SHARE

คัดลอกแล้ว

รมว.ดีอีเอส แจง เตรียมแก้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพิ่มอำนาจจัดการสิ่งผิดกฎหมายทางอินเตอร์เน็ต ชี้ ‘คริปโต’ ทำให้ติดตามเงินคืนยาก ย้ำความจำเป็นต้องมี ‘ซิงเกิ้ลเกตเวย์’ ควบคุมการใช้อินเตอร์เน็ต การส่งข้อมูลข่าวสารในประเทศให้ปลอดภัย

วันที่ 18 ก.พ. 2565 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (รมว.ดีอีเอส) ชี้แจงกรณีมี ส.ส. หลายคนอภิปรายปัญหาหลอกลวงฉ้อโกงทางออนไลน์ว่า รัฐบาลทำเรื่องนี้มาตลอด ซึ่งปัญหานี้ที่แพร่หลาย เพราะปัจจุบันทางรัฐบาลได้ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงอินเตอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชนมีอินเตอร์เน็ตใช้ ประชาชนมีสมาร์ทโฟน มีโทรศัพท์มือถือกว่าร้อยล้านเครื่อง มีการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตกันกว่า 70% ทำให้มิจฉาชีพใช้ช่องว่างที่มีประชาชนมีช่องทางติดต่อสื่อสารกันสะดวกสบายเข้ามาหลอกลวงต้มตุ๋น โดยเฉพาะปัจจุบันระบบการสื่อสารของเราเป็นระบบเปิด เราเดินกันมาแบบนี้ ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ ติดต่อสื่อสารให้ข้อมูลระหว่างกันมิจฉาชีพก็ใช้ช่องทางนี้เข้ามาติดต่อประชาชน

ใช้ความโลภ ความยากได้ หรือบางทีก็ใช้ความหวาดกลัว มาข่มขู่หลอกลวงพี่น้องประชาชน ซึ่งทางรัฐบาลก็ทำงานหนักนะครับโดยเฉพาะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจวันนี้เราได้ดำเนินคดีไปหลายพันคดี 3,000-4,000 คดีในช่วงปีที่ผ่านมา มีการเข้าไปประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน ทลายแก๊งคอลเซนเตอร์ที่อยู่ที่ประเทศกัมพูชา เพราะถ้าเขาตั้งในประเทศไทยเข้าอยู่ไม่ได้แน่นอน ดำเนินคดีได้ทันที แต่การไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านเป็นข้อจำกัดในการเข้าไปจับกุมต้องใช้เวลาประสานกับรัฐบาลประเทศกัมพูชา ต้องขอบคุณประเทศเพื่อนบ้านซึ่งให้ความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่กัมพูชามาช่วยจับกุมดำเนินคดีและส่งผู้กระทำผิดกลับมาดำเนินคดีมาลงโทษในเมืองไทย

สิ่งที่ได้ทำอีกเรื่องในการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน คือ แก้กฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อยู่ระหว่างศึกษาจะเร่งเข้าสู่สภา เพราะวันนี้อำนาจรัฐบาลในการปิดกั้นข้อมูลหรือเว็บไซต์สิ่งที่ผิดกฎหมายในระบบออนไลน์ยังทำได้ช้า ยังทำได้ไม่เต็มที่ ซึ่งนี่เป็นข้อจำกัด ที่เราเห็นว่ามีการใช้อินเตอร์เน็ต มีการโทรเข้ามาผ่านระบบอินเตอร์เน็ต หรือมีเว็บไซต์ต่างๆ เข้ามาหลอกลวงพี่น้องประชาชนหรือทำผิดกฎหมายอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ยอมรับว่าอำนาจของรัฐยังดำเนินการไม่ได้เต็มที่ รวมถึงการตามเอาเงินคืน เป็นเรื่องใหญ่มาก ตนสงสารประชาชนมาก บางคนโดนไปล้านบาท เขาก็อยากได้เงินคืนเราพยายามตรวจสอบเส้นทางการเงินไป ก็ไปเจอบัญชีปลอมที่เรียกว่า บัญชีม้า บัญชีที่มิจฉาชีพให้ชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องเปิดบัญชีให้ เมื่อโอนเงินเข้าบัญชีม้า ไม่เกิน 5 นาที เงินถูกโอนเงินไปอีก 3-4 ทอด ออกไปนอกประเทศแล้ว

ยิ่งปัจจุบันมี คริปโตเคอร์เรนซี (cryptocurrency) หรือ บิทคอยด์ (Bitcoin) “คริปโตเคอร์เรนซี” นี่ก็เป็นช่องทางหนึ่งที่เห็นหายไปจากระบบได้อย่างรวดเร็วเขาเปลี่ยนจากเงินบาทเป็นเงินในดิจิทัล ออกไปนอกประเทศเลย ตรวจสอบเส้นทางการเงินยากมาก ดังนั้นวันนี้การติดตามเงินคืนจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งรัฐบาลจะต้องปรับปรุงกฎหมาย ในเรื่องบัญชีม้า ในเรื่องคริปโตเคอร์เรนซี ที่เกี่ยวกับการฟอกเงิน ซึ่งจะมีกฎหมายนี้เข้ามาแน่นอน ในเร็วๆ นี้น ก็ขอความร่วมมือจากเพื่อนสมาชิกให้ความเห็นชอบด้วยต่อไป

สุดท้ายที่เป็นเรื่องที่รัฐบาลกำลังศึกษาอยู่ เป็นที่เรื่องท้าทายมากคือ เป็นเรื่องที่เราจะควบคุมการใช้อินเตอร์เน็ต การส่งข้อมูลข่าวสารในประเทศให้ปลอดภัยให้เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง เราพูดกันครับถึงเรื่อง single gateway (ซิงเกิ้ลเกตเวย์) เพราะถ้าไม่มีสิ่งนี้รัฐบาลก็คุมไม่ได้ พอเป็นระบบเปิดทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการส่งข้อมูลข่าวสาร รวมถึงคนร้าย ก็ใช่เป็นช่องทางในการทำร้ายประชาชน เป็นเรื่องที่ท้าทายมากซึ่งรัฐบาลกำลังศึกษาอยู่คือ ซิงเกิ้ลเกตเวย์ ซึ่งหลายประเทศก็นำระบบนี้มาใช้ และแก้ปัญหาอาชญากรรมแก้ปัญหาสิ่งผิดกฎหมายในประเทศได้อย่างชัดเจนและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
“ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่านที่ได้พูดการฉ้อโกงหลอกลวงพี่น้องประชาชนออนไลน์ ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องสำคัญเตือนให้ความรู้พี่น้องประชาชนรับรู้ว่ามีสิ่งที่ผิดปกติในโลกออนไลน์ จะเชื่อคนที่หลอกเป็นตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ ผ่านไลน์ ผ่านเฟซบุ๊ก ตัวปลอมทั้งนั้นแหละครับ พวกเราต้องช่วยกันพูดครับ ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรหาประชาชนเพื่อข่มขู่ในโอนเงินมาให้ ให้โอนเงินมาตรวจสอบไม่มีหรอกครับ ถ้าท่านมีความผิดตำรวจเขาจับเลยครับ เขาอายัดทรัพย์ เขาไม่มาโทรหาหรอกครับ ที่โทรมานี่หลอกหลวงทั้งนั้น คือคนร้าย สิ่งต่างๆ เหล่านี้เราต้องช่วยกันพูด ให้พี่น้องประชาชนมีภูมิต้านทาน เพราะวันนี้ประชาชนหลายคน เป็นเหยื่อของอาชญากรรมเหล่านี้” นายชัยวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า