แต่หากมาฟังร่วมกันก็อาจจะได้ร่วมกันหารือถึงแนวทางต่อไปหลังทราบผลวินิจฉัยแล้ว

ส่วนพรรคร่วมฝ่ายจะดำเนินการต่อไปอย่างไรบ้างนั้น นายสุทิน กล่าวว่า ต้องฟังคำอธิบายประกอบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน เพื่อให้เข้าใจและยอมรับผลวินิจฉัยกันได้อย่างสิ้นกระแสความ หากศาลได้อธิบายอย่างดีและมีเหตุผล เราก็จะไม่ติดใจอะไร แต่ถ้ายังมีข้อที่สังคมคาใจก็จะลองพิจารณาดูว่า ในเชิงวิชาการจะแสดงอะไรไว้ให้เป็นบรรทัดฐานของสังคมในอนาคต ให้มีการพูดถึงและแสดงความเห็นบ้าง

เมื่อถามว่า หากผลออกมาพล.อ.ประยุทธ์ได้อยู่ต่อ มองสถานการณ์ทางการเมืองอย่างไร

นายสุทิน กล่าวว่าก็เป็นเรื่องที่น่าห่วง ถ้าพล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อปัญหาวิกฤตทางการเมืองจะเกิดขึ้น เพราะเกิดตามข้อกังวลที่เป็นเจตนารมณ์ที่เขียนไว้รัฐธรรมนูญมาตรา 158 คือ ถ้าอยู่นานเกินไป ก็จะเกิดปัญหาวิกฤตทางการเมือง วันนี้หากพล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อตามข้อเท็จจริงก็จะเกิน 8 ปี และสิ่งที่คณะร่างรัฐธรรมนูญกังวลว่าจะเกิดปัญหา ตนก็เชื่อว่ามีความเป็นจริงเกิดขึ้น ซึ่งตรงนี้อยู่ที่ฝ่ายต่างๆ ที่จะต้องหาทางที่จะไม่ให้เกิดความรุนแรงและบานปลาย