‘สุชัชวีร์’ เปิดตัวโชว์วิสัยทัศน์ ชูเปลี่ยนกทม.เมืองสวัสดิการทันสมัย มั่นใจแก้ปัญหาคนกรุง น้ำท่วม-การศึกษา

เปิดตัว ‘ดร.เอ้ สุชัชวีร์’ ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. จากพรรคประชาธิปัตย์ ชูแนวคิด “เปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้” มั่นใจประสบการณ์ 30 ปี แก้ปัญหารอบด้าน น้ำท่วม-การศึกษา-สาธารณสุข ชูสร้างเมืองสวัสดิการทันสมัย ต้นแบบอาเซียน ตั้งเป้าเป็นเมืองเจ้าภาพโอลิมปิก 2036

วันที่ 13 ธ.ค. 2564 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.จากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดตัวพร้อมกับนโยบาย “เปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้” โดยเล่าถึงประวัติส่วนตัวตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ ที่สามารถประสบความสำเร็จได้ เพราะได้รับโอกาส และความเพียร รวมถึงมีเป้าหมาย ประกอบกับความเชื่อว่า “ทำได้” ซึ่งผลงานที่ภูมิใจคือการออกแบบรถไฟฟ้าใต้ดินและสามารถสร้างสำเร็จเปิดใช้ได้ในปัจจุบัน

นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า กทม.มีปัญหาพื้นฐาน ทั้งฝนตกน้ำท่วม น้ำเหนือไหลบ่า น้ำทะเลหนุน ซึ่งนักวิจัยระดับโลกพูดตรงกันว่าวันนี้ ถ้ากทม.ยังไม่เปลี่ยน จมน้ำแน่นอนภายใน 10-20 ปี

“อยากจะบอกทุกท่าน ว่าปัญหาน้ำท่วมคือวิกฤตของกรุงเทพฯ แน่นอน และ เป็นเรื่องที่ชี้ชะตาคนกรุงเทพฯ ในอนาคต นั่นหมายความว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้ ไม่ใช่เลือกผู้ว่าฯ กทม. แต่เป็นการเลือกอนาคตของกรุงเทพฯ อนาคตของประเทศไทย และอนาคตของลูกหลานไทย ให้มันรู้กันไปถ้าเกิดคนกรุงเทพฯ ให้โอกาสผู้ว่าฯ ที่เป็นวิศวกรระดับวุฒิ จบปริญญาเอกทั้งทางด้านน้ำ ด้านดิน เคยเป็นนายกวิศวกรรมสถาน นายกสภาวิศวกร เป็นวิศวกรดีเด่นอาเซียน อาสามาช่วยพี่น้องทั้งประเทศไทยมาแล้ว ให้มันรู้ไปจะเปลี่ยนกรุงเทพให้มันรอดจากน้ำท่วมไม่ได้ เราทำได้” นายสุชัชวีร์ กล่าว

ขณะที่ปัญหาด้านคุณภาพอากาศ PM2.5 สามารถแก้ได้ที่ต้นเหตุของปัญหา ซึ่งเราทราบกันอยู่แล้ว และจะได้เห็นทางจักรยานลอยฟ้าทางแรกของ กทม. รวมถึงปัญหาการจราจรติดขัดอีกด้วย

ขณะที่ด้านการศึกษา นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า รู้สึกแย่มากๆ ที่ต้องเห็นเด็กๆ ตื่นไปโรงเรียนแต่เช้าตรู เพื่อไปโรงเรียนที่มีคุณภาพ ดังนั้นจะทำให้ โรงเรีนในกทม. ให้มีคุณภาพ จัดให้เป็นโรงเรียนสาธิต ใน 50 เขต มีการเรียนการสอนสมัยใหม่ และเรียนแบบสองภาษา จะทำให้โรงเรียนกทม. มีคนแย่งเข้าเรียน

ส่วนด้านการสาธารณสุข นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า เห็นผู้สูงอายุหลายคนต้องไปรอคิวพบแพทย์ที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ตั้งแต่เช้ามืดเพื่อรอรับการรักษา แต่จะสังเกตได้ว่าสถานีอนามัยในชุมชนไม่มีใครไปใช้บริการ ดังนั้นจึงจะยกระดับศูนย์บริการ 68 ศูนย์ เป็นศูนย์การแพทย์ที่มีเครื่องมือครบและมีเครื่องฟอกไตทุกศูนย์ จะทำให้ กทม.เป็นเมืองสวัสดิการทันสมัย ต้นแบบของอาเซียนให้ได้ ดูแลเท่าเทียมอย่างมีคุณภาพ

นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า กรุงเทพต้องเป็นเมืองที่ทันสมัยอยู่บนเทคโนโลยี คิดแบบเดิมทำแบบเก่า ถ้าทำได้คงแก้ปัญหาไปแล้วเมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว ดังนั้นมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ กทม.สามารถเรียนรู้ใหม่ได้ มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีเพื่อบริการประชาชน อยากให้ กทม.เหมือนกับ กรุงโตเกียว ที่ใช้เทคโนโลยีในการทำเมืองให้น่าอยู่ การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตต้องได้ใช้ฟรีทุกคน และสามารถปรับนำมาใช้เตือนภัยพิบัติได้

“เราต้องกล้าคิด กทม.เป็นเมืองต้นแบบของอาเซียน ดังนั้นจึงคิดว่าตั้งเป้าให้ กทม.เป็นเมืองเจ้าภาพโอลิมปิกในปี 2036 หากจะเป็นเจ้าภาพแล้วสิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ การพัฒนา ฟุตบาทเรียบสนิท สายไฟฟ้าลงดิน รถไฟฟ้าทั่วถึง พลังงานสะอาด หากเราจะเปลี่ยนทั้งที่ไปให้สุด” นายสุชัชวีร์ กล่าว

นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า เหตุผลมาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. เพราะเป็นหนี้คนไทยส่งเรียน ได้ให้ไปเรียนกลับมามีอาชีพ ที่มีเกียรติ มีชีวิตที่ดี ได้มีโอกาสเรียนรู้กับผู้นำระดับโลก วันนี้ชัดเจนเป็นยุคที่ กทม.วิกฤต จึงต้องกล้าออกมา ต้องการเป็นตัวอย่างเด็กทุน ทุกคนอย่าอยู่ในพื้นที่สบายตน ออกมาทำงานที่ยาก และท้าทาย แต่อาจเจ็บตัว เพื่อทำงานที่ท้าทาย ขณะเดียวกันรู้หน้าที่ผู้ว่าฯ กทม ต้องเป็นพ่อบ้าน และนายช่างใหญ่ ต้องมีประสบการณ์รอบด้าน ต้องเข้าใจเมือง เศรษฐกิจ การศึกษา สาธารณะสุข และสิ่งแวดล้อม ได้ใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์ 30 ปี เต็มเพื่อวันนี้ และที่สำคัญ หากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะคืนพื้นที่ชั้นบนสุดของศาลาว่าการ กทม. แดงให้กับประชาชน ได้มีโอกาสชมเมืองฟรี เหมือนที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งที่นั่นทำได้ กทม.ก็ทำได้ เช่นเดียวกัน

นายสุชัชวีร์ ให้สัมภาษณ์ถึงการตัดสินใจลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เพราะเห็นกระแสพลังการเปลี่ยนแปลงของพรรค และเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เลือดใหม่ได้เสนอตัวเข้ามาทำงาน ขณะเดียวกันเห็นว่าผู้ว่าฯ กทม.ไม่สามารถทำงานคนเดียวตามลำพังได้ ต้องทำงานเป็นทีม ส่วนการลงพื้นที่หาเสียงจะเป็นในลักษณะลุย โชคดีที่พรรคประชาธิปัตย์มีคนในพื้นที่มาอย่างยาวนาน สก. 50 เขตเตรียมพร้อมแล้ว เนื้อที่กรุงเทพฯมีประมาณ 1.6 ล้านตารางเมตร จะเดินให้ได้ 1.6 ล้านก้าวพร้อมกับตัวแทนทุกเขต

“มีความมั่นใจกับคนกรุงเทพฯ จริงๆ คนกรุงเทพฯ ต้องมีโอกาสได้รู้จักตัวตนและผลงาน ในฐานะนักเปลี่ยนแปลง และมีการเตรียมพร้อมมา 30 ปี ทำงานมาทุกด้าน ทุกมิติ มั่นใจคนกรุงเทพฯจะให้โอกาส” นายสุชัชวีร์ กล่าว

เมื่อถามว่าจากการลงพื้นที่พบปะประชาชนกระแสตอบรับเป็นอย่างไร นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า กระแสตอบรับดีมาก วันนี้เป็นวันแรกที่ผลการลาออกมีผลอย่างเป็นทางการ ซึ่งหนทางยังอีกยาวไกล อยากขอเชิญชวนประชาชนเดินบนเส้นทางนี้ด้วยกัน

ก่อนหน้านี้ ที่พรรคประชาธิปัตย๋ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ภูมิใจที่ได้ต้อนรับเลือดใหม่คุณภาพ อย่างนายสุชัชวีร์ เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรค นับจากนี้ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับชาวกรุงเทพ และหวังว่าจะนำชัยชนะมาสู่พรรค นำชัยชนะมาสู่พี่น้องชาวกรุงเทพมหานครทุกคน ถ้าได้รับเลือกตั้งหรือได้รับโอกาสผมมั่นใจว่า ดร.สุชัชวีร์ และทีมงานพรรคประชาธิปัตย์ สามารถเปลี่ยนกรุงเทพเราทำได้อย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โซเชียลมีเดียของ ส.ส.ผู้บริหารของพรรค และผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.กระทรวงศึกษาธิการ นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรค รมช.กระทรวงสาธารณสุข นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ นอกจากนี้ ยังมี น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต ส.ส.กทม.เป็นต้น ได้เปลี่ยนรูปภาพหน้าปกเฟซบุ๊ก เป็นรูป ‘ดร.เอ้’ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ภายหลังจากที่ประชุม กก.บห.มีมติเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ ให้เป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรค

นอกจากนี้ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่า นายสุชัชวีร์ มีหนังสือแจ้งขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการ กรรมการอิสระ และประธานกรรมการบริหารความเสี่ยงของบริษัท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. 2564 เป็นต้นไป เนื่องจากมีภารกิจอื่นเป็นจำนวนมาก จนทำให้ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งกรรมการได้ และบริษัทจะจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาแต่งตั้งกรรมการใหม่แทนกรรมการที่ลาออกต่อไป

คำต่อคำวันเปิดตัว ‘สุชัชวีร์’