ผู้ว่าฯ กทม.ตรวจสถานีสูบน้ำบางซื่อ ย้ำคลองและปั๊ม หัวใจหลักระบายน้ำ 

‘ชัชชาติ’ตรวจความพร้อมสถานีสูบน้ำบางซื่อ ชี้หัวใจหลักของการระบายน้ำคือคลองกับปั๊ม ต้องเพิ่มประสิทธิภาพ

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของสถานีสูบน้ำบางซื่อ โดยมี นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมลงพื้นที่ ว่า ระบบระบายน้ำในกรุงเทพฯ มีหลัก ๆ 2 ส่วน คือ ระบบคลองกับระบบอุโมงค์ระบายน้ำ เป็นทางด่วนน้ำที่อยู่ในระดับลบ 30 เมตร และมีอาคารรับน้ำเป็นจุด ๆ หัวใจของกรุงเทพฯ ทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกคือ ตัวคลอง อุโมงค์ระบายน้ำทำมา 4 โครงการ มีอยู่แค่ 20 กิโลเมตร รับน้ำได้ประมาณ 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่กรุงเทพฯ ต้องระบายน้ำทั้งสองฝั่งเกือบ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที 

“คลองจึงเป็นหัวใจหลัก คือ คลองจะดันน้ำมาตามคลอง มาถึงประตูระบายน้ำซึ่งมีประตูกั้นที่แม่น้ำเจ้าพระยา แล้วต้องสูบออก อาจจะมีคลองย่อย ฉะนั้นต้องทยอยน้ำไปเรื่อย ๆ จากคลองหลักไปแม่น้ำเจ้าพระยา สิ่งสำคัญที่สุดคือยุทธศาสตร์ ต้องเพิ่มประสิทธิภาพคลอง เราทำแต่อุโมงค์อย่างเดียวไม่ได้ เพราะอุโมงค์รับน้ำได้เป็นจุด ๆ แต่ถ้าจะกระจายในพื้นที่ คลองจึงมีความสำคัญ” นายชัชชาติ กล่าว

นายชัชชาติ กล่าวว่า คลองบางซื่อเป็นตัวหลัก เพราะรับน้ำจาก 2 คลอง ทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาตรงวัดแก้วฟ้า จะตัดคลองเหนือใต้ 2 คลองคือคลองเปรมประชากรที่มาจากดอนเมือง กับคลองลาดพร้าว หรือคลองสอง คลองบางบัว นอกจากนี้คลองลาดพร้าวยังตัดกับคลองแสนแสบด้วย โดยคลองลาดพร้าวมี 2 อุโมงค์ คือ รับน้ำตรงอุโมงค์ที่แสนแสบตรงพระราม 9 กับอุโมงค์ที่บางซื่อ 

“ระบบระบายน้ำ ซึ่งที่บางซื่อมีตัวปั๊มน้ำ 17 ตัว ดูดน้ำตัวละ 3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อุโมงค์บางซื่อระบายได้ 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่สำคัญคือตัวปั๊ม 17 ตัว เปลี่ยนไปแล้ว 5 ตัวเป็นตัวใหม่ ส่วนอีก 12 ตัวที่เหลือมีอายุ 15 ปี เนื่องจากอายุมันเยอะประสิทธิภาพก็ลดลง ปั๊มตัวหนึ่งที่เปลี่ยนไป ราคาตัวละ 4 ล้านบาทรวมติดตั้ง ถ้าเราปรับพวกนี้ มันลงทุนไม่เยอะเมื่อเทียบกับอุโมงค์ระบายน้ำ อุโมงค์ตัวหนึ่งอย่างบึงหนองบอนก็ 5 พันล้าน” นายชัชชาติ กล่าว 

นายชัชชาติ กล่าวว่า ถ้าเราปรับประสิทธิภาพของปั๊มน้ำ ราคาไม่ได้แพง เชื่อว่าการระบายน้ำจะดีขึ้น หัวใจหลักตอนนี้ต้องไล่ทุกจุดว่าปั๊มต้องทำงานได้ดี เรื่องระบบไฟ 190 สถานีต้องไปไล่ทุกจุด ตอนนี้ได้ดำเนินการแล้ว ประสิทธิภาพของปั๊มต้องทันสมัยเต็มที่ตามที่ได้ออกแบบไว้ ประสิทธิภาพของคลองเอง ความตื้นเขิน หัวใจคือท้องคลอง ตอนนี้รักษาระดับอยู่ที่ลบ 1 เมตร หัวปั๊มเวลาจุ่มน้ำ ต้องมีระยะให้ดูดน้ำได้ พอคลองตื้นไม่ได้ลอกทำให้เราพร่องน้ำได้ไม่เต็มที่ พอฝนตกไม่นานก็เต็มคลอง เพราะฉะนั้น ต้องเริ่มทำการลอกคลองให้มันกินน้ำได้ลึกขึ้น ต้องรีบดำเนินการ ถ้ามีเขื่อนจะช่วยลดได้ถึงลบ 3.5 เมตรได้ แต่ถ้าไม่มีจะมีดินสไลด์ข้างทาง ฉะนั้น 2 โครงการนี้ต้องไปด้วยกัน ทั้งการทำเขื่อนและการขุดลอกคลอง จะขุดลอกหน้าประตูระบายน้ำให้ลึกขึ้นอาจจะลบ 5 เมตร เป็นแก้มลิงอยู่หน้าประตูระบายน้ำหน้าสถานี ทำให้การสูบน้ำง่ายขึ้น เหมือนเรามีแอ่งน้ำก่อนถึงสถานีสูบน้ำ น้ำก็จะไหลลงมา เราก็เข้าพร่องน้ำตรงนี้ให้เยอะ ๆ มันก็จะดึงน้ำจากที่ไกล ๆ เข้ามาได้ 

“ปรับปรุงประสิทธิภาพคลองเป็นเรื่องสำคัญ ปรับปรุงประตูน้ำ ระบบปั๊ม การลอกคลอง การเก็บขยะ ต้องเร่งทำ คือเราไปเน้นเรื่องอุโมงค์มาก หัวใจสำคัญต้องทำทั้งคู่ ทำให้ balance อุโมงค์ก็ต้องเดินไป สุดท้ายถ้า 2 ระบบเสร็จพร้อมกัน ก็จะเกื้อกูลกันและทำงานได้อย่างเต็มที่” นายชัชชาติ กล่าว 

นายชัชชาติ กล่าวว่า ส่วนเรื่องขยะที่คลองบางซื่อ เจ้าหน้าที่เก็บขยะได้วันละ 3 ตัน ไม่ได้มาจากธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ทิ้งลงในคลอง ต้องฝากกัน มีหลายครั้งที่ได้ยินว่าขยะเข้าไปในเครื่องสูบน้ำ ทำให้เครื่องสูบน้ำพัง ต้องฝากให้ช่วยกัน อย่าทิ้งขยะลงในแม่น้ำลำคลอง ขยะชิ้นใหญ่อย่าทิ้ง เจ้าหน้าที่ต้องลงดำน้ำไปเก็บขยะ แทนที่จะได้ดูเรื่องปั๊ม