‘ชวน’ คาดยุบสภาฯ ก่อนวันที่ 23 มี.ค. 66 สัปดาห์เดียว ด้าน ‘พรเพชร’ มองใกล้เคียงกันมียุบสภาฯ แน่

‘ชวน’  คาดยุบสภาฯ ก่อนวันที่ 23 มี.ค. 66 สัปดาห์เดียว

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการยุบสภาฯ ว่า อาจจะเกิดขึ้นช่วงปลายสมัยประชุมสภาฯ หรืออาจจะให้สภาฯ อยู่จนครบ หรือยุบหลังวันที่ 28 ก.พ. 66 ถือว่าเป็นไปได้ทั้งนั้น หากฝ่ายบริหาร ประสงค์ให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน เนื่องจากอายุของสภาผู้แทนราษฎร จะสิ้นสุด วันที่ 23 มี.ค. 66 ซึ่งยังมีเวลาพอสมควร ดังนั้น มองว่าสภาฯ อาจจะอยู่ทำงาน ครบ 8 สมัย แต่จะไม่ครบเทอม ในวันที่ 23 มี.ค. 66 ซึ่งการยุบสภาฯ อาจจะเกิดก่อนเพียงสัปดาห์เดียว

ส่วนสถานการณ์การเมืองหลังปีใหม่ นายชวน ยอมรับว่า ขณะนี้ยังประเมินไม่ได้ เพราะต้องรอดูทิศทาง และความพร้อมของแต่ละพรรคการเมืองอีกครั้ง ขณะนี้มีความชัดเจนเฉพาะใครอยู่ที่ไหนเท่านั้น

‘พรเพชร’ ชี้มียุบสภาฯ แน่

ด้าน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา (ส.ว.) บอกว่า การเมืองเป็นไปตามระบบที่สภาฯ อยู่ครบวาระ อาจจะยุบสภาก่อนเพียงเล็กน้อย แต่เป็นการเมืองที่ใช้ระบบรัฐสภาและหลักนิติรัฐอย่างน่าพอใจ ไม่ใช่ว่าเลือกตั้ง 1 ปีแล้วยุบสภาฯ ประชาธิปไตยจะเดินได้ระบบเหล่านี้ต้องเดินไปได้ด้วย ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญขอให้แก้ไปตามระบบ

อย่างไรก็ตาม กฎหมายที่ผ่านไปนั้นผ่านไปได้ดี ถ้าเทียบกับที่ผ่านมาต้องพูดว่าดีมาก แต่หากพูดถึงความพึงพอใจถือว่าดีพอสมควรอย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาติดตามการพิจารณาร่างกฎหมายมาโดยตลอด แต่ไม่นานก็ยุบสภาบ้าง เกิดปฏิวัติบ้าง แต่ปัจจุบันเป็นอย่างที่เห็นถือว่าน่าพอใจ

ส่วนความเป็นอิสระของส.ว. โดยเฉพาะการโหวตเลือกนายกฯ นายพรเพชร ยืนยันว่าตนอิสระ ไม่เคยไปสั่งการใคร และว่า รู้สึกไม่พอใจที่ถูกกล่าวหาว่าลุกไปรับโทรศัพท์รับงาน ระหว่างทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมร่วมรัฐบาล ทั้งที่ความจริงลุกไปเข้าห้องน้ำเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ประธานวุฒิสภามารัฐบาลได้ขอความร่วมมืออะไรมาบ้าง นายพรเพชร กล่าวว่า ไม่มี อาจจะไม่ใช่เป็นการสั่ง แต่เมื่อกฎหมายเข้ามาแล้ว รัฐบาลจะสอบถามมาว่าจะเข้าเมื่อไหร่ เร่งได้หรือไม่ แต่การให้ ส.ว. ลงอย่างไร มีอยู่อย่างเดียว คือเรื่องรัฐธรรมนูญ แต่เขาไม่ได้มาบอกตน ตนใช้วิจารณญาณเอาเอง

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เคยต่อสายโทรศัพท์พูดคุยหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ต่อสายไม่ค่อยมี มีคุยเรื่องอื่น คุยธรรมดา แต่ พล.อ.ประวิตรท่านไม่คุยด้วย ส่วนที่ตอนนี้มีการแบ่งฝ่าย ส.ว. เป็นของพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตรนั้น เรื่องนี้มีคนประทับตราให้ ตนไม่ทราบ แต่เขาก็มีสิทธิ์ที่จะคิดเช่นนั้น เพราะ ส.ว.หลายท่านเคารพนับถือพล.อ.ประวิตร ตลอดมา อีกด้านหนึ่งก็ทำงานให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ตลอดมา ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา อย่างไรก็ตาม ตามรัฐธรรมนูญ ส.ว.ต้องวางตัวเป็นกลาง สำหรับตนวางตัวเป็นกลางอยู่แล้ว แต่ใครจะคิดอย่างไรก็คิดได้