ครอบครัวเด็กหญิงที่เสียชีวิตในรถตู้โรงเรียน ที่ จ.ชลบุรี ร้อง ยธ.ขอช่วยพิสูจน์ข้อเท็จจริง หลังกังวลและมีข้อสงสัยในหลายเรื่อง
น.ส.เมทิกา แม่ของน้องจีฮุน พร้อมพ่อ และป้าของน้องจีฮุน และทนายได้เดินทางมาร้องต่อกระทรวงยุติธรรม โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับเรื่อง
โดยแม่ ระบุว่า ยังมีข้อสงสัยและกังวล เรื่องผลพิสูจน์หลักฐานบนรถตู้ ที่ยังไม่มีการส่งให้แม่ และสงสัยท่าท่างการเสียชีวิตที่อร่ยบร้อยเกินไป ไม่มีคราบน้ำลาย น้ำตา หรือครายปัสสาวะ ในการดิ้นรนหาทางออก รวมถึงระยะทางจากล้านถึงโรงเรียน ห่างเพียง 15 นาที เด็กไม่น่าจะหลับลึก และน้องขึ้นรถมาตั้งแต่ช่วงต้นปี และนั่งติดประตู ยืนยันว่าสอนวิธีการเปิดประตูแล้ว น้องเปิดเป็นและมีแรงอยากให้ทางกระทรวงยุติธรรมตรวจสอบสาเหตุการตายที่แท้จริง ทั้งนี้ ยืนยันว่า ทางครอบครัวจะเก็บศพไว้เพื่อรอตรวจพิสูจน์อีกรอบและร้องขอความเป็นธรรมก่อน
นอกจากนี้ ชุดพิสูจน์หลักฐานรายงานผลตรวจร่างกายน้องจีฮุน พบมีรอยฟกช้ำบริเวณแขนซ้ายและขา ซึ่งก็ยังอยู่ในข้อสันนิษฐาน และอาจเป็นไปได้ว่าจะกระแทกกับรถขณะที่ดิ้นรนหาทางออก (แม่ยืนยัน ตอนเช้าช่วงอาบน้ำให้น้องแม่ยังไม่พบรอยบนตัวน้อง ขณะนี้ก็รู้สึกสบายใจขึ้น และให้เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม และกฎหมาย
ขณะที่ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต กล่าวว่า หลังได้รับมอบหมายจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของน้อง โดยเบื้องต้น ได้ประสานให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม ร่วมตรวจสอบ และพร้อมประสานหน่วยงานให้เข้ามาช่วยเหลือเยียวยา ซึ่งนิติวิทยาศาสตร์ จะตรวจสอบเหตุการเสียชีวิต ว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจหรือการฆาตกรรม ทั้งนี้ ยังไม่ได้ตรวจพิสูจน์ซ้ำรอบสอง เนื่องจากการตรวจพิสูจน์ศพต้องใช้เวลา 40 วัน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ รพ.ตำรวจ หลังจากนั้น ทางนิติวิทยาศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรมจะตรวจสอบต่อ ว่าผลการดำเนินการครบถ้วนหรือไม่ โดยจะรายงานผลตามข้อเท็จจริง หากทางครอบครัวยังมีความสงสัยในประเด็นดังกล่าว ก็จะยื่นคำร้องให้ผ่าพิสูจน์ครั้งที่ 2 ต่อไป
ส่วนการตรวจสภาพ ภายในของรถ เช่นลายนิ้วมือแฝง ก็จะตรวจสอบว่ามีร่องรอยหรือคราบติดอยู่ภายในรถ สำหรับการแจ้งข้อกล่าวหา ครูขับรถ หรือครูพี่เลี้ยง และคนที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากเป็นการกระทำโดยประมาท จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป รวมถึงเจ้าของโรงเรียน หรือเจ้าของกิจการ ต้องมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้ ทั้งนี้จะมีการจัดหาทนายความเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาการเสียชีวิตไม่เกิน สูงสุด 110,000 บาท โดยจะส่งต่อเรื่องให้ กรมคุ้มครองจังหวัด ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลต่อไป
ขณะที่ในช่วงบ่าย พ่อแม่ และครอบครัว “น้องจีฮุน” ได้เดินทางไปทำเรื่องเคลื่อนย้ายร่าง จากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ไปที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยก่อนหน้านี้ มีการหารือกันภายในครอบครัว ว่าจะฉีดฟอร์มาลีนให้กับลูกสาวหรือไม่ เนื่องจากกังวลจะมีผลกับการตรวจเลือด ซึ่งเจ้าหน้าที่มีความเห็นว่าสามารถฉีดได้ เบื้องต้น จะยังเก็บศพไว้ 15 วันก่อน ยังไม่ทำพิธีฌาปนกิจจนกว่าจะได้รับความชัดเจนในประเด็นที่สงสัย