SHARE

คัดลอกแล้ว

สสส.เปิดรายงานสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนนประเทศไทย ฉบับที่ 6 ประจำปี 2563 คนไทยเสียชีวิตชั่วโมงละ 2 คน พบข้อมูลใหม่ผู้สูงอายุเสียชีวิตเพิ่มขึ้นสัดส่วนเกือบเทียบเท่ากลุ่มเยาวชน-วัยทำงาน ห่วงกระทบสังคมสูงวัย

วันที่ 25 มี.ค. 2565 นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย ประธานแผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า แม้แนวโน้มการเสียชีวิตจะลดลง แต่การสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย ยังอยู่ในระดับสูง คือ มีคนตายถึง 17,831 คน คิดเป็น 27.2 ต่อแสนประชากร หรือ 49 คนต่อวัน หรือชั่วโมงละ 2 คน ที่น่าสังเกตคือกลุ่มอายุ 16-30 ปี ที่เป็นกลุ่มที่เสียชีวิตสูงสุด ปัจจุบันมีสัดส่วนลดลงเรื่อยๆ ในขณะที่กลุ่มอายุ 46-60 ปี และกลุ่มที่อายุมากกว่า 60 มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจนสัดส่วนใกล้เคียงกัน

นพ.วิทยา กล่าวว่า มีข้อมูลชี้ให้เห็นเรื่องสำคัญว่า แม้ 70% ของอุบัติเหตุทางถนน จะเกิดในกลุ่มอายุ 16-60 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยทำงาน แต่ที่เกิดกับผู้สูงอายุเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งสัมพันธ์กับการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยของประเทศไทย ที่สำคัญผู้สูงอายุเมื่อได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน มีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่ากลุ่มอายุน้อย 10 เท่า ซึ่งที่ผ่านมาเราไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญ กับการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน ที่เกิดกับผู้สูงอายุด้วยเข้าใจว่าเกิดไม่มาก แต่จากข้อมูลล่าสุดทำให้เราจะต้องกลับมาพิจารณา ให้ความสำคัญในการกำหนดมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ กับผู้สูงวัยอย่างจริงจังมากขึ้น

นพ.วิทยา กล่าวว่า ส่วนใหญ่ของผู้เสียชีวิตยังคงเป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์ คิดเป็น 74% ของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนทั้งหมด และเป็นเช่นนี้มานานนับสิบปีแล้ว โดย IHPP ได้รายงานในปี 2564 ไว้ว่า หากคนขี่คนซ้อนมอเตอร์ไชค์ทุกคนในประเทศไทย ใส่หมวกกันน็อก 100% การเสียชีวิตในภาพรวมจะลดลง 36% ซึ่งหมายความว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะลดลงถึง 5,000 คนในปีนั้น แต่ถ้าเรายังใช้วิธีการเดิมๆ ที่เราเคยทำมาก่อนหน้านี้ คงไม่สามารถทำให้คนขับขี่รถจักรยานยนต์ สวมหมวกกันน็อคได้ทั้ง 100% จึงเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะต้องคิดหาวิธีการใหม่ในการแก้ปัญหานี้

“การบังคับใช้กฎหมายยังเป็นจุดอ่อนสำคัญ ในการแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนน จากรายงานพบว่าอัตราการจับกุมคดีต่อพฤติกรรมเสี่ยง ในแต่ละจังหวัดมีความแตกต่างกันมาก เช่น คดีเมาสุราขับรถ จังหวัดที่มีการจับกุมสูงสุดคือ ตาก มีอัตราการจับกุม 5,521 ต่อแสนประชากร ในขณะที่จังหวัด ปัตตานีและลพบุรีไม่มีรายงานการจับกุมเลย ส่วน “คดีไม่สวมหมวกนิรภัย จังหวัดที่มีการจับกุมสูงสุด คือ ตาก มีอัตราการจับกุม 47,830 ต่อแสนประชากร ในขณะที่จังหวัดมหาสารคาม มีอัตราการจับกุม 54 ต่อแสนประชาการ” นพ.วิทยา กล่าว

ด้าน รศ.ดร.ปรีดา จาตุรพงศ์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เผยว่า จากรายงานฉบับที่ 6 ปี 2563 พบว่า 10 จังหวัดที่มีอัตราการเสียชีวิต ต่อแสนประชากรสูงสุด ได้แก่ 1. ระยอง 2. นครนายก 3. จันทบุรี 4. ชลบุรี 5. ชัยนาท 6. ปราจีนบุรี 7. สระบุรี 8. ประจวบคีรีขันธ์ 9. ลำพูน และ 10. สุพรรณบุรี ขณะที่ 10 จังหวัดที่มีอัตราการเสียชีวิต ต่อแสนประชากรต่ำสุด ได้แก่ 1. อำนาจเจริญ 2. ยะลา 3. กทม 4. สตูล 5. ปัตตานี 6. นราธิวาส 7. แม่ฮ่องสอน 8. สมุทรสงคราม 9. นนทบุรี และ 10. อุดรธานี

รศ.ดร.ปรีดา กล่าวว่า เมื่อเทียบกับรายงานฉบับที่ 5 ปี 2561 พบว่ามี 18 จังหวัด ที่อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 5 อันดับแรก คือ นครนายก สิงห์บุรี ปัตตานี สุโขทัย ยะลา และ 58 จังหวัด ที่อัตราการเสียชีวิตลดลง 5 อันดับแรก คือ พังงา นครปฐม ย โสธร ภูเก็ต กระบี่

ทั้งนี้ตั้งข้อสังเกตว่า ตั้งแต่เริ่มการระบาดโควิด-19 เมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค. 2563 จนถึงวันนี้ ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากการระบาดนี้ ไปแล้ว 24,420 ราย แต่ระหว่าง ปี 2563-2564 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน รวม 34,788 ราย ยังไม่รวมการเสียชีวิต ตั้งแต่ ม.ค. – มี.ค. 2565 ท่ามกลางมาตรการการควบคุมโควิด-19 ที่สามารถทำให้คนไทยใส่หน้ากากอนามัยกันทั้งประเทศ แต่การจะทำให้คนขับขี่รถมอเตอร์ไชค์ ใส่หมวกกันน็อกยังไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งที่ว่ากันตามจริงแล้วอุบัติเหตุทางถนน ก่อให้เกิดความสูญเสียสูงกว่าโควิด-19

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า