ลูก ‘ชัช เตาปูน’ เปิดใจ ขอพ่อย้ายพรรค ซบพลังประชารัฐ ตามคำชวนของ ‘พีระพันธุ์’ ปัดเสริมทัพคานอำนาจ ‘ธรรมนัส’

ลูก ‘ชัช เตาปูน’ เปิดใจ ขอพ่อย้ายพรรค ซบพลังประชารัฐ ตามคำชวนของ ‘พีระพันธุ์’ ปัดเสริมทัพคานอำนาจ ‘ธรรมนัส’

วันที่ 8 ต.ค. 2564 นายชื่นชอบ คงอุดม กรรมการผู้ช่วยประจำกระทรวงการคลัง และแกนนำพรรคพลังท้องถิ่นไท (พทท.) ให้สัมภาษณ์กับ workpointTODAY ว่า ได้ย้ายจากพรรคพลังท้องถิ่นไท ไปเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา หลังจากได้พูดคุยกับ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐมาระยะหนึ่งแล้ว

“ทางท่านพีระพันธุ์ เมื่อก่อนถือว่า เป็นคนที่ช่วยดูแลผม ตอนสมัยผมเป็น ส.ส. สมัยหนึ่ง (สมัยสังกัดพรรคประชาธิปัตย์) ให้คำแนะนำ เหมือนเป็นพี่เป็นน้องกัน พอท่านได้มีโอกาสมาอยู่พลังประชารัฐ ก็เลยขอคุณพ่อมาช่วย”

“คุณพ่อไม่ว่าได้อะไรครับ เพราะเราแนวทางเดียวกันอยู่แล้ว คือเราปกป้องสถาบันหลักของชาติอยู่แล้ว ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คิดเหมือนกันอยู่แล้วเลยไม่มีอะไรที่ขัดกัน ก็ทำงานร่วมกันได้อยู่แล้ว”

ในส่วนของพรรคพลังท้องถิ่นไทยังดำเนินการต่อ เพราะว่า พรรคพลังท้องถิ่นไท เป็นเรื่องการกระจายอำนาจ ยังมุ่งหน้าทำงานเหมือนเดิม

สำหรับการแก้รัฐธรรมนูญที่มีเปลี่ยนกติกาอาจทำให้พรรคเล็กๆ มีโอกาสน้อยกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาได้หารือเพื่อยุบพรรคพลังท้องถิ่นไท มาสังกัดพรรคพลังประชารัฐทั้งหมดหรือไม่ นายชื่นชอบ ตอบว่า ยังไม่ได้คุยแบบนั้น ยังยืนยันทำงานเหมือนเดิมอยู่

ส่วนกระแสความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ การมาช่วยงานนายพีระพันธุ์ เหมือนคานอำนาจของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่าหรือไม่

นายชื่นชอบ ตอบว่า “คงไม่หรอกครับ จริงๆ ท่านพีระพันธุ์ควรจะมาอยู่ที่พรรคนานแล้ว เพียงแต่ท่านติดตอนเป็นประธานแก้ปัญหาหนี้ของการบินไทย ข้อกำหนดคือห้ามเป็นสมาชิกพรรคการเมือง และเรื่องแก้รัฐธรรมนูญด้วย แล้วยังมาติดสถานการณ์โควิด-19 อีก ตอนนี้จึงเป็นจังหวะได้แล้ว จึงได้เข้ามา คงไม่เกี่ยวเรื่องการคานอำนาจใคร เพราะจริงๆ ท่านประวิตรกับท่านประยุทธ์ ทั้งสองท่านถือเป็นพี่น้องที่รักใคร่กลมเกลียวกันดี เพราะท่านพีระพันธุ์ เป็นที่ปรึกษาของท่านประยุทธ์ แต่ก็มาเป็นที่ปรึกษาของหัวหน้าพรรคด้วย จริงๆ ถ้าสองท่านไม่ถูกกันคงไม่ให้ตำแหน่งนี้ ก็คือว่ามาทำงานร่วมกันครับ”  

นายชื่นชอบ กล่าวด้วยว่า ยังไม่ได้ถูกทาบทามให้เป็นโฆษกพรรค แล้วแต่ผู้ใหญ่ ทำงานไปก่อน เชื่อว่าเราทำงานดีพอ เดี๋ยวผู้ใหญ่ก็คงเห็น ให้เราทำงานมากขึ้น