Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

มท.1 ชี้ขายที่ดินให้ต่างชาติเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องกลับไปศึกษาใหม่ ขณะที่ ‘วิษณุ’ ยอมรับรัฐบาลพลาดไม่ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ เตรียมรับฟังความเห็น 15 วัน ย้ำร่างปี 45 รุนแรงกว่า ขายทุกคน

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะมีการถอนร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าวตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. … ว่า กระทรวงมหาดไทยจะขอกลับไปพิจารณาใหม่และรับฟังความคิดเห็นอย่างน้อย 15 วันตามกฎหมาย ซึ่งตนได้ประชุมหารือไปเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา และผู้แทนกระทรวงมหาดไทยได้ชี้แจงว่า รัฐมนตรีมหาดไทยได้ขอถอนกลับไปพิจารณาใหม่ แต่จะต้องขออนุมัติจากครม.ภายในวันเดียวกันนี้ ย้ำว่าอย่างน้อย 15 วัน สามารถเสนอกลับมาใหม่ได้ แต่จะเร็วกว่านั้นไม่ได้ ต้องเป็นไปตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า หากถอนเรื่องดังกล่าวออกไปก็จะเหลือแต่ร่างกฎหมายของพรรคเพื่อไทยเมื่อปี 2545 ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ ซึ่งรุนแรงกว่าร่างกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว ส่วนฉบับนั้นเรียกว่าขายชาติเหมือนกันหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้ การขายชาติเป็นเรื่องที่พูดกันเอง ตนก็ไม่เห็นว่าการเอาที่ดินไปขายจะเรียกว่าเป็นการขายชาติ แต่หากว่าจะเรียกก็เรียกไป

นายวิษณุ กล่าวว่า การที่คนต่างชาติจะได้ที่ดินมีหลายวิธี อาจจะได้มาจากการเช่ายาว เช่าตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถเช่าได้ 90 ปี รวมถึงยังสามารถซื้อคอนโดมิเนียม 49% ของตึกทั้งหลังก็สามารถซื้อได้ รวมถึงอาจจะได้มาตามสนธิสัญญา ซึ่งต่างชาติจะได้มาเยอะ และประกาศกฎกระทรวงปี 2545 ที่ใช้บังคับเป็นการเป็นการออกตามความในพระราชบัญญัติประมวลกฎหมายที่ดินวิธีแก้ไขเมื่อปี 2542 ซึ่งในสมัยนั้นเกิดปัญหาไอเอ็มเอฟ และมาออกกฎกระทรวงให้ขายที่ดินได้ในปี 2545 จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลา 20 ปีพอดี ก็มีผู้ที่เป็นคนต่างด้าวได้มาซื้อที่ดิน 10 ราย อยู่มา 2 รายได้สัญชาติไทย ดังนั้นก็ยังคงเหลืออีก 8 ราย และ 8 ราย ไม่มีใครซื้อที่ดินเป็นไร่แม้แต่รายเดียว ซื้อเพียง 100 ถึง 200 ตารางวาเพื่อปลูกบ้าน เพราะเห็นว่ากฎกระทรวงเป็นภาระที่ยุ่งยาก ซื้อผ่านนอมินีไม่ได้ เพราะหากซื้อผ่านนอมินี ซื้อ 100 ไร่ก็ได้ จึงใช้วิธีซื้อผ่านนอมินีแทน หรือไม่ก็ตั้งบริษัทขึ้นมาแล้วตัวเองถือหุ้น 40% และให้คนไทยถือหุ้นอีก 49% เพื่ออุดช่องไว้ วิธีนี้สามารถซื้อที่ดินหมื่นไร่ได้ จึงเป็นเหตุที่กระทรวงมหาดไทยดูแล้วเห็นว่าจะต้องมีการปรับให้เกิดความคล่องตัว

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ดังนั้นการแก้ไขร่างกฎกระทรวงดังกล่าวในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการเปิดให้คนต่างด้าวทุกคน เหมือนกฎกระทรวงเมื่อปี 2545 แต่จะให้คน 4 ประเภทเท่านั้น ซึ่งเรามีวิธีการตรวจสอบทั้ง 4 กลุ่มและจะต้องมีเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ซึ่งความแตกต่างคือ ฉบับปี 2545 ใครที่เป็นคนต่างด้าวสามารถซื้อที่ดินได้หมด แต่ร่างกฎกระทรวงฉบับที่จะถอนออกจากครม.ในวันนี้จะกำหนดให้เฉพาะ 4 กลุ่มเท่านั้น  ทั้งนี้ ในฉบับปี 2545 จะต้องมีเงินลงทุนและถือครองห้าปี จะถอนก่อนไม่ได้ แต่ร่างกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวลดลงมาเหลือ 3 ปี เพราะ 20 ปีที่ผ่านมา พบเงื่อนไขว่า การไม่ดึงดูด เนื่องจากมีการถือครองที่ดินที่ยาวนานเกินไป ซึ่งการที่กระทรวงมหาดไทยขอถอน เพื่อกลับไปรับฟังความคิดเห็นก็อาจจะมีการแก้ไขเป็น 5 ปีตามเดิมก็ได้

เมื่อถามย้ำว่าการยอมถอยในวันนี้ เป็นเพราะปมประเด็นความอ่อนไหวทางการเมืองหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ทุกสาเหตุประกอบกัน เพราะทุกคนรุมด่าว่าขายชาติ ก็ต้องนำกลับไปทำความเข้าใจ ซึ่งตนก็ตำหนิรัฐบาลและตำหนิตัวเองด้วยว่าการชี้แจงไม่ชัดเจน และอาจเป็นความเคราะห์ร้ายเพราะเป็นการแถลงวันเดียวกับเรื่องการแก้ไขกฎกระทรวงปลดล็อกสุรา อารมณ์ของคนก็เลยพุ่งทะยานไป ดังนั้นการนำร่างกฎกระทรวงดังกล่าวกลับไปทำให้ดีและปรับปรุงถามความเห็นให้เข้มงวด กวดขัน และรับฟังสิ่งที่เขาวิจารณ์เพราะหลายข้อก็ถูก นำไปทำให้ดีและหากคิดจะนำกลับมาก็นำกลับมาก็ให้ใช้ปี 2545

เมื่อถามย้ำว่าให้เช่าไม่ดีกว่าหรือ นายวิษณุ กล่าวว่าก็ดีที่สุด แต่ไม่ดึงดูดความสนใจให้เขามาลงทุน ส่วนเสียดายหรือไม่ที่ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวถูกถอนออกไป นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เสียดาย

(พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา)

  • มท.1 ชี้ขายที่ดินให้ต่างชาติเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องกลับไปศึกษาใหม่

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงการลงนามคำสั่งขอถอนมติ ครม. เรื่อง ร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าวตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. … ออกจากมติ ครม.ที่ได้มีการอนุมัติหลักการไปเมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่ากระทรวงมหาดไทยทำเรื่องเสนอ ครม. เพื่อพิจารณานำเรื่องกลับไปพิจารณาศึกษาทบทวนใหม่ เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ต้องไปศึกษาใหม่ และต้องไปดูถึงผลดีผลเสียที่มีต่อเศรษฐกิจและสังคม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าที่เกิดการทบทวนเป็นเพราะกระแสสังคมกดดันใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ถ้าจะถามอย่างนั้น ไม่ตอบดีกว่า เพราะผมชี้แจงในสภาฯ และชี้แจงสื่ออยู่ตอนนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า