‘ส.ว.กิตติศักดิ์’ จวกแรง ชี้ ‘รังสิมันต์’ วิจารณ์คนอื่นดูตัวเองบ้างเป็น ส.ส. มีหนี้กยศ.ไม่ใช้ เจอตอกกลับอัปเดตข้อมูลด้วย

วันแรกประชุมร่วมรัฐสภาถกปมตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ ‘ส.ว.กิตติศักดิ์’ จวกแรงชี้ ‘รังสิมันต์’ วิจารณ์คนอื่นดูตัวเองบ้าง เป็น ส.ส. มีหนี้กยศ.ไม่ใช้ เจอสวนกลับอัปเดตข้อมูล ใช้หนี้หมดแล้ว-ไม่เคยเบี้ยว

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล อภิปรายร่างแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 โดยช่วงหนึ่งได้กล่าวถึงประเด็นคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า ต้องมาจาก ส.ส. ที่อยู่ในรายชื่อที่แจ้งไว้ของพรรคการเมือง ที่ได้รับเลือกเข้าสภาผู้แทนราษฎร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของจำนวน ส.ส. เท่าที่มี หรือ การนำหลักคิด “นายกฯ ต้องมาจากการเลือกตั้ง” ที่เคยมีอยู่ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 กลับมาอีกครั้ง พรรคก้าวไกล สนับสนุนหลักการนี้มาโดยตลอด วันนี้จึงขอสนับสนุนให้นำประเด็นนี้ไปศึกษาต่อในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.)

อีกประเด็น ตามร่างแก้ไขฯ รัฐธรรมนูญ ของภาคประชาชน ที่เข้าชื่อกันจำนวน 64,151 คน เสนอยกเลิกบทเฉพาะกาล มาตรา 272 ในส่วนที่ให้ ส.ว. 250 คน ที่มีวาระ 5 ปี จากการคัดเลือกโดย คสช. มีอำนาจในการลงมติ เลือกนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่ง ส.ว. ชุดนี้ ยกเว้น ท่านประธาน (นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา) ที่งดออกเสียง ก็ใช้อำนาจนี้ในการยกมือโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น นายกรัฐมนตรี สืบทอดอำนาจหลังยุคคณะรัฐประหารต่อไป ตั้งแต่ มิ.ย. 2562 เป็นต้นมา

ตนขอทบทวนว่า เมื่อใดก็ตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ ส.ว. ชุดว่า มีที่มาที่ไปไม่ยึดโยงประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะออกมาแก้ต่างว่า ไม่จริง ส.ว. ชุดนี้ มีที่มาที่เลือกจากผู้สมัคร แต่ละอำเภอ แต่ละจังหวัดตั้ง 50 คน ตนฟังก็ได้แต่อุทานว่า “สุดยอดจริงๆ” ที่นำจำนวน 50 คน จาก 250 คน คือเพียง 20 เปอร์เซ็นต์มาอ้างว่า ส.ว. ชุดนี้เป็นประชาธิปไตยแล้ว ในขณะที่อีก 80 เปอร์เซนต์ คสช. “จิ้มมาเองล้วนๆ”

“ซึ่งแน่นอนครับท่านประธาน มีทั้งแก๊ง ตท.12 เพื่อน พล.อ.ประยุทธ์ 21 คน แก๊ง ตท.6 เพื่อน พล.อ.ประวิตร 5 คน รวมไปถึงเพื่อนพ้องน้องพี่ศิษย์เก่า สนช. สปท….และอีกสารพัดคณะ” ส.ส.รังสิมันต์ กล่าวตอนหนึ่ง

ทันใดนั้น นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. ได้ลุกขึ้นประท้วงการอภิปรายของ ส.ส.รังสิมันต์ และให้ถอนคำว่า “แก๊งโน้นแก๊งนี้” และได้กล่าวว่า “วิจารณ์คนอื่น ดูตัวเองบ้าง หนี้ กยศ. ยังไม่ใช้เลย สำเนียกตัวเองบ้าง และเป็น ส.ส. ที่มีคะแนนปัดเศษมา อย่าทะนงตัว ให้ถอนครับคำว่าแก๊งครับท่านประธาน”

ด้าน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ได้กล่าวว่า “คือคำว่าแก๊ง รุนแรงไปนิดนึง ท่านรังสิมันต์ โรม ส่วนท่านกิตติศักดิ์ ไม่ควรไปต่อล้อต่อเถียงเขาโดยยกประเด็นอื่นขึ้นมา… ขอว่า “เจ๊า” กันไปแล้วกัน” แต่ทางด้าน ส.ว.กิตติศักดิ์ ไม่ยอมและยืนยันว่า ส.ส.รังสิมันต์ ต้องถอนคำว่า “แก๊ง” ด้วย

ซึ่งทางนายพรเพชร พยายามไกล่เกลี่ยและระบุว่า ส.ส.รังสิมันต์ก็ไม่ต้องใช้คำนั้นแล้ว และขอให้ ส.ว. กิตติศักดิ์ ถอนคำพูดที่กล่าวหา ส.ส.รังสิมันต์ ระหว่างการประท้วงดังกล่าวทำให้การอภิปรายชะงักลงช่วงหนึ่ง ซึ่งนายพรเพชร ได้ขอให้ ส.ส.รังสิมันต์ ลดคำ พูดในข้อเท็จจริงที่ราบเรียบ ทาง ส.ว.กิตติศักดิ์ ยังไม่ยอมถอน นายพรเพชร วินิจฉัยให้ ส.ว.กิตติศักดิ์ และห้ามพูดอีก ส.ส.รังสิมันต์ ทักท้วงว่า ความจริงถ้าไม่ยอมถอน ต้องเชิญออกจากห้องประชุม แต่นายพรเพชร ย้ำคำวินิจฉัยของตนเอง และให้ ส.ส.รังสิมันต์อภิปรายต่อ

ส.ส.รังสิมันต์ จึงชี้แจงประเด็นที่ถูกพาดพิงว่า “เรื่องนี้มี 2 ประเด็น คือประเด็นที่ 1 เวลาบอกว่าไม่ชำระหนี้ หมายถึงเราเบี้ยวหนี้ ที่ผ่านมาผมไม่เคยเบี้ยวหนี้ครับท่านประธาน ก่อนหน้านี้ผมยากจนครับ และผมก็ต้องกู้เรียน ผมก็ชำระหนี้มาโดยตลอดไม่เคยผิดนัดแม้แต่ครั้งเดียว ข้อที่ 2 หลังจากผมเป็น ส.ส. มา ผมก็ชำระหนี้เพิ่มขึ้นมาโดยตลอด จนวันนี้ก็ขอให้ทุกท่านทำข้อมูลส่งต่อในกรุ๊ปไลน์ที่ท่านสังกัด ว่าวันนี้ผมไม่เหลือหนี้กยศ. แม้แต่บาทเดียวครับ ดังนั้นถ้าท่านหยิบยกเรื่องนี้มาพูดอีก ผมก็สงสารประเทศไทยจริงๆ เพราะเท่ากับว่าพวกท่านช่วยกันผลิตซ้ำเฟกนิวส์ เสียดายครับถ้าพูดกันนอกสภา ผมจะได้ไปฟ้องดำเนินคดีเผื่อว่าจะหาเงินเข้าพรรคก้าวไกล”

workpointTODAY ร่วมกับมูลนิธิฟรีดริช เนามัน ชวนร่วมกิจกรรม Thailand Talks เพื่อพูดคุยกับคนเห็นต่างในหลากหลายประเด็น ตอบคำถามด้านล่างเพื่อลงทะเบียน