SHARE

คัดลอกแล้ว

‘ไครียะห์’ พร้อมลูกหลานทะเลจะนะ อ่านแถลงการณ์ยืนยันภารกิจใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน ย้ำไม่ว่าจะถูกจับอีกกี่รอบ ก็จะกลับมาเรียกร้องที่หน้าทำเนียบเช่นเดิม

วันที่ 7 ธ.ค. 2564 น.ส.ไครียะห์ ระหมันยะ หรือ ลูกสาวแห่งทะเลจะนะ พร้อมด้วยเยาวชนลูกหลานจะนะกว่า 10 คน ที่เป็นลูกหลานของผู้ชุมนุมที่ถูกเจ้าหน้าตำรวจจับกุมไปเมื่อคืนวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา จากบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เดินทางมาอ่านแถลงการณ์ระบุว่า

จากกรณีที่พี่น้องประชาชนได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อบอกรัฐบาลให้หยุดคุกคามแผ่นดินของคนจะนะด้วยการสร้างนิคมอุตสาหกรรม แต่วันนี้เพียงเพื่อประจบเอาใจนายทุน ใช้กำลังอำนาจทั้งหมดที่มีของรัฐเอาแผ่นดินของประชาชนไปประเคนนายทุนเพียง 2 บริษัทจำนวนเกือบ 20,000 ไร่

สิ่งที่เราไม่เคยเห็นวันนี้ก็ได้เห็นแล้วว่ากลุ่มคนที่อยู่ ในอำนาจรัฐขณะนี้ เข้ามาเพียงเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ให้กับกลุ่มตัวเอง เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญว่า ถ้าแผ่นดินของประเทศนี้จะรอด เป็นหน้าที่ของประชาชนผู้ปกป้อง รัฐไว้วางใจไม่ได้

คนจะนะมาทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน แต่คนที่ถืออำนาจรัฐทำหน้าที่ปกป้องกลุ่มทุน เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้ปกป้องกลุ่มทุนจึงทุบทำลายผู้ปกป้องแผ่นดิน นี่คือวาระของประเทศไทยตอนนี้ และหากประชาชนไม่ลุกขึ้นมาปกป้องแผ่นดิน หลายพื้นที่จะถูกอำนาจรัฐทุบทำลาย ภารกิจนี้ได้ใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน ด้วยการยืนหยัดว่าหากไม่ได้รับคำตอบการยุตินิคมอุตสาหกรรมจะนะ เราจะไม่ไปไหน ไม่ว่าจะถูกทุบทำลายจากกลุ่มอำนาจสักกี่ครั้งก็ตาม ถูกจับอีกกี่รอบก็ตาม เราจะกลับมายังทำเนียบรัฐบาลเหมือนเดิม เราขอยืนยันว่า ครั้งนี้ใช้ชีวิตเป็นเดิมพันด้วยการยืนหยัดจนถึงที่สุด

พี่น้องภาคีเครือข่ายในภาคใต้และภาคอื่น ๆ ถึงเวลาที่เราจะต้องลุกขึ้นมาแสดงตัวในฐานะผู้ปกป้องแผ่นดิน การที่คนจะนะถูกกลุ่มอำนาจในรัฐบาลทุบทำลายเมื่อคืนเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า รัฐบาลเลือกที่จะปกป้องกลุ่มผลประโยชน์แทนประชาชนเจ้าของแผ่นดิน ขอทุกท่านจงร่วมกันทั้งที่จะขึ้นมายังทำเนียบรัฐบาลและการปฏิบัติการในพื้นที่ โดยในฐานะตัวแทนพี่น้องจะนะ ขอขอบคุณทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ที่ช่วยกันปกป้องแผ่นดินของประชาชน เราเชื่อว่าผู้ปกป้องต้องชนะ ผู้ทำลายแผ่นดินปกป้องกลุ่มทุนจะต้องพบกับวิบัติ เราจะยืนหยัดต่อไปจนถึงที่สุด

น.ส.ไครียะห์ เปิดเผยว่า ปัญหานิคมอุตสาหกรรมจะนะ เป็นวาระของประเทศที่ประชาชนต้องลุกขึ้นมาปกป้องแผ่นดินตนเอง ซึ่งหากรัฐบาลยังไม่ทำตามสัญญา เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นก็จะไม่ไปไหน ไม่ว่าจะถูกจับอีกกี่รอบก็จะกลับมาเรียกร้องที่หน้าทำเนียบเช่นเดิม ส่วนหลังจากนี้จะยกระดับการเคลื่อนไหว หรือมีมวลชนมาสมทบเพิ่มเติมหรือไม่ ขอปรึกษากับเครือข่ายทางภาคใต้ก่อน เรามาเรียกร้องเพื่อปกป้องพื้นที่ แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจ ส่วนเด็ก ๆ ที่เหลืออยู่ขณะนี้เป็นลูกหลานของชาวจะนะ 36 คนที่ถูกคุมตัวไปเมื่อคืน

น.ส.ไครียะห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ยังทราบว่าขณะนี้ มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมไป แต่มีการให้ข้อเสนอไม่ดำเนินคดีแลกกับการหยุดเคลื่อนไหว ซึ่งผู้ที่ถูกจับกุมไม่ยอม และยืนยันว่าคดีเพียงแค่นี้ ไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของพวกเราได้

เมื่อถามว่า ข้อเสนอดังกล่าวมาจากใคร น.ส.ไครียะห์ กล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียด เพียงแต่ทราบจากคำบอกเล่าของผู้ถูกจับกุมเท่านั้นว่า มีการยื่นข้อเสนอให้ ตอนนี้เหลือแค่ตนและน้องๆ เราทราบจากผู้ที่ถูกจับที่ระบุว่าเขาจะมาเจรจาไม่ดำเนินคดี แต่แลกกับการไม่เรียกร้องเรื่องนิคมอุตสาหกรรมจะนะอีกต่อไป แต่พี่น้องทุกคนไม่ยอมรับ และพร้อมที่จะสู้คดี ยืนยันว่าถ้าออกจากการถูกคุมขังไปได้จะมาหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องต่อไปอีก จนกว่าข้อเรียกร้องจะบรรลุ เพราะคดีแค่นี้ทำลายความตั้งใจของพวกเราไม่ได้ เราพร้อมจะเอาชีวิตเข้าแลก

เมื่อถามว่ากรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เคยลงนามเอ็มโอยูให้มีการศึกษาโครงการอีกครั้ง แต่ขณะนี้ ร.อ.ธรรมนัสพ้นจากตำแหน่งแล้ว กังวลว่าจะมีผลกับเอ็มโอยูที่ทำไว้หรือไม่ น.ส.ไครียะห์กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัสเป็นผู้ลงนาม แต่เอ็มโอยูดังกล่าวเป็นการลงนามของรัฐบาล ไม่ใช่ตัวบุคคล จึงต้องดำเนินการต่อเนื่อง แต่ตอนนี้เหมือนรัฐบาลดำเนินการแบบมั่วกันไปหมด

“ปีที่แล้วเราได้ทำเอ็มโอยูไว้กับ ร.อ.ธรรมนัสก็จริง แต่ในสัญญานี้เราทำร่วมกับรัฐบาล ไม่ได้ทำโดยบุคคล ทุกอย่างยังเป็นเหมือนเดิม รัฐบาลเซ็นมั่วกันไปหมด เซ็นไปแล้วเซ็นทิ้งๆ ขว้างๆ โดยไม่รับผิดชอบอะไรสักอย่างเลยตอนนี้ พวกเราจะสู้จนกว่าจะมีการยุติโครงการอุตสาหกรรมนิคมจะนะ และทำตามข้อเรียกร้องที่ได้ทำกันไว้เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว” น.ส.ไครียะห์กล่าว

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า