นายกฯ แจง ไทยไม่ได้ฉีดวัคซีนช้าสุดในอาเซียน ส.ส.ก้าวไกล ท้วงสูดน้ำมูก 98 ครั้ง หวั่นแพร่เชื้อ

วันที่ 2 ก.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจง ในการประชุมสภา การอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ และ 5 รัฐมนตรี ซึ่งได้กล่าวถึงการปรับกลยุทธ์ของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อรับมือกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งเป็นเชื้อระบาดหนักไม่ต่างจากหลายประเทศที่กำลังเผชิญอยู่ โดยมีมาตรการในระลอกแรกคือ อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ขณะที่ระลอก 2 ช่วงเดือน ม.ค. – มี.ค. 2564 เน้นแนวทาง bubble and seal มีการตรวจหาเชื้อเชิงรุก ตั้ง รพ.สนาม สามารถคุมการระบาดได้ 80 วัน ต่อมาช่วงระลอก 3 เดือน เม.ย. 2564 จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ เพื่อรับมือกับสายพันธุ์เดลตา โดยเฉพาะการคิดค้นสูตรฉีดวัคซีนไขว้ชนิด ฉีดบูสเตอร์โดสให้แพทย์และกลุ่มเป้าหมายที่เสี่ยงสูง และยกระดับล็อกดาวน์เฉพาะจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม รวมถึงมีระบบจัดการผู้ป่วยโควิด-19 ระดับต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการ Home Isolation และ Community Isolation

ส่วนการปลดล็อก ATK นายอนุทิน เคยชี้แจงไปแล้ว การนำเข้ามา ก็ทำตามกติกาต้องมีบริษัทรองรับการนำเข้า “ขอให้ ส.ส. พูดอะไรต้องระมัดระวังด้วย การเอาเอกสารมาระมัดระวังด้วย เมื่อวานเอกสาร ที่เกี่ยวข้องกับทหาร เห็นชัดเจนว่าจะเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด”

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า มี ส.ส. บางท่านกล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยมีการนำเอกสารต่างๆ มาเปิดเผย เรื่องการประชุมของ ศบค. รวมถึงการอนุมัติงบต่างๆ เป็นเพียงการเซ็นรับทราบผลการประชุมเท่านั้น และนำเข้า ครม. เพื่อตัดสินใจร่วมกัน เป็นไปตามระบบบริหารราชการแผ่นดิน

“วันนี้เราจัด ศบค.กทม.เขต ไม่ใช่เพื่อใช้อำนาจของผมไปสั่งอะไรใคร แต่ ศบค.มีหน้าที่บูรณาการ ซึ่งจะไม่มีผลในเชิงปฏิบัติ ตราบใดที่ยังไม่เข้า ครม. การที่ผมเซ็นรับทราบไป คือการรับทราบผลการประชุมเท่านั้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนประเด็นการฉีดวัคซีนได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2563 ไม่ควรด้อยค่าวัคซีนซิโนแวค เพราะหลายคนก็ฉีดไปแล้ว ไม่เคยอ้อนวอนขอร้องวัคซีนจากประเทศอื่น เขาให้เอง ด้วยเห็นถึงความสัมพันธ์ที่ดีในอดีต รัฐทำทุกวิถีทาง ทางการทูตต่างประเทศช่วยกันติดต่อตลอด ส่วน อย. ก็ทำหน้าที่นี้มานานอย่าวิจารณ์และต้องเชื่อมั่น อย. ไทยโชคดีมีฐานการผลิตแอสตร้าเซนเนก้า เป็นเรื่องการทำงานร่วมมือสำหรับกระจายวัคซีนในกลุ่มประเทศอาเซียน วันนี้อาจจะยังน้อย วันหน้าอาจจะพัฒนาวัคซีน ยาเวชภัณฑ์อื่นๆ ได้ เพื่อกระจายไปยังประชาชน

ส่วนการอนุมัติงบจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคในราคาโดสละ 17 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นไปตามกรอบวงเงินและเบิกจ่าย ซึ่งมีค่าจัดหาวัคซีนและค่าอื่นๆ อีกจำนวนมากให้ สธ. ดำเนิการ

ขณะที่ผลการรับมือไวรัสสายพันธุ์เดลตา 10 วันที่ผ่านมา วันที่21 – 30 ส.ค. 2564 มีผู้ป่วยหายป่วยบ้านมากขึ้น ผู้ป่วยรักษาใน รพ. ลดลงอย่างต่อเนื่อง ความตึงตัวใน รพ. ก็ลดลง และ 2 สัปดาที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยในระบบทรงตัว หายป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน อัตราการเสียชีวิตก็ลดลง

ตลอดระยะเวลา 1 ปี 8 เดือน ไทยรับมือดีกว่าค่าเฉลี่ยโลก ขออย่าให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนำข้อมูลสถิติมาโจมตีกัน ประเทศไทมีอัตรากาเสียชีวิตที่ต่ำกว่าประเทศที่มีประชากรใกล้เคียงกัน อัตราการติดเชื้อของสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส สูงกว่าไทย 6 เท่า ขณะที่อัตราการเสียชีวิตมากกว่าไทย 18 เท่า ต้องมองโลกภายนอกด้วย อะไรที่จะทำต่อไปก็ทำไม่ได้ก็คงต้องช่วยกันรับผิดชอบ ช่วงระบาดหนัก 5 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เม.ย. อัตราการเสียชีวิตของไทยถือว่าต่ำ คิดเป็นร้อยละ 0.9

ขณะที่การฉีดวัคซีนประเทศไทยฉีดไปแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม 34.8% ของประชากรเป็นอันดับ 5 ของอาเซียน และมีจำนวนโดสที่ฉีดเป็นอันดับ 4 ของอาเซียน ไทยไม่ได้ฉีดวัคซีนล่าช้าที่สุดในอาเซียน

ช่วงท้ายการชี้แจง ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้แจงต่อประเด็นการปฏิรูปการศึกษา โดยนำข้อมูลจากเอกสารขึ้นมาอ่าน

นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยลุกขึ้นประท้วงการชี้แจงว่า เป็นประเด็นที่ไม่ได้ถามในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ยุติการชี้แจงต่อสภาทันที

ต่อมานายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประท้วงต่อว่า การชี้แจงพล.อ.ประยุทธ์ ตนได้ยินเสียงสูดน้ำมูก ซึ่งนับได้ 98 ครั้ง คาดว่าจะเป็นหวัด ดังนั้นขอให้พิจารณาว่าคนที่เป็นหวัดควรระวังการเข้าสภา หวั่นแพร่ระบาด

ขณะที่นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ในฐานะประธานที่ประชุม แจ้งว่า เป็นปกติของผู้ที่อภิปรายพร้อมกับสวมหน้ากากอนามัย เสนอให้นายกฯ ถอดหน้ากากพูด

ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลุกประท้วง ผู้ประท้วง โดยระบุว่า ส.ส.พรรคก้าวกไล มีการเสียดสี และไม่อยากให้กล่าวว่าร้ายกัน