‘ประชัย’ ผู้บริหาร TPIPP เคลื่อนไหว กรณีเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น
นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานกรรมการบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Prachai Leophairatana ในวันที่ 12 ธ.ค. 2564 กรณีความเคลื่อนไหวของเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น โดยมีข้อความระบุว่า
“ผมขออธิบายเหตุการณ์การคัดค้านการจัดตั้งสวนอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่จะนะสงขลาของกลุ่มเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ที่อ้างตัวเป็นคนจะนะ เจ้าทะเล จะนะรักทะเล จะนะที่มาตั้งแคมป์อยู่หน้าทำเนียบและหน้ายูเอ็นให้สื่อมวลชนและประชาชนผู้รักความเป็นธรรมทุกฝ่ายที่รักประชาธิปไตยได้ทราบความจริง
ขอเริ่มต้นจาก สวนกงสงขลา ซึ่งเป็นที่ชายหาดสวยงามติดทะเล ซึ่งรัฐบาลจัดให้ประชาชนเข้าไปใช้เป็นแหล่งสันทนาการสำหรับเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนตากอากาศเล่นน้ำทะเลกัน แต่ว่ามีกลุ่มนักเลงหัวไม้ อ้างตัวเป็นเจ้าพ่อทะเลเข้าไปยึดทำการสร้างบ้านเรือนเป็นหมู่บ้านที่อยู่อาศัยอย่างผิดกฎหมาย โดยที่รัฐบาลไม่ได้สนใจที่จะยึดที่คืน ซึ่งเราก็เห็นใจเขา เพราะเขาไม่มีรายได้ที่แน่นอน บางวันก็จับปลามาได้หลายร้อยบาทต่อวัน บางวันก็ไม่ได้ปลา เพราะฉะนั้นใครที่เขารู้จัก จะจ้างคนพวกนี้ให้ทำอะไรก็ได้ พวกเขาถือว่าเขามีสิทธิอยู่เหนือประชาชนพลเมืองกลุ่มอื่นชาวบ้านทั่วไปไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปใช้สถานที่นี้
นอกจากได้รับอนุญาตจากพวกเขาก่อนเท่านั้นทำให้เขาเลยเข้าใจว่า เขามีอภิสิทธิ์เหนือคนทั้งประเทศอย่างน้อยก็ชาวจะนะคนอื่นหมดทุกคน คิดอยากจะให้คนอื่นทำอะไรก็ได้ หรือคิดห้ามไม่ให้คนอื่นทำอะไรในที่ของคนอื่นซึ่งมีสิทธิ์ในที่ของตนเอง 100% ก็ได้ โดยไม่เคารพสิทธิ์ของคนอื่นเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วก็อ้างประชาธิปไตยตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ขณะนี้ในวันที่ 13 ธันวาคม จะมีการทำประชาพิจารณ์ฟังความเห็นของประชาชนชาวจะนะตามวิถีทางของประชาธิปไตยว่า ประชาชนชาวจะนะส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับการจัดตั้งสวนอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต และท่าเรือน้ำลึกที่จะนะในพื้นที่ที่ดินของเจ้าของโครงการ โดยไม่ได้ไปยึดเอาสวนกงมาเป็นท่าเรือน้ำลึกอย่างที่กลุ่มนี้กล่าวหา
แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ไปทำประชาพิจารณ์ แต่เลือกที่จะมารวมกลุ่มตั้งแคมป์ที่หน้าทำเนียบและที่หน้า Un โดยยึดพื้นที่สาธารณะเป็นที่อยู่อาศัย โดยไม่เคารพตัวบทกฎหมายและสิทธิของคนอื่นคัดค้านการทำสวนอุตสาหกรรมในที่ดินของเจ้าของโครงการ เพราะเขาถือว่าเขาเป็นอภิสิทธิ์ชนแล้วจะให้คนอื่นต้องเคารพคำสั่งของเขาเท่านั้น แม้แต่รัฐบาลซึ่งได้รับเลือกตั้งมาโดยเสียงข้างมากของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ให้รับฟังคำสั่งคัดค้านการจัดตั้งสวนอุตสาหกรรมในที่ส่วนตัว เพื่อสร้างงานและนำความเจริญมาสู่ดินแดน 4 จังหวัดภาคใต้ เพื่อความมั่นคงของด้ามขวานทองอันเป็นที่รักของเรา
การกระทำของอันธพาลกลุ่มนี้ไม่ใช่วิถีของประชาธิปไตย แต่เป็นเรื่องของอนาธิปไตยหรืออันธพาลธิปไตย ทั้งยังมีเจตนาบ่อนทำลายความสงบสุขของชาวบ้านและความมั่นคงของประเทศอันเป็นที่รักของพวกเรา ถ้าเขายังอ้างประชาธิปไตยประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ก็ต้องขอให้เขากลับไปจะนะใช้สิทธิของเขาในกระบวนการประชาพิจารณ์ทึ่มีตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่มาทำตัวเป็นอันธพาลใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย”