ส.ส.เพื่อไทย เปิดเอกสารเทียบส่วนต่างราคาจัดซื้อซิโนแวค ถามนายกฯ เงินส่วนต่างอยู่ที่ไหน

ส.ส.พรรคเพื่อไทย เปิดเอกสารค่าส่วนต่างซิโนแวค จี้ถาม นายกฯ พร้อม รมว.สาธารณสุข ต้องตอบว่าเงินส่วนต่างอยู่ในกระเป๋าใคร

วันที่ 31 ส.ค. 2564 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สธ. เกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคเข้าข่ายการทุจริตหรือไม่ ซึ่งมีเอกสาร ที่นายกฯ และ รมว.สธ. ดำเนินการส่อทุจริตจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค เชื่อว่าเมื่อได้ฟังคำอภิปรายแล้วประชาชนจะช่วยกันโหวตนอกสภาไม่ไว้วางใจบุคคลทั้ง 2 ท่าน และหวังว่า ส.ส. ในสภาจะต้องโหวตไม่ไว้วางใจทั้ง 2 ท่าน
โดยกล่าวอ้างว่ามีเอกสารจะแสดงต่อที่ประชุมสภา ซึ่งได้มาจากข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นข้อมูลแผนการนำเข้าวัคซีนซิโนแวค ราคาซื้อต่อโดส และราคาตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติจัดซื้อ
การซื้อวัคซีนซิโนแวคมีทั้งหมด 18 ครั้ง

การซื้อครั้งที่ 1 เป็นการซื้อ 2 ล้านโดส ไทยได้รับเพียง 1,992,000 โดส ในราคา 17เหรียญดอลลาร์สหรัฐ

การซื้อครั้งที่ 2 ครม. ซื้อในราคา 17 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ แต่บริษัทขายให้ไทยแค่ 15 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ มีส่วนต่าง 2 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อโดส

การซื้อครั้งที่ 3 ครม. ซื้ในราคา 17 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ซื้อจริง 14 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ มีส่วนต่าง 3 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ

การซื้อครั้งที่ 4 ครม. ซื้อในราคา 17 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ แต่บริษัทขายให้ 9.5 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ มีส่วนต่าง 7.5 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ

การซื้อครั้งที่ 5 ครม. ซื้อในราคา 17 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ บริษัทขายให้ 9 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ มีส่วนต่าง 8 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่ราคาตาม ครม. อนุมัติ 331,500,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทย 10,846,680 บาท
แต่ราคาจัดซื้อจริงที่บริษัทขายให้ 267,364,000 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทย 8,748,150,000 บาท
ส่วนต่างราคาคิดเป็นเงินไทย 2,098,529,920 บาท เงินจำนวนนี้อยู่ในกระเป๋าใคร และยังไม่นับรวมที่คาดว่าจะจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคอีก 12 ล้านโดส ผลประโยชน์จะตกอยู่ที่ใคร

ส่วนเอกสารชุดที่ 2 เป็นบันทึกการประชุมของคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางและข้อเสนอแนะเพื่อการแก้ไขปัญหาของผู้บริโภคในกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2564 ตรงกับข้อมูลชุดที่ 1 การจัดซื้อซิโนแวค 18.5 ล้านโดส (ความจริงคือ 19.5 ล้านโดส เพราะจีนบริจาคให้ 1 ล้านโดส) จากบริษัท ซิโนแวค ไลฟ์ ไซเอนซ์ โดยทำการซื้อขายลักษณะครั้งต่อแครั้ง เมื่อผลิตวัคซีนได้เท่าไหร่จะแจ้งให้ อภ. ทราบและจัดซื้อเป็นครั้งคราวได้ไม่ได้ลงนามในสัญญาจ้าง ทางบริษัทซิโนแวค ได้ลดราคาลงมาอย่างต่อเนื่องในแต่ละครั้งที่มีการซื้อ ราคาเริ่มต้นครั้งที่ 1 อยู่ที่โดสละ 17 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ กระทั่งล่าสุดการจัดซื้อครั้งที่ 5 อยู่ที่ราคาโดสละ 9 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า การจัดซื้อวัคซีนในล็อตแรกๆ อาจจะมีข้อแก้ตัวว่าเป็นการซื้อเร่งด่วน แต่ในระยะหลังโควิด-19 มีการกลายพันธุ์เกิดขึ้น และยังมีข้อมูลว่าวัคซีนซิโนแวคประสิทธิภาพในการจัดการสายพันธุ์เดลตาไม่ดีพอ แต่กระทรวงสาธารณสุขกลับอนุมัติจัดซื้อ 10.9 ล้านโดส ในวงเงิน 6,064 ล้านบาท ทั้งที่มติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ให้จัดซื้อวัคซีนอื่นควบคู่ไปด้วย

“ทำให้พบว่า การจัดซื้อวัคซีนในล็อต 10.9 ล้านโดส ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.จนถึง 31 ส.ค. มีการจัดซื้อ 3 ครั้ง บริษัทคิดราคาค่าวัคซีนต่างกัน ครั้งที่ 1 คิด 14 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ครั้งที่ 2 คิดที่ 9.5 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ครั้งที่ 3 คิด 9 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หากเอาราคาที่ ครม.อนุมัติ เปรียบเทียบกับราคาที่องค์การเภสัชกรรมจัดซื้อ ต่างกัน 49 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทย 1,603 ล้านบาท เงินจำนวนนี้อยู่กับใคร และทำไม ครม. ไม่อนุมัติเงินตามที่บริษัทขายให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเป็นคนตอบว่ามีส่วนต่างจริงหรือไม่ เหตุใดไม่ปกป้องการทุจริตโดยอนุมัติงบประมาณตามจริงในการจัดซื้อจัดจ้างแต่ละครั้ง และต้องเอาเอกสารมาแสดงต่อที่ประชุมด้วย ถ้าวันนี้ชี้แจงไม่ได้ ผมว่าท่านตั้งใจโกง” นายประเสริฐ กล่าว