SHARE

คัดลอกแล้ว

กองทัพเรือชี้แจงกรณี การจัดหาอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ในโครงการจัดหาอากาศยานไร้คนขับ (UAV ) ประจำฐานบินชายฝั่ง หลังมี ส.ส.เพื่อไทยเปิดประเด็นเรื่องความไม่โปร่งใส ยันใช้งบประมาณให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด โปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตรวจสอบได้

วันนี้ (7 มิ.ย. 2565 ) พลเรือโทปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงกรณีที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และ นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ได้ออกมากล่าวหากองทัพเรือ ในโครงการจัดหาอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ประจำฐานบินชายฝั่ง ของกองทัพเรือ ว่าไม่มีความโปร่งใส นั้น กองทัพเรือ ขอชี้แจงรายประเด็นดังนี้

1. เหตุใดกองทัพเรือ จึงเปลี่ยนแบบ UAV ของประเทศจีน เป็น UAV ของประเทศอิสราเอล กองทัพเรือ ขอชี้แจงว่า ขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของยุทโธปกรณ์ (TOR) สำหรับ โครงการจัดหาอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ประจำฐานบินชายฝั่ง ไม่มีการระบุว่า เป็นการจัดหา UAV จากประเทศใดประเทศหนึ่ง โดยในขั้นรายงานขอซื้อได้กำหนดให้เป็นการจัดหาโดยวิธีคัดเลือก และต่อมา กองทัพเรือโดยคณะกรรมการซื้อ ได้มีหนังสือเชิญชวนไปถึงบริษัทผู้ผลิตในต่างประเทศ ที่มีคุณสมบัติถูกต้อง ตรงตามความต้องการทางด้านยุทธการของกองทัพเรือ จำนวน 5 บริษัท ( จาก 4 ประเทศประกอบด้วย สหรัฐฯ อิสราเอล ตุรกี และจีน) ให้เข้ามายื่นข้อเสนอ และเปิดให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเสนอขออนุมัติจัดซื้อจากกระทรวงกลาโหม

2. กรณีข้อสงสัยว่ากองทัพเรือ ไม่เลือกซื้อของดี ทำไมต้องเลือก UAV จากประเทศอิสราเอล ซึ่งไม่มีกองทัพเรือประเทศไหนซื้อมาใช้งาน และมีสถิติการตกบ่อยมาก กองทัพเรือ ขอเรียนให้ทราบว่า การจัดหา UAV ในครั้งนี้ ได้ยึดและถือปฎิบัติตาม พ.ร.บ การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 โดยคณะกรรมการจัดซื้อได้พิจารณาคัดเลือกข้อเสนอ และประเมินคะแนนตามคุณสมบัติที่ได้กำหนดไว้ใน TOR อย่างครบถ้วน และต่อคำถามที่กล่าวว่า เป็น UAV ที่มีสถิติการตกบ่อยมากนั้น จากการสืบค้นข้อมูลแล้วทราบว่า ข้อมูลที่นำมากล่าวอ้าง เป็นอากาศยานไร้คนขับ แบบ Hermes 900 HFE (High Fuel Engine) รุ่น Star Liner ของบริษัท ELBIT รัฐอิสราเอล ซึ่งพัฒนาและปรับปรุงมาจากแบบพื้นฐานของ Hermes 900 เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการด้านยุทธการของกองทัพบกประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และสาเหตุของการตกก็ระบุไว้ชัดเจนว่า เกิดขึ้นระหว่างการทดสอบการบินด้วยความเร็วสูง (High Speed Maneuver) จนทำให้โครงสร้างมีการสั่นที่รุนแรง ซึ่งทำให้ส่วนหางเครื่องหลุดจากลำตัว และทำให้ควบคุมเครื่องไม่ได้และตกลงสู่พื้นในที่สุด ซึ่งไม่ได้เกิดจากปัญหาของเครื่องยนต์แต่ประการใด

3. ประเด็นที่กล่าวว่า กองทัพเรือจัดซื้อ UAV ( HERMES 900 ) ที่มีประวัติกานตกบ่อย และราคาแพงกว่า ที่ กองทัพอากาศฟิลิปปินส์ (ทอ.ฟป.) จัดซื้อ (ทอ.ฟป. จัดซื้อที่ราคาลําละ 340 ล้านบาท ในขณะที่ ทร. จัดซื้อ ลําละ 1,340 ล้านบาท)

3.1 ข้อเท็จจริงคือ ทอ. ฟิลิปปินส์ จัดซื้อระบบ UAV มูลค่า 175,000,000.- USD หรือประมําณ 5,950 ล้านบาท ประกอบด้วย UAV 2 แบบ คือ HERMAES 450 จํานวน 3 ลํา และ HERMES 900 จํานวน 9 ลํา
หากแยกเฉพาะ HERMES 900 จํานวน 9 ลํา จะเป็นมูลค่า 160,000,000.- USD (5,440 ล้านบาท) ราคาระบบละ 17.77 ล้านเหรียญ (604 ล้านบาท /ลํา) ส่วนกองทัพเรือไทย จัดซื้อระบบ UAV จํานวน 7 ลํา 120,000,000.- USD หรือประมาณ 4,004 ล้านบาท ราคาระบบล ะ 1 7. 14 ล้านเหรียญ (5 82 .8 ล้านบาท / ลํา) หํากเปรียบเทียบเฉพาะอุปกรณ์มาตรฐาน UAV ของ ทร.ไทย ราคาเพียงลําละ 15 ล้านเหรียญ (499 ล้านบาท)

3.2 ทอ.ฟิลิปปินส์ และ ทร.ไทย จัดหาระบบ UAV ซึ่งมีอุปกรณ์ประกอบชุด และ ความต้องการด้านยุทธการ แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง หากเปรียบเทียบเฉพาะอุปรณ์มาตรฐาน ท่ีท้ัง 2 ประเทศ มีเหมือนกัน ทร.ไทย ซื้อระบบ UAV ได้ในราคาที่ถูกกว่า และ ได้อุปกรณ์มากกว่า

3.3 ราคาระบบ UAV ของ ทอ.ฟิลิปปินส์ และ ทร.ไทย เป็นราคํไม่รวมระบบอําวุธ แต่ของ ทร.ไทย มีการติดตั้ง Hardware และ Software ในอุปกรณ์ทั้งหมด เพื่อรองรับการติดตั้งระบบอาวุธในอนาคต

ส่วนกรณีที่มีการตกของ UAV ของ ทอ.ฟิลิปปินส์ นั้นเป็นการตกขณะการบินทดสอบ ซึ่งเป็นเรื่องปกติทั่วไปซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามได้ที่ https://dronewars.net/drone-crash-database/

4. การกล่าวหาที่ว่ากองทัพเรือ เลือกแต่ UAV ของบริษัท จันทร์เกษมอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดนั้น กองทัพเรือ ขอเรียนให้ทราบว่า ขอบเขตของงาน (TOR) สำหรับโครงการนี้ตามที่ได้นำเรียนไปแล้วนั้น ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ ที่เป็นบริษัทผู้ผลิตในต่างประเทศ ไว้หลายประการโดยสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

1.ต้องเป็นนิติบุคคลที่เป็นผู้ผลิตหรือผู้แทนจำหน่าย หรือเป็นหน่วยงานหรือเป็นองค์กรของรัฐบาลที่มีอาชีพรับจ้างผลิตหรือจำหน่ายอากาศยานไร้คนขับพร้อมส่วนสนับสนุนและการบริการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสามารให้การฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่กำลังพลที่จะต้องใช้งานอากาศยานไร้คนขับได้

2.ต้องมีผลงานผลิตหรือจำหน่ายอากาศยานไร้คนขับให้กับกองทัพของประเทศผู้ผลิตหรือกองทัพของชาติอื่นมาแล้ว

3.ต้องเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์และ/หรือทรัพย์สินทางปัญญา และ/หรือมีสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญานั้นทั้งในส่วนของการออกแบบ พัฒนา และปรับปรุงโดยผู้อื่น และ/หรือร่วมกับผู้อื่น รวมทั้งเงื่อนไขอื่นในการนำส่วนสนับสนุนและการบริการที่เกี่ยวข้องของเจ้าของลิขสิทธิ์ไปใช้งานกับบุคคลที่สาม

ดังนั้นผู้ได้รับการคัดเลือกสำหรับโครงการนี้ ซึ่งจะมาเป็นคู่สัญญากับกองทัพเรือนั้น ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเสนอขออนุมัติจัดซื้อจากกระทรวงกลาโหม

5. ข้อสงสัยที่ว่า กองทัพเรือ จะรับประกันได้อย่างไรว่า การดำเนินโครงการนี้จะประสบความสำเร็จไม่เหมือนโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ขอเรียนว่าการดำเนินโครงการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือทุกโครงการ ได้ยึดและถือปฎิบัติตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 กฎกระทรวง คำสั่งมติ ครม. และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ผ่านมาทุกโครงการของกองทัพเรือ ประสบความสำเร็จและบรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยในส่วนของโครงการจัดหา UAV ประจำฐานบินชายฝั่งในครั้งนี้ ได้ถูกคัดเลือกเข้าร่วมการจัดทำข้อตกลงคุณธรรม ประจำปีงบประมาณ2565

โดยในทุกขั้นตอนของกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง คณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต (คณะกรรมการ ค.ป.ท.) ได้จัดให้มีผู้สังเกตการณ์จากองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นแห่งประเทศ ซึ่งถือเป็นตัวแทนของภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมและสังเกตการณ์ในทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดโครงการ ซึ่งคณะผู้สังเกตการณ์ ได้มีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะในระหว่างการดำเนินโครงการมาโดยตลอด ทั้งนี้ก็เพื่อให้การดำเนินโครงการ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เกิดความคุ้มค่าต่อการใช้จ่ายงบประมาณ ดังนั้น จากการมีส่วนร่วมดังกล่าว กองทัพเรือ จึงมั่นใจว่าโครงการฯ จะประสบความสำเร็จและบรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการในที่สุด

6. UAV ที่ ทร. จะจัดซื้อมีราคาแพงมาก แตกต่างจากการจัดซื้อภายในประเทศกับ สทป. ซึ่งส่อให้เห็นว่า หากการจัดซื้อเป็นไปตามแผนงานที่ ทร. กำหนด จะมีเงินทอน 1,000 ล้านบาท ในข้อนี้ กองทัพเรือขอชี้แจงว่าการจัดหาระบบอากาศยานไร้คนขับประจำฐานบินชายฝั่งของกองทัพเรือในการปฏิบัติการ เพื่อรักษาสิทธิและอำนาจอธิปไตยเหนืออาณาเขตทางทะเลของไทยและคุ้มครองเส้นทางคมนาคม ทางทะเลเข้า-ออกประเทศไทยให้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยใช้ในการตรวจการณ์พื้นน้ำ พิสูจน์ทราบ ชี้เป้าพ้นระยะขอบฟ้า รวมทั้งช่วยเหลือในการป้องกันและปราบปราม การกระทำผิดกฎหมายทางทะเล การบรรเทาสาธาณภัยทางทะเลและชายฝั่ง ตลอดจนสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล

ดังนั้นเพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงต้องใช้อากาศยานที่มีประสิทธิภาพสูงเช่น เพดานบิน (Ceiling) ไม่น้อยกว่า 25,000 ฟุต  ความเร็วสูงสุด (Maximum Speed) ไม่น้อยกว่า 100 นอต  ระยะเวลาปฏิบัติการบินต่อเนื่อง (Endurance) ไม่น้อยกว่า 20 ชั่วโมง  มีการใช้งานที่ผ่านการยอมรับการใช้งานมาแล้วเป็นอย่างดีโดยต้องมีชั่วโมงการใช้งานไม่น้อยกว่า 10,000 ชั่วโมง และจะต้องมีใช้งานในประเทศผู้ผลิต  ซึ่งจากการสืบค้นข้อมูลพบว่าการวิจัยและพัฒนาหรือการผลิตอากาศยานไร้คนขับภายในประเทศไทยในปัจจุบัน ยังไม่มีหน่วยงานใดหรือผู้ประกอบการรายใด มีผลิตภัณฑ์ที่มีขีดความสามารถตอบสนองกับภารกิจของกองทัพเรือได้ ซึ่งการพัฒนาและการผลิต UAV จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการวิจัยและพัฒนาอีกหลายปี ทั้งนี้โครงการที่มี ส.ส.ผู้ทรงเกียรติกล่าวว่า องค์กรในไทย สามารถผลิต UAV ขนาดกลาง (MALE UAV: Medium Attitude Lonng Endurance) โดยใช้เทคโนโลยีในประเทศไทยนั้น จากการสืบค้นข้อมูลทราบว่า โครงการดังกล่าว ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา และต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศเป็นหลัก รวมทั้งโครงการพัฒนา UAV ดังกล่าว มีขีดความสามารถที่ต่ำกว่าและไม่สามารถรองรับความต้องการทางยุทธการที่กองทัพเรือต้องการได้

โฆษกกองทัพเรือ ยืนยันว่า กองทัพเรือยังคงเดินหน้าพัฒนากองทัพเรือให้มีความทันสมัย เข็มแข็ง สามารถปฎิบัติภารกิจในการปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เพื่อสร้างความมั่นคง ปลอดภัยให้กับประชาชนและประเทศชาติ โดยคำนึงถึงการใช้งบประมาณให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด โปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของพลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า